Author Topic: เปิดแผนปรับโครงสร้าง “โมโตโรล่า” ใต้ชายคากูเกิล  (Read 784 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




กูเกิล (Google) เผยแผนปรับโครงสร้างหลังฮุบกิจการธุรกิจผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ของโมโตโรล่า “โมโตโรล่าโมบิลิตี (Motorola Mobility)” ว่าจะเลิกจ้างพนักงานราว 4,000 ตำแหน่ง คิดเป็นสัดส่วน 20% ของพนักงานโมโตโรล่าโมบิลิตี
       
       การเปิดเผยแผนลอยแพพนักงานโมโตโรล่าโมบิลิตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกูเกิลสามารถควบคุมกิจการพัฒนาโทรศัพท์มือถือของยักษ์ใหญ่ด้านการสื่อสารสัญชาติอเมริกันอย่างเต็มตัวเพียง 3 เดือน โดยกูเกิลเพิ่งได้รับการอนุมัติจากทุกองค์กรอย่างเป็นทางการให้สามารถเข้าซื้อกิจการโมโตโรล่าโมบิลิตีด้วยมูลค่า 1.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากบรรลุข้อเสนอซื้อกิจการตั้งแต่สิงหาคม 2011 พร้อมกับพนักงานในธุรกิจนี้ทั้งหมด 20,000 คน
       
       ไม่เพียงลอยแพพนักงาน กูเกิลยังมีแผนปิดสำนักงานโมโตโรล่ามากกว่า 30 แห่งด้วย ซึ่งทั้งหมดปรากฏในเอกสาร Form 8-K ที่กูเกิลต้องยื่นต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หรือ U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเอกสารลงวันที่ชี้แจง 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะนำออกเผยแพร่วันที่ 13 สิงหาคมตามเวลาสหรัฐฯ
       
       “2 ใน 3 ของการลดจำนวนพนักงานจะเกิดขึ้นในพื้นที่นอกสหรัฐอเมริกา” เอกสารระบุ “นอกจากนี้ โมโตโรล่ายังวางแผนปิดสำนักงาน 1 ใน 3 ของสำนักงานที่โมโตโรล่ามีทั้งหมด 90 แห่งในขณะนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาสินค้าโทรศัพท์มือถือ จากฟีเจอร์โฟนทั่วไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีใหม่และสามารถทำกำไรได้มากขึ้น”
       
       นักวิเคราะห์เชื่อว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นกลยุทธ์สำคัญที่กูเกิลเตรียมไว้เพื่อกู้วิกฤตขาดทุนให้โมโตโรล่าโมบิลิตี โดยก่อนหน้านี้โมโตโรล่าโมบิลิตีประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง 14-16 ไตรมาสที่ผ่านมา จุดนี้กูเกิลแสดงความมั่นใจในเอกสารว่านักลงทุนจะได้เห็นปัจจัยมากมายที่สะท้อนว่าโมโตโรล่าจะทำรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกหลายไตรมาส โดยเฉพาะการลดค่าใช้จ่ายที่ส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้กูเกิลมองว่าการลดค่าใช้จ่ายจะเป็นหลักสำคัญในการฟื้นฟูโมโตโรล่า

เอกสารยังระบุว่า โมโตโรล่าเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงจะสร้างความลำบากแก่พนักงานเพียงไร จึงพร้อมช่วยเหลือให้พนักงานสามารถผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไปให้ได้ โดยจะเสนอทางเลือกหลากหลายให้พนักงานที่จะถูกเลิกจ้าง รวมถึงจะมีการประสานงานเพื่อให้พนักงานสามารถหางานใหม่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้คาดว่าจะเกิดเป็นค่าใช้จ่ายในไตรมาส 3 ของปีนี้ไม่เกิน 275 ล้านเหรียญสหรัฐ
       
       นอกจากการปรับลดพนักงาน กูเกิลยังลดจำนวนผู้บริหารในตำแหน่งรองประธาน (vice president) ลง 40% จุดนี้เป็นข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กนิวส์ซึ่งไม่มีรายงานเพิ่มเติมในขณะนี้
       
       เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กูเกิลเปิดเผยรายงานผลประกอบการครั้งแรกหลังจากบริษัทสามารถควบรวมกิจการกับโมโตโรล่าโมบิลิตีอย่างเป็นทางการ ระบุว่ารายได้ตลอดเดือนเมษายน-มิถุนายน 2012 โมโตโรล่าโมบิลิตีสามารถทำเงินได้ราว 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 35% จาก 9.03 พันล้านเหรียญที่เคยทำได้ในไตรมาสเดียวกันของปี 2011
       
       ตัวเลขรายได้รวม 1.2 หมื่นล้านเหรียญยังคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2012) ซึ่งกูเกิลให้ข้อมูลว่ามีรายได้ราว 1.06 หมื่นล้านเหรียญเท่านั้น โดยเมื่อคำนวณเป็นกำไร โมโตโรล่าโมบิลิตีสามารถทำกำไรได้ 2.79 พันล้านเหรียญในไตรมาส 2 ปี 2012 ที่ผ่านมา สูงกว่า 2.51 พันล้านเหรียญที่เคยทำได้ในไตรมาส 2 ปี 2011
       
       ข่าวการลอยแพพนักงานโมโตโรล่านี้เกิดขึ้นหลังผู้บริหารกูเกิลออกมายืนยันว่าจะไม่มีการควบรวมกิจการอย่างเต็มรูปแบบระหว่างกูเกิลกับโมโตโรล่าโมบิลิตี โดยแพทริค พิเชตต์ (Patrick Pichette) ประธานฝ่ายการเงินของกูเกิล ให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ว่ากูเกิลจะปล่อยให้โมโตโรล่าโมบิลิตีดำเนินธุรกิจโดยแยกจากธุรกิจหลักของกูเกิลอย่างชัดเจน ถือเป็นคำยืนยันที่ทำให้พันธมิตรผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ (Android) เบาใจได้ว่า กูเกิลจะไม่ลงไปแข่งขันด้วยชื่อของกูเกิลในตลาดสมาร์ทโฟน
       
       Company Related Link :
       Google

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)