สวัสดีช้อปตั้งเป้าผงาดเบอร์หนึ่ง บริการวอยซ์โอเวอร์ไอพี ในไทย เสริมทัพบริการใหม่ DeeCall แอปฯสำหรับสมาร์ทโฟนเน้นตลาดองค์กรที่ต้องการคุณภาพบริการ ในราคาประหยัด เชื่อตลาดซิมโรมมิ่งยังโตต่อหลังความนิยมสมาร์ทโฟนมาแรง คาดอีก 3 ปี รายได้แตะ 2 พันล้าน นายอัศวิน พละพงศ์พาณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด และบริษัท แมทริทซ์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดบริการเสริมโดยเฉพาะเทคโนโลยีวอยซ์โอเวอร์ไอพี (VoIP) หรือบริการข้อความเสียงบนโครงข่ายโทรคมนาคมทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์พื้นฐาน ที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 พันล้านนาทีต่อปี ในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ DeeCall และ DeeDial เข้าสู่ตลาดเพื่อรองรับการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้จะมีถึง 15 ล้านเครื่อง ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาใช้ได้ฟรีทั้ง 3 แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นไอโอเอส แบล็กเบอรี่ และแอนดรอยด์
"ความแตกต่างของบริการ DeeCall ที่แตกต่างจากบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศก็คือ สามารถใช้โทร.ได้กับทุกอุปกรณ์ ทุกเครือข่าย โดยประหยัดได้มากกว่า 50% ที่สำคัญสามารถเติมเงินได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นผ่านบัตรเครดิต หรือเติมเงินผ่านทาง 7-11 และ E-Pay"
ถึงแม้จะเป็นบริการใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน แต่ตลาดเป้าหมายหลักจะเน้นไปที่ตลาดองค์กรที่ต้องการบริการที่มีคุณภาพ ในราคาประหยัดแทนที่จะใช้บริการผ่านโทร.ทางไกลระหว่างประเทศที่มีราคาสูงกว่ามาก โดยจะไม่ได้ไปแข่งกับบริการโทร.ระหว่างประเทศที่ให้บริการฟรี โดยเวลานี้มีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 4 พันราย
นายอัศวินยังกล่าวอีกว่า บริการ Matrix ซิมการ์ดโรมมิ่งซึ่งมีทั้งดาต้าและวอยซ์เป็นอีกบริการหนึ่งที่ที่เชื่อว่า จะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มูลค่าทางการตลาดโรมมิ่งไม่ได้ปรับตัวลดลงเหมือนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ปีนี้คาดว่ามูลค่าสำหรับตลาดโรมมิ่งตกประมาณ 7 หมื่นล้านบาท เป็นตลาดของโทรศัพท์ระหว่างประเทศประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
"ตลาดซิมการ์ดโรมมิ่งถือเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้อีกเยอะ เนื่องจากผู้ใช้บ้านเรายังไม่ค่อยเข้าใจกับบริการแบบนี้ ทางบริษัทฯ จึงได้จัดแคมเปญการตลาดที่หลากหลายเพื่อมากระตุ้นตลาดในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งบูธในสนามบินสุวรรณภูมิ การรุกเข้าสู่ตลาดองค์กรมากขึ้น"
เป้าหมายรายได้ในปีนี้ของบริษัทตั้งไว้ที่ 720 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 35-40% โดยเป็นรายได้จากการขายในส่วนที่เป็นขายส่งประมาณ 400-500 ล้านบาท ที่เหลือมาจากขายปลีก 200 กว่าล้านบาท แต่เชื่อว่าสัดส่วนนี้จะกลับกันเป็นมาจากรายได้ในส่วนขายปลีก 60% เป็นรายได้จากขายส่ง 40 % ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งบริษัทที่ 2 พันล้านบาท
นายอัศวินยังกล่าวอีกว่า การที่จะไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าวในปี 2558 นั้น จะมาจากบริการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ที่เรียกว่า อินเตอร์เนชันแนล โมบายแอร์ไทม์ ที่เป็นลักษณะของการโอนค่ายแอร์ไทม์เป็นเงินในวงเงินระหว่าง 300 - 1,000 บาท เน้นไปที่ตลาดแรงงานชาวต่างประเทศที่มาทำงานในประเทศไทย และต้องการส่งเงินกลับไปที่บ้าน ซึ่งจะเริ่มที่ประเทศกัมพูชาและพม่า เพราะเป็นตลาดที่ทางบริษัทมีฐานผู้ใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศหรือคอลล์ลิ่งการ์ดของบริษัทอยู่แล้ว เป็นชาวพม่าประมาณ 3 ล้านราย ชาวกัมพูชาอีก 7 แสนราย
"คาดว่าตลาดนี้จะมีการส่งเงินกลับประเทศเฉลี่ยประมาณ 3,000 - 5,000 ล้านบาทต่อปี และจะมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ได้ประมาณ 5% ซึ่งบริการนี้จะเป็นบริการหลักในส่วนของขายปลีกในอนาคต"
นายอัศวินยังบอกอีกว่า ปีหน้าจะมีบริการที่เรียกว่า คลาวด์ เทเลโฟนนี เซอร์วิสที่เป็นบริการโซลูชันเทเลโฟนนีสำหรับตลาดเอสเอ็มอีที่ไม่ต้องลงทุนซื้อตู้ชุมสายโทรศัพท์หรือพีเอบีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นอีกบริการหนึ่งที่ในต่างประเทศเริ่มได้รับนิยม แต่สำหรับในประเทศไทยคงจะรอความนิ่งของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริการนี้ถึงจะมีประสิทธิภาพ
Company Relate Link :
Sawasdee Shop
ที่มา: manager.co.th
