“ตุ๊ก” แจง “บ๊วย” โพสต์ข้อความเหงาในอินสตาแกรมเป็นส่วนนึงในบทเรียน ที่ฝ่ายชายไปเทคคอร์สเรียน ไม่ได้มีความหมายแอบแฝงอะไร ส่วนเรื่องหัวใจยังไม่คิด ขอโฟกัสเรื่องลูกก่อน ต้องออกมาทำงานนอกบ้านเยอะขึ้น หลังจากเปลี่ยนสถานะเป็นซิงเกิลมัม สำหรับสาว “ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ” แต่ก่อนหน้านี้ในงานอีเวนต์งานหนึ่ง ที่ทางฝั่งของหนุ่ม “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” ได้อุ้มน้อง “ภูมิ” ลูกชายคนเล็กไปออกงานด้วยกัน แต่ปรากฏว่า น้องภูมิร้องหาแต่แม่ตุ๊ก จนเป็นเหตุให้หลายคนคิดไปต่างๆ นานา ซึ่งกับเรื่องนี้ตุ๊กแจงว่า…
“ตอนนี้ลูกๆ ก็อยู่ในช่วงปรับตัว แต่ก่อนจะติดแม่ ร้องหาแต่แม่ ตอนนี้ไม่แล้ว อยู่กับใครก็อยู่ได้ อย่างมารับงานก็จะดูคิวพี่บ๊วยด้วย เพราะเราต้องสลับกันเลี้ยงลูก อย่างงานอีเว้นท์ใช้เวลาไม่เยอะเราก็จะพาเขามากับเราได้ แต่ถ้าเป็นกองละครคงลำบากเพราะต้องใช้เวลาอยู่กันทั้งวัน อย่างงานที่น้องไปออกกับพี่บ๊วยวันนั้น ที่เรียกหาเราเพราะต้องยังพูดคำอื่นไม่ได้ เรียกได้เท่านั้นแหละ (หัวเราะ) สภาพจิตใจตอนนี้ก็โอเค ดีเสมอต้นเสมอปลาย ได้รับกำลังใจจากทุกๆ คน ด้วยทุกๆ เรื่องเราก็ทำความเข้าใจมันอย่างดีมาเรื่อยๆ”
“กับที่พี่บ๊วยขึ้นอินสตาแกรมเหงา อันนั้นเราเข้าใจ พอดีตอนนี้พี่บ๊วยเขาไปเทคคอร์สการเรียน แล้วตุ๊กเองก็เคยได้เรียนเหมือนกัน แต่เราเรียนมาก่อนเขา เหมือนใครอ่านหนังสือมาจากเล่มไหน เราก็จะรู้ว่าข้อความนี้มันมาจากที่ไหน ซึ่งบทความนั้นเป็นข้อความนึงที่อยู่ในบทเรียน ซึ่งคำนั้นมันไม่มีความหายอะไรเลย พูดให้เข้าใจง่ายๆ มันคือคำว่าอนัตตาแค่นั้นเอง ก็คือชีวิตเราว่างเปล่า มันเป็นคำจากบทเรียนนั้น ไม่มีอะไรเลย ก็โดนตีความไปหลากหลาย แต่อย่างที่บอกว่าไม่มีอะไร”
“ตุ๊กเองก็เหมือนกันค่ะ เราปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ เราปล่อยทุกอย่างไปตามอารมณ์ความรู้สึก อย่างตอนนี้เราอยู่คนเดียว มันไม่ใช่ว่าเราจะต้องมองหาใคร ตุ๊กว่ามันยังไม่ใช่เวลานี้ และด้วยสิ่งที่เราทำอยู่มันยังไม่ใช่โมเม้นต์ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาคิดตอนนี้ ตอนนี้เราขอโฟกัสไปที่เรื่องลูกอย่างเดียวก่อน เรายังต้องใช้เวลาอยู่กับตรงนี้ค่อนข้างเข้มข้น ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิต”
ที่มา: manager.co.th