“อากู๋” โผล่แจงถอดเอ็มวีออกจากยูทิวบ์ เป็นแค่การทดลอง ยังไม่คิดทำจริงจัง พร้อมขอโทษที่ทำให้เสียความรู้สึก ย้ำ การนำเอ็มวีลงยูทิวบ์มีผลเสียต่อธุรกิจ แต่ไม่สำคัญเท่าความรู้สึกแฟนเพลง ตอนนี้ขอเอาใจแฟนเพลงก่อน หลังจากแกรมมี่กลืนน้ำลายตัวเอง นำเอาออฟฟิศเชียล มิวสิกวิดีโอ ของศิลปินในสังกัดตนเอง มาโพสต์ผ่านเว็บไซต์ยูทิวบ์ผ่าน GMM Grammy Official Channel ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทั้งที่เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม แกรมมี่ได้ออกมาประกาศจะไม่โพสต์ผลงานเพลง รวมถึงตัวมิวสิกวิดีโอของศิลปินในสังกัดผ่านเว็บไซต์ “ยูทิวบ์” (
www.youtube.com) อีกต่อไป โดยให้เหตุผลว่า เพราะที่ผ่านมานั้น ยอดรายได้จากการดาวน์โหลดเพลงและมิวสิก ผ่านทางโทรศัพท์มือถือนั้นลดลงไปเป็นอย่างมาก
โดยให้เหตุผลว่า เป็นเพราะในปัจจุบันเทคโนโลยีของระบบมือถือ รวมถึงสมาร์ทโฟนนั้น มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้เองสามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพลงจากเว็บยูทิวบ์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ล่าสุดปรากฏว่า ทางแกรมมี่กลับเปลี่ยนใจ กลับลำนำเอ็มวีมาลงยูทิวบ์เหมือนเดิม สอบถามกรณีดังกล่าวไปยัง “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” บิ๊กบอสแกรมมี่ ในงานแถลงข่าวเปิดตัวผู้ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด การแข่งขันไทยแลนด์ฟุตซอลพรีเมียร์ ลีก ปี 2555-2556 ณ ห้อง ออดิทอเรียม ชั้น 21 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เจ้าตัวก็เผยว่าเป็นแค่การทดสอบ ยังไม่ได้คิดทำจริงจัง
“จะเรียกอะไรก็ได้ จริงๆ เรื่องของยูทิวบ์ไม่ได้เป็นเรื่องตั้งใจหรือไม่ได้ซีเรียสอะไรเลย ขอกราบเรียนว่า จริงๆ แล้วที่ผ่านมา มันก็มีปัญหาทางด้านธุรกิจ ยูทิวบ์เป็นเพียงเว็บไซต์ที่ทุกคนส่งเพลงและแชร์กัน แต่ไม่สามารถล็อกเพลงเหล่านั้นเป็นสมบัติส่วนตัวของใครได้ แต่ปัญหาเกิดขึ้นจากการมีบุคคลที่สามเข้าไปสร้างโปรแกรมล็อกสัญญาณยูทิวบ์ ไปบันทึกในสมาร์ทโฟน มันทำให้เราเกิดความเสียหายทางรายได้”
“แต่ว่าผมไม่อยากอธิบายเรื่องของธุรกิจ เพราะมันไม่ได้สำคัญ แต่เราแคร์ความรู้สึกของแฟนเพลงเรา ที่เอื้ออาทรกับเรามาช้านาน ผมรู้ว่าทุกคนไม่สบายใจ พอผมทราบข่าวก็สั่งการทันทีว่า อย่าทำให้แฟนเพลงเราน้อยใจ ไม่สบายใจ ให้เอาเอ็มวีเพลงต่างๆ กลับไปอยู่ยูทิวบ์เหมือนเดิม เพราะเราไม่อยากให้แฟนของเราน้อยใจ ตอนนี้ก็เอาเพลงขึ้นปกติแล้วครับ ตอนนี้ก็ตามแก้ปัญหากันไป”
“ในเรื่องปัญหาผมต้องกราบเรียนว่า เรายังมีปัญหาอยู่เยอะมาก เพราะในเรื่องของยูทิวบ์ เราเป็นที่สองของเอเชียนะครับ ใหญ่ที่สุดคือญี่ปุ่น ในไทยของเรามีวิวอยู่หนึ่งพันล้าน แกรมมี่อยู่ที่ 90-95เปอร์เซ็นต์ เราขายเรื่องเพลงเราไม่ได้โปรโมทนักร้อง เราโปรโมทเรื่องเพลงเพราะฉะนั้นมันก็เลย... แต่อย่าไปพูดถึงเรื่องธุรกิจเลย เดี๋ยวจะเข้าใจผิด”
“คือ เราพยายามที่จะหาทางแก้ไข แต่ว่าแค่ทดลองดู ยังไม่มีอะไรรองรับจริงจัง พอเห็นว่าไม่สบายใจ ผมบอกแย่แล้ว ต้องรีบแก้ไข แต่ผมมาทราบเรื่องช้านิดหนึ่ง แต่พอทราบปุ๊บสั่งการเลยครับ ว่าคืนนี้ วันนี้ เดี๋ยวนี้ แล้วรายงานด้วย ตอนนี้ในเรื่องเพลงของแกรมมี่สามารถดูได้แล้วทุกอย่าง ส่วนเรื่องปัญหา ผมหาทางแก้เอง ตอนนี้เอาใจกันก่อน ให้ได้ใจก่อน ยังไงขอโทษด้วยถ้าที่ผ่านมาทำให้ไม่สบายใจ”
“ซึ่งทางเราก็ได้ไปคุยกับทางยูทิวบ์แล้ว จริงๆ ผมทดสอบอะไรบางอย่าง ผมใช้คำว่าทดสอบนะครับ ถ้าเราตัดสินใจเราคงจะประกาศ แต่ว่าตอนนั้นเป็นเรื่องของการทดสอบ และก็น้องบางคนอาจจะไม่เห็นด้วย ผมว่าไม่ใช่เรื่องที่จะมาทำร้ายกันหรืออะไร เราได้คุยกับยูทิวบ์ว่าจะทำอย่างไร เพราะยูทิวบ์ไม่ได้มาขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งเขาก็เห็นใจเรา ขนาดนี้ก็คุยกันอยู่ว่ามันมีวิธีการอะไรได้บ้าง เขาก็มีบางอย่างติดขัดบางประเด็นที่จะเข้ามาในเมืองไทย ตอนนี้ก็เลยยังอยู่ในขั้นตอนที่พูดคุยกันอยู่ ก็ไม่เป็นไร”
“เรื่องปัญหามันต้องแก้อยู่แล้ว ขอให้ทุกท่านสบายใจ ขอโทษอีกครั้งครับ แล้วศิลปินของเราก็สบายใจ เพราะว่าประมาณหนึ่งเรายังไม่ได้ทำจริงจัง ศิลปินไม่ค่อยทราบ แต่ศิลปินที่นี่เขาค่อนข้างมั่นใจ เชื่อใจในผู้บริหารของที่นี่ เพราะว่าเราไม่ได้ทำอะไรแบบชุ่ยๆ”
“และในวันที่เอาเพลงขึ้น ทางเราก็ได้มีการให้โทรศัพท์โดยตรงถึงศิลปินทุกคนได้รับทราบว่าเป็นยังไง เพราะว่าเขาคือคนของเรา อาจจะเยอะ แต่ว่าเราก็สื่อสารให้พี่ๆ น้องๆ ของเราได้รับทราบ ว่าเหตุผลคืออะไร และทำอะไรอยู่ แก้ไขคือแก้ไข เราจะทำให้ทุกคนเข้าใจ จะสังเกตว่าคุณบอย(ถกลเกียรติ วีรวรรณ)ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะว่าเรายังไม่ได้เป็นเรื่องสรุป ทางจีเมมเบอร์ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะว่าไม่ได้เป็นประเด็นเลย เพียงแต่ว่าทดลองนู้นทดลองนี้ เราไม่อยากทำให้เสียความรู้สึก เราต้องขอโทษอีกครั้ง”
“ถามว่า เรื่องนี้โดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะมั้ย ผมต้องบอกว่า ผมไม่มีรสนิยมทางโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีเพื่อนฝูงผมที่หวังดีก็โทร.มาบอกกันว่าไม่ค่อยดีนะ ผมก็บอกโอเค ทำยังไงก็ได้คือเรามารีบแก้ไขดีกว่า เพราะแฟนเพลงของเราทางแกรมมี่รักกันมาช้านาน เดี๋ยวทำให้น้อยใจแล้วจะแย่นะ”
พร้อมกันนี้ บอสแกรมมี่ ยังได้เผยถึงรายละเอียด การได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด การแข่งขันไทยแลนด์ฟุตซอลพรีเมียร์ ลีก ปี 2555-2556 ว่า...
“ผมอยากจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับฟุตซอลไทย และครั้งที่แล้วที่ดูไบทีมฟุตซอลเราไปแข่งในระดับเอเชีย แข่งกันได้แบบตื่นเต้นมาก ผมเลยคิดกับพี่แป๊ะถิรชัย วุฒิธรรม ว่ากลับมาเรามาทำกัน แล้วพี่แป๊ะเป็นคนทำงานจริงจัง เลยคิดว่าแกรมมี่น่าจะมีส่วนร่วมในงานนี้ด้วย”
“และเวลาเราทำงานเราก็ทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนัง ละคร เพราะว่าทุกอย่างที่เราจะทำเราต้องมุ่งมั่นที่จะทำ และสิ่งที่เราคาดหวังอยู่คือเราจะทำยังไงให้เยาวชนไทยหันมาเล่นกีฬา ผมเคยทำให้เพลงกลายเป็นอาชีพจริงจัง เดิมทีอาชีพเพลง คนมองว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน แต่ตอนนี้ทำเราให้เป็นอาชีพที่ชัดเจน ต่อไปเราจะทำให้นักกีฬาไทยเป็นนักกีฬาอาชีพ”
“ผมคิดว่าถ้าเยาวชนไทยมาสนใจเรื่องกีฬา ผมว่าเรื่องยาเสพติดเรื่องปัญหาสังคม ผมว่าน่าจะลดน้อยลง อย่างต่างประเทศถือว่าอาชีพกีฬา คืออาชีพอย่างหนึ่ง อยากให้ลูกหลานไปเป็นนักกีฬาอาชีพ เพราะมันสามารถสร้างชื่อเสียง สร้างความภูมิใจให้กับประเทศนั้นๆ อย่างโอลิมปิกครั้งนี้ ผมว่าคนไทยดีใจมากที่ได้ไปแข่งในมหกรรมโลก มันน่าสนใจ หวังว่าสักวันหนึ่งคนไทยจะสร้างผลงานระดับโลกได้ ต่อไปเป็นมืออาชีพเป็นอะไรต่อไปผมว่าน่าสนับสนุน”
ที่มา: manager.co.th