“ธัญญ่า” บอกดีแล้วที่ “พิ้งกี้” อยากจบ เพราะตนก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน ตอกกลับพิ้งกี้หลังไล่คนปล่อยคลิปไปทำประโยชน์ให้สังคม สวนนี่ก็เป็นประโยชน์เพราะทำให้สังคมรับรู้ พร้อมโต้เจตนาสกัดดาวรุ่งอีกฝ่าย กัดไปทำพวกเบอร์หนึ่งไม่ดีกว่าเหรอ หลังจากที่นางเอกคู่กรณี “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ออกมาขอโทษ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ทั้งน้ำตา กรณีส่งข้อความ “คิดถึง” ไปหา “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” สามี โดยยืนยันว่าเป็นเพราะเป๊กส่งมาหาก่อน ตนจึงตอบตามมารยาท แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ก่อนจะออกโรงป้องแม่ของตนเองว่า พูดไปเพราะอยากปกป้องลูก แต่บริสุทธิ์ใจไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอัดเสียง รวมถึงวิงวอนอยากจบ ล่าสุด “ธัญญ่า” ได้มาร่วมงานเปิดสาขาใหม่ isky ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนลตัล เจ้าตัวก็ได้เผยถึงคู่กรณีบ้างว่า…
“เขาออกมาพูดแล้วก็ดีค่ะ ถ้าทุกอย่างจบได้ก็ดี เราก็จบเหมือนกัน แต่ที่เขาไม่ได้ฟันธงว่าจะหยุดส่งข้อความ อันนี้เราก็คงจะไปกำหนดกฎเกณฑ์อะไรไม่ได้ค่ะ รอให้เป็นเรื่องขออนาคตแล้วกัน ส่วนเรื่องที่ธัญญ่าคลางแคลงใจหรือเปล่า ก็อย่างที่บอก ที่ผ่านมามันเป็นเรื่องประโยคที่ส่งมาเป็นอะไรที่ในฐานะคนเป็นภรรยามันเข้าใจยากจริงๆ อยู่แล้ว แต่เราก็พยายามเข้าใจอยู่ทุกวันนี้ค่ะ”
“ถามว่าพอเขาพูดแล้วสบายใจขึ้นมั้ย จริงๆ มันสบายใจขึ้นที่เราได้เคลียร์กับพี่เป๊กมากกว่าค่ะ (เขาก็ย้ำชัดว่าอย่าให้ใครไปยุ่งกับเขาอีก?) อ๋อ ค่ะ จริงๆ ถ้าไม่มีเรื่องประเภทนี้เกิดขึ้น ก็คงไม่มีใครยุ่งอยู่แล้วค่ะ เรื่องที่เขายืนยันว่าพี่เป๊กส่งมาหาเขาก่อน ตรงนี้เราไม่ได้เห็นไงคะ ว่าพี่เป็กส่งอะไรไป แต่เราเห็นที่เขาส่งมาเท่านั้นเอง”
เผยไม่ได้เคลียร์กับสามี “เป๊ก” เพราะแม้กระทั่งวันแถลงข่าวคู่กันตนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามีจะพูดอะไร แต่ยอมรับว่าทำให้ระแวงไม่เชื่อใจ
“ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นที่มีการสัมภาษณ์กันเกิดขึ้น ธัญญ่าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เป๊กจะพูดอะไร เพราะไม่ได้มีการเตี๊ยมกันก่อน เราก็ได้ฟังพร้อมๆ กับทุกๆ คน แล้วก็จบแค่นั้นไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลยค่ะ ธัญญ่ารับได้ที่พี่เป๊กพูดถึงเรื่องการส่งข้อความ จริงๆ แล้วเรื่องการส่งข้อความตามประสาคนรู้จักกันมันก็โอเค แต่อย่างที่บอกธัญญ่าไม่เห็นประโยคที่พี่เป๊กส่งไปว่าคืออะไร แต่เราเห็นที่เขาส่งกลับมาเท่านั้นเอง ก็พยายามเข้าใจค่ะ”
“เรื่องระแวงมันต้องมีอยู่แล้วค่ะ มันไม่ได้เชื่อใจร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว แต่ว่าเราเลือกที่จะให้โอกาสแล้วก็ต้องพยายามมองข้ามเรื่องนี้ไป ณ วันนั้นพี่เป๊กก็ไม่ได้บอกนะคะว่าจะไม่ส่ง ในฐานะคนรู้จักกัน มันก็ต้องมีส่งกันบ้างในเรื่องการส่งข้อความ”
“ถ้าทักทายธรรมดามันไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก อย่างที่น้องส่งมา ถ้าไม่ใช่คำว่าคิดถึงเนี่ย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้ว จริงๆ เราก็ไม่ได้อยากยุ่งให้เป็นเรื่องเป็นราวอยู่แล้วค่ะ ในเมื่อสิ่งที่เราไปเจอมันทำใจในการยอมรับลำบากมาก เลยต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ถ้าเกิดไม่มีข้อความลักษณะเชิงชู้สาว เราก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เรื่องนี้มันยาวนานไปแล้ว 3 ปี มันเหนื่อยเกินไปแล้ว ที่น้องบอกว่าไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวก็ดีแล้วค่ะ”
“พิ้งกี้” ฝากถึงคนที่ปล่อยคลิป หัวเราะกันสนุกแล้วก็กลับไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้าง?
“อันนี้ขอไม่ออกความคิดเห็นดีกว่าค่ะ แล้วแต่คนดูจะพิจารณา”
เราไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เราทำไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคมใช่มั้ย ?
“(หัวเราะ) มันก็เป็นประโยชน์นะคะ มันก็เป็นประโยชน์ต่อสังคมนะคะ สังคมจะได้รับรู้ ถึงจะเจอเรื่องนี้จริงๆ ความสัมพันธ์ของธัญญ่ากับพี่เป๊กก็ไม่ได้ถอยหลังหรืออะไรนะคะ เท่าที่เราคุยกันวันนั้น พี่เป๊กออกมาพูดก็เคลียร์ แล้ว เราก็รู้สึกว่าว่าพร้อมเดิมหน้าเพื่อครอบครัว เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นการให้โอกาสอีกครั้ง ไม่ได้มีอะไร ไม่อยากเอาเรื่องเก่าๆ มาคิดให้คลางแคลงใจ รกสมองค่ะ”
“ให้โอกาสก็ไม่รู้ขั้นไหน ดูไปเรื่อยๆ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็มีทริปที่จะพาลียาไปเที่ยวกันที่เกาหลีสิ้นเดือน กำลังคุยกับน้องสาวพี่เป๊กว่าจะเอาหลานๆ ไป จริงๆ ทุกทริปที่ไป เราก็ไปทำกิจกรรมมีลียา พี่เป๊ก ตัวเรา แต่ครั้งนี้น่าจะมีพี่เป๊กไปด้วยกับหลานๆ ค่ะ ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็เหมือนเดิมนะคะ ไม่ได้มีการเอาใจมากขึ้น ก็แล้วแต่ เขาเป็นคนไม่ได้หวานแหวว แต่จะดูแลเสมอต้นเสมอปลาย”
ต่อกระแสที่หลายคนมองว่า “พิ้งกี้” กำลังจะกลับมาในวงการอีกครั้ง “ธัญญ่า” ก็เลยเอาเหตุการณ์นี้ขึ้นมาสกัดดาวรุ่ง กับประเด็นนี้เจ้าตัวตอกเจ็บ ถ้าจะทำไปทำพวกเบอร์หนึ่งไม่ดีกว่าเหรอ
“เหมือนอิจฉาเหรอ ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ เพราะว่ามันจะทำไปเพื่ออะไร ที่มันเกิดขึ้นคือปัญหาครอบครัวมากกว่าไม่ได้เกี่ยวว่ากลับมาทำงานแล้วต้องไปสกัดดาวรุ่ง มันไม่มีเหตุผลที่ต้องอย่างนั้น อย่างนี้เราไปสกัดพวกเบอร์หนึ่งไม่ดีกว่าเหรอ(ยิ้ม)”
“ถ้ามันไม่ได้มีเรื่องราวชู้สาวเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา ณ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ข้อความนี้จะเป็นข้อความปกติค่ะ แต่เผอิญมันมีเรื่องนี้เกิดขึ้น เรายังไม่เชื่อใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็เลยทำให้มันเกิดปัญหาขึ้นเท่านั้นเอง แต่ถ้าจะมีใครมองแบบนั้น ก็แล้วแต่คนจะคิด แล้วแต่ใครจะมองเรื่องราวนี้ว่ายังไง ก็มีทั้งคนชอบและก็ไม่ชอบแหละค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะไปบังคับความคิดของทุกคนก็ไม่ได้ ก็แล้วแต่ว่าใครจะใช้วิจารณญาณยังไง”
“ธัญญ่าไม่เช็คข้อความพี่เป๊กค่ะค่ะ แต่ที่ผ่านมาเราก็ไม่เช็ค เพียงแค่วันนั้นนั่งอยู่ด้วยกัน แล้วหยิบขึ้นมาก็มีข้อความวอทแอปขึ้นมา เลยกดดู ก็โป๊ะเชะเลย”
ยืนยันไม่ได้ตั้งใจอัดคลิปเสียง แค่อยากอัดให้สามีฟังเท่านั้นจริงๆ
“อยากจะบอกว่าวันนั้นเราไม่ได้ตั้งใจอัดเลยจริงๆ แค่จะโทร.ไปบอกแค่นั้น แต่เผอิญมีการใช้อารมณ์ความรุนแรง เจตนาเราจะอัดให้พี่เป๊กฟัง ยอมรับว่าเวลาธัญญ่าทะเลาะกับใครหรือโดนใครว่า ธัญญ่าจะไม่เป็นคนพูดแรงกลับ แต่จะเป็นคนกวน พอเราได้รับคำพูดจาที่มันแรง เราก็จะกวน”
“ไม่ได้ยั่วโมโหเพื่อให้เขาพูดแบบนั้นออกมา ไม่หรอกค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่คนคิด อย่างที่บอกพอมันเจอคำพูดแรงๆ เราก็มีอารมณ์โมโหเหมือนกัน แต่ว่าจะให้ด่ากลับมันไม่ใช่วิสัยค่ะ แล้วเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของธัญญ่ากับพี่เป๊กแย่ไปกว่าเดิม เพราะว่า ณ วันนั้นที่เราพูดก็ถือว่าโอเคแล้ว เดี๋ยวรอดูอนาคตต่อไป”
“ส่วนกับฉายาเจ้าแม่อัดคลิป ตอนแรกโดนถามว่าปีนี้จะได้ฉายาใหม่มั้ย เราก็บอกไม่น่ามีฉายาแล้วอันเดียวพอ แต่ปีนี้ต้องมีอีกแน่เลย ตั้งฉายาธัญญ่าเรคคอร์ด (หัวเราะ) ก็โอเค ถ้ามองเป็นเรื่องขำมันก็ขำดีเนอะ แต่ตอนที่เกิดก็เป็นเรื่องซีเรียส เวลาผ่านไปมันก็โอเคก็น่ารักดี ถามว่ายอมรับได้มั้ย มันคงให้คนอื่นไม่ได้ เพราะที่ผ่านมารู้สึกจะมีแต่เราเรคคอร์ดอยู่คนเดียว”
ที่มา: manager.co.th