ผลการสำรวจล่าสุดจากไซแมนเทค บริษัทผู้พัฒนาซอฟท์แวร์แอนตี้ไวรัสชื่อดัง เปิดเผยว่า มีชาวอเมริกันมากกว่า 71 ล้านรายได้กลายมาเป็นเหยื่ออาชญากรรมไซเบอร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พร้อมกับยังต้องสูญเสียเงินอีกเป็นจำนวนถึง 21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหามัลแวร์, ไวรัส, ถูกแฮ็ค, หลอกลวง, ฉ้อโกง หรือขโมยโดยทุกๆ สองในสามของชาวเน็ตวัยทำงานจะต้องเคยตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมไซเบอร์ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ขณะที่ในปีที่ผ่านมามีสัดส่วนของชาวเน็ตที่ตกเป็นเป้าโจมตีถึง 46% ซึ่งถ้าคิดรวมกันทั่วโลกจะมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 110 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เฉลี่ยคดีละ 197 เหรียญสหรัฐฯ และอย่างไรก็ดี ด้วยความที่เทคโนโลยีก้าวหน้าต่อเนื่อง การโจมตีของเหล่าอาชญากรไซเบอร์จะไม่จำกัดอยู่เพียงแค่การโจมตีผ่านทางเดสก์ท็อปอย่างเดียวแล้ว แต่จะพุ่งเป้าไปยังผู้ใช้อุปกรณ์พกพาแทน ตัวอย่างเช่น 31% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาได้รับข้อความตัวอักษรจากบุคคลที่ไม่รู้จัก และมาขอให้พวกเขาช่วยคลิกลิงค์ที่แนบมาด้วย ส่วนสี่ในสิบของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาเคยตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมไซเบอร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก ขณะที่หนึ่งในหกระบุว่า บัญชีโซเชียลของพวกเขาเคยถูกแฮ็คและมีถึง 10% ที่ตกเป็นเหยื่อจากการหลอกลวงหรือคลิกลิงค์ปลอมที่แฝงมา สำหรับ ผลสำรวจดังกล่าว ถูกเก็บรวบรวมจากชาวเน็ตช่วงวัยทำงานจำนวน 13,000 คน ใน 24 ประเทศ
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com