ร้านแอปเปิลสโตร์ที่มีมากกว่า 370 แห่งทั่วโลกว่าสามารถดึงคนเข้าร้านได้มากกว่า 300 ล้านคนตั้งแต่ช่วงตุลาคมปี 2011 ที่ผ่านมาล่าสุด แอปเปิลเปิดร้านแอปเปิลสโตร์แห่งที่ 374 และ 375 ในแคนาดาช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวันที่แอปเปิล (Apple) สามารถครองแชมป์บริษัทอเมริกันที่มีมูลค่าหุ้นแพงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ล่าสุดแอปเปิลเปิดเผยความสำเร็จของร้านแอปเปิลสโตร์ที่มีมากกว่า 370 แห่งทั่วโลกว่าสามารถดึงคนเข้าร้านได้มากกว่า 300 ล้านคนตั้งแต่ช่วงตุลาคม ปี 2011 ที่ผ่านมา โดยยอดขายเฉลี่ยของแต่ละร้านค้าต่อตารางฟุตของแอปเปิลนั้นสูงกว่าแบรนด์ค้าปลีกใดๆ ที่น่าสนใจคือ เมื่อเทียบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอย่างเบสต์บาย (Best Buy) พบว่าร้านแอปเปิลสโตร์สามารถสร้างรายได้ต่อตารางฟุตได้สูงกว่าถึง 5 เท่าตัว ตัวแทนแอปเปิลให้สัมภาษณ์สื่ออเมริกันระหว่างงานฉลองเปิดร้านแอปเปิลสโตร์แห่งที่ 374 และ 375 ในแคนาดาช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าร้านค้าปลีกที่แอปเปิลลงทุนสร้างเองอย่างแอปเปิลสโตร์นั้นสามารถดึงคนเข้าร้านได้มากกว่า 300 ล้านคนในช่วงปีการเงิน 2012 (เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2011) โดยพื้นที่เคาน์เตอร์เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ในร้านแอปเปิลสโตร์ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Genius Bar นั้นสามารถต้อนรับชาวแอปเปิลมากกว่า 5 หมื่นคนต่อวัน ทั้งหมดนี้ส่งให้แอปเปิลสโตร์สามารถสร้างรายได้ให้แอปเปิลเฉลี่ยต่อตารางฟุตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์ค้าปลีกรายอื่น
รายงานระบุว่า แอปเปิลสโตร์แห่งแรกที่แอปเปิลก่อตั้งขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม 2001 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แอปเปิลยังมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ถึง 5% และยังอยู่ในช่วงแข่งขันกับตลาดโลกซึ่งนิยมเฉพาะคอมพิวเตอร์พีซีเป็นส่วนใหญ่นั้นทำรายได้ให้แอปเปิลราว 19 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2001) 10 ปีผ่านไป แอปเปิลสโตร์สามารถทำเงินให้แอปเปิลได้รวม 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2011 คิดเป็นรายได้ต่อตารางฟุตสูงที่สุดในวงการค้าปลีกอเมริกัน
การเปิดเผยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังความสำเร็จของแอปเปิลในการขึ้นแชมป์บริษัทอเมริกันที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก โดยเอาชนะสถิติสูงสุดที่ไมโครซอฟท์เคยทำไว้เมื่อเดือนธันวาคม 1999
การทำลายสถิติโลกของแอปเปิลเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของแอปเปิลพุ่งขึ้นต่อเนื่องจนสามารถทำสถิติใหม่ที่ 660 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ทำให้เมื่อคำนวณมูลค่าตลาดรวมของบริษัทพบว่าแอปเปิลมีมูลค่ารวมเกิน 6.19 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แซงหน้าไมโครซอฟท์ที่เคยมีมูลค่าตลาด 6.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 30 ธันวาคม 1999
แม้มูลค่าตลาดของแอปเปิลจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึง 6.24 แสนล้านเหรียญ แต่ค่าครองชีพที่มีการเปลี่ยนแปลงจากอดีตถึงปัจจุบันทำให้นักสังเกตการณ์ประเมินว่ามูลค่าตลาด 6.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐที่ไมโครซอฟท์เคยทำได้ในปี 1999 นั้นมีค่าเทียบได้กับมูลค่า 8.42 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน ทำให้ไมโครซอฟท์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในบางมุม ทั้งที่มูลค่าตลาดของไมโครซอฟท์ในปัจจุบันจะมีมูลค่าเพียง 2.57 แสนล้านเหรียญเท่านั้น
นักวิเคราะห์เชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งให้มูลค่าหุ้นของแอปเปิลพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์คือแนวโน้มการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ iPhone 5 ในเดือนกันยายน รวมถึงแนวโน้มการเปิดตัวแท็บเล็ต iPad รุ่นใหม่ที่มีขนาดเครื่องเล็กลงและบางขึ้น จุดนี้มีการวิเคราะห์ว่าแอปเปิลจะสามารถจำหน่าย iPhone 5 ได้ถึง 250 ล้านเครื่อง นำไปสู่รายได้ที่อาจสูงถึง 1.44 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทมีกำไรมากกว่า 50 เหรียญต่อหุ้นเมื่อมีการเริ่มจำหน่ายสมาร์ทโฟนแห่งอนาคต
ทั้งหมดนี้ถือเป็นผลต่อเนื่องหลังจากราคาหุ้นแอปเปิลขยับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ชาวโลกกำลังจับตากันว่าราคาหุ้นแอปเปิลจะพุ่งสูงถึง 900 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นอย่างที่มีการคาดการณ์มาก่อนหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดขึ้นหลังการเปิดตัว iPhone 5 ที่จะเป็นการเปิดตัวสมาร์ทโฟนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
สำหรับความคืบหน้าของคดีความที่แอปเปิลยื่นฟ้องต่อศาลว่าซัมซุงลอกเลียนแบบ iPhone และ iPad ในสินค้าตระกูล Galaxy คือรายงานจากสื่อต่างประเทศที่ระบุว่าการเจรจาครั้งสุดท้ายตามคำสั่งศาลนั้นล้มเหลว ทั้ง 2 บริษัทไม่สามารถตกลงยอมความกันได้และกำลังเข้าสู่กระบวนการพิพากษา
ขณะเดียวกัน แอปเปิลได้กล่าวหากูเกิลว่าลอกเลียนแบบ iPhone ผ่านผลิตภัณฑ์ตระกูล Nexus ซึ่งกูเกิลได้ออกมาตอบโต้ว่าแอปเปิลต่างหากที่ลอกเลียนเทคโนโลยีของกูเกิลในบริการอย่าง Siri และระบบที่เกี่ยวกับการแจ้งเตือนอีเมลและสถานที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่มีกำหนดการพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการ
Company Related Link :
Apple
ที่มา: manager.co.th