Author Topic: สามีเก่า “หมออ้อย” บอกอยากแต่ง “เพี๊ยซ” ซะวันพรุ่งนี้ แฉหมออ้อยตามตื้อหนัก  (Read 2143 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



<a href="https://www.youtube.com/watch?v=4gv9tZgt5tw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=4gv9tZgt5tw</a>

สามีเก่า “หมออ้อย” บอกอยากแต่ง “เพี๊ยซ” ซะวันพรุ่งนี้ แฉหมออ้อยตามตื้อหนัก สามีเก่า “หมออ้อย” บอกอยากแต่ง “เพี๊ยซ” ซะวันพรุ่งนี้ แฉหมออ้อยตามตื้อหนัก สามีเก่า “หมออ้อย” บอกอยากแต่ง “เพี๊ยซ” ซะวันพรุ่งนี้ แฉหมออ้อยตามตื้อหนัก






       “มิกกี้” สามีเก่า “หมออ้อย” ให้แหวนวันเกิด “เพี๊ยซ” เผยแม่ตนเตรียมแหวนหมั้นไว้ให้แล้ว และเพี๊ยซก็ไปลองมาแล้ว บอกอยากแต่งซะวันพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ ก่อนซัดหมออ้อยตามตื้อหนัก จนตนต้องบอกไปว่ามีผู้หญิงคนอื่นแล้ว ไม่ต้องโทร.มาหาอีก พร้อมประกาศเตรียมแฉหมออ้อยหมดเปลือกหลังคดีจบ
      
       ก่อนหน้านี้สาวเซ็กซี่ “เพี๊ยซ กนกลดา วิชากุล” เพิ่งมีเรื่องขึ้นโรงพักไปแจ้งความ กรณีถูกมือดีโพสต์ข้อความด่าแย่ง “มิกกี้ ณัฐพงษ์ ชอบชื่น” สามี “หมออ้อย จุฑารัตน์” จนฝ่ายชายออกมาแฉว่าตนได้เลิกกับหมออ้อยผ่านสื่อ ในขณะที่หมออ้อยก็เอาคืนด้วยการออกมานั่งฉะมิกกี้กลับ ว่า อมเงินสินสอดไปกว่า 4.9 แสนบาท ทำให้แผนที่จะแต่งงานกันเป็นอันล่มกลางอากาศ จนสุดท้ายบานปลายกลายเป็นศึกน้ำลาย จบแบบไม่เผาผี
      
       ล่าสุดสาวเพี๊ยซได้จัดงานแถลงข่าวเปิดธุรกิจครีมหน้าใส ภายใต้ชื่อ “ICREAM Skin Care By Pias” ขึ้นที่ร้านโฟร์ดินเนอร์ เลียบทางด่วนรามอินทรา โดยในงานหนุ่มมิกกี้ได้ทำเซอร์ไพร์สสาวเพี๊ยซกลางงาน ด้วยการให้แหวนแทนใจ ก่อนจะควงกันออกมาสัมภาษณ์คู่อย่างอี๋อ๋อ ที่ถ้าหมออ้อยได้ฟังคงจี๊ดถึงใจ
      
       เพี๊ยซ: “ธุรกิจไอครีมสกินแคร์บายเพี๊ยซ ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายเอง ทำเอง เป็นพรีเซ็นเตอร์เอง ยังไงก็ฝากครีมไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วยนะคะ ที่คิดทำครีมก็เพราะว่าส่วนตัวเราเป็นคนรักสวยรักงามอยู่แล้วนะคะ เราเลยอยากจะมีผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเอง เพราะว่าตัวเราก็เปลี่ยนครีมมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว พอมาเจอของดีๆ เลยอยากจะแบ่งให้กับคนอื่นด้วย”
      
       มิกกี้: “ข่าวออกมาว่าผมทุ่มเงินเป็นล้านเพื่องานในครั้งนี้ อยากจะบอกเลยว่าไม่ใช่ เพราะว่าหลายล้าน แต่อยากจะบอกว่าจริงๆ ว่าไม่ใช่ เพราะว่าธุรกิจเป็นของเพี๊ยซกับพี่สาวเขา”
      
       เพี๊ยซ: “พี่เขาก็ช่วยทุกอย่างจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่มีเขาก็คงไม่มีงานวันนี้ เพราะว่าเขาช่วยตั้งแต่ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนมาเป็นงานเปิดตัวได้ค่ะ”
      
       บอกให้แหวน แค่เป็นของขวัญวันเกิด ไม่ใช่แหวนหมั้น
      
       เพี๊ยซ: “กับมิกกี้ไม่ได้เปิดตัวอะไรค่ะ ก็เป็นเหมือนว่าเขามาให้ของขวัญวันเกิด ตั้งแต่มีข่าวออกมาในช่วงแรกๆ เพี๊ยซกับพี่มิกกี้ไม่เคยปิดบังอะไร พอมาสัมภาษณ์เราก็บอกว่าเราสนิทกันตั้งแต่แรกแล้วค่ะ”
      
       มิกกี้: “ที่ให้แหวนเพราะน้องบ่นว่าไม่มีแหวนใส่ติดนิ้วนานแล้ว ก็ปรึกษากับคุณแม่ของตัวเอง และคุณแม่ของน้องด้วยว่าเราจะให้แหวนอะไรยังไงดี ถ้าถามว่านอกเหนือจากของขวัญวันเกิดไหม คงไม่ใช่ เป็นแค่ของขวัญวันเกิด”
      
       เพี๊ยซ:”ถ้าหมั้นจริงๆ แหวนต้องวงใหญ่กว่านี้(หัวเราะ)”
      
       มิกกี้: “จริงๆ แล้วถ้าเป็นแหวนหมั้นจริงๆ จะเป็นแหวนที่คุณแม่เตรียมไว้ให้แล้ว น้องก็ไปดูไปลองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในอนาคตถ้าความสัมพันธ์ของเราเป็นไปในทางที่ดีตลอดไป งานนี้ก็คงจะเกิดขึ้นแน่นอนเพราะว่ามีโอกาสพูดคุยทั้งคุณพ่อคุณแม่ของน้องแล้วครับ จริงๆ อยากแต่งซะวันพรุ่งนี้ด้วย แต่น้องเขาคงไม่ยอม”
      
       เพี๊ยซ: “ที่ยังไม่ยอมเพราะว่ายังรอความพร้อมทุกอย่างค่ะ คือธุรกิจเพิ่งเริ่มต้น ก็เลยอยากทำอะไรที่ตัวเองอยากทำให้สำเร็จทุกอย่างก่อน แล้วค่อยเริ่มสร้างครอบครัวดีกว่าค่ะ”
      
       เผยมีการพูดคุยกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงแล้ว
      
       มิกกี้: “ตอนนี้ผมก็มีโอกาสได้คุยกับคุณแม่ และมีโอกาสได้เดินทางไปมหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้อง ผมก็พาคุณแม่ไปกับคุณพ่อของน้องด้วย ถ้าถามว่าทาบทามไหม คงยังไม่ได้ทาบทาม แต่เพียงว่าพูดคุยให้ผู้ใหญ่รู้ไว้ว่าช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวด้านลบค่อนข้างที่จะเยอะ เลยอยากจะบอกให้คุณพ่อของน้องและคุณแม่ของน้องสบายใจ ว่าเราสนิทสนมกับลูกสาวของเขา ไม่ได้ที่จะมาทำลายชื่อเสียงของลูกสาวเขา ไม่ให้เขาติดร่างแหไปด้วย ซึ่งตอนแรกเราก็โดนมองติดลบนะ เพราะว่าตั้งแต่มีข่าวผมก็ไม่เคยออกมาพูดเลย ไม่เคยออกมาตอบโต้เลย”
      
       เพี๊ยซ: “คือตอนแรกที่บ้านไม่ให้ยุ่ง ไม่อยากให้คุยด้วย เพราะว่าที่บ้านไม่อยากให้ใครมาด่าว่าไปแย่งแฟนคนอื่น หนูก็ไม่ได้แก้ตัวอะไร ก็บอกว่าให้แม่รู้เองดีกว่า จนได้พาไปเที่ยว ไปเจอ ไปรู้จักกันค่ะ ก็ทุกวันนี้คุณแม่ก็ออกปากชมพี่มิกกี้ แถมสงสารด้วย เหมือนคนทั้งประเทศมองพี่มิกกี้ลบมาก ก็ทำให้เพี๊ยชลบไปด้วย แต่พอครอบครัวทั้งสองฝ่ายได้เจอกัน ก็ทำให้รู้จักกันมากขึ้น”
      
       พร้อมกันนี้ “มิกกี้” ยังเผยด้วยว่า ช่วงแรก “หมออ้อย” โทร.ตื้อตลอดเวลา จนตนต้องบอกไปว่ามีผู้หญิงคนอื่นแล้วไม่ต้องโทร.มาหาอีก หมออ้อยถึงได้เลิกตื้อ ส่วนคดีที่มิกกี้ฟ้องหมิ่นประมาทหมออ้อย กรณีให้ข่าวว่าตนเอาเงินหมออ้อย 4.9 แสนบาท ไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์นั้น มิกกี้กร้าวไม่ยอมไกล่เกลี่ยแน่นอน พร้อมประกาศเตรียมแฉหมดเปลือกหลังคดีจบ
      
       “จริงๆ ก็ตื้อมาตลอดตั้งแต่เลิกกัน ตื้อวันสุดท้ายเลย ตั้งแต่ข่าวออกมา พอผมบอกว่าไม่ต้องโทร.มาแล้วนะ เพราะว่าตอนนี้ผมคบหาดูใจกับผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว เพราะว่าถ้ายังโทร.มาบ่อยๆ เขาคงไม่ชอบ และเขาคงไม่สบายใจ วันนั้นแหละครับ ที่เลิกกันเด็ดขาด ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกันแล้วครับ ซึ่งเรื่องทั้งหมดผมอยากจะพูดมาก ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง ไม่นานนะครับ ถ้าใครยังไม่เบื่อข่าวนี้ซะก่อน แล้วอยากรู้ว่าความจริงเป็นยังไงรอให้คดีถึงที่สิ้นสุดก่อน วันนั้นผมพร้อมจะพูดทุกอย่าง และจะมาพร้อมหลักฐานทุกอย่างเลย ออกมาให้ดูแล้วกัน”
      
       “ซึ่งเรื่องคดีตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ขั้นตอนไกล่เกลี่ยครับ เพราะว่าผมบอกแล้วว่าผมจะไม่ไกล่เกลี่ย ปลายเดือนนี้จะขึ้นศาลแล้วครับ มีทนายโทร.มาให้ไกล่เกลี่ยแล้ว แต่ผมไม่เอาครับ เรื่องทั้งหมดเอาไว้เป็นเรื่องของศาลก่อนครับ เดี๋ยวเป็นยังไงค่อยมาว่ากันครับ เพราะว่าตอนนี้พูดไปก็เหมือนไม่มีอะไร ไม่ได้แฉนะครับ เพราะว่าจริงๆ ผมไม่ได้มีอะไรติดใจอยู่แล้ว แล้วก็ไม่อยากจะไปทำร้ายผู้หญิงที่เป็นเพศแม่ ไม่งั้นคงพูดอะไรไปนานแล้ว แต่หลักฐานที่จะเอามาพูด จะเอามาพูดเพื่อตัวเอง จะได้ไม่ต้องไปติดร่างแหกับสิ่งที่เขามาพูดไม่จริง”
      
       ส่วนกรณีรถมอเตอร์ไซค์ที่ทาง “หมออ้อย” เคยบอกว่า “มิกกี้” หลอกเงินไปซื้อนั้น เจ้าตัวแจงว่า…
      
       “รถก็ขับดีครับ สนุกมากครับ ไม่ได้เอารถเขามาครับ ผมจะไปเอารถเขามาได้ยังไง รถเขาก็อยู่ที่เขาจะมาอยู่ที่ผมได้ยังไง ไม่ได้อยู่ที่ผม ผมยังไม่อยากพูดอะไรเพราะว่ามันยังอยู่ในคดีขั้นตอนของศาล เดี๋ยวเอาไว้เสร็จสิ้นไม่ว่าผลของคดีออกมา ผมจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก ผมจะพูดให้ทุกคนได้รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง ผมไม่ยอมแน่นอนครับ แต่ครั้งนี้ที่ไม่ออกมาพูดเพราะว่าเป็นเพศเดียวกับแม่ผม ผมไม่อยากทำร้ายผู้หญิง อย่างที่สองคือทางครอบครัวผมกับทางครอบครัวของน้องบอกอย่าออกมาพูดเลย น้องจะเสียด้วย ผมก็เลยเงียบมาตลอด”
      
ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)