Author Topic: ผู้ค้าดวลเกมถล่มราคา พลิกตลาดยุคไร้กำลังซื้อ  (Read 951 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

ผลสำรวจจากหลายสำนักรายงานตรงกันว่า ตลาดไอทีปีนี้หดตัวลงแน่นอน แม้มีตัวเลขแตกต่างกันไปตามกระบวนการเก็บข้อมูล

 อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าก็ยังคงเหลือความหวังอยู่บ้าง เพราะจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลจากโพลล์ใดที่ฟันธงว่า ตลาดคอนซูเมอร์ไอทีจะขยายตัวในระดับติดลบ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดจะยังทรงตัวระดับ 6 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวลดลงเหลือ 2-8%


เชื่อผู้ค้าเร่งระบายสินค้า
 นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต ยอมรับว่า สิ่งที่ผู้ค้าไอทีกังวลในช่วงนี้คือ "กำลังซื้อไม่มี" แต่อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า สินค้าไอทีสำหรับคอนซูเมอร์ ยังคงเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ค ซึ่งเป็นสินค้าขายดีอันดับ 1 ตามผลสำรวจของมหาวิทยาลัยศรีปทุม
 

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าไอทีหลายราย ก็ยังคงตั้งความหวังกับการขายผ่านงานใหญ่ เช่น "คอมมาร์ต ไทยแลนด์" ซึ่งปีนี้มีกำหนดจัดระหว่าง 19-22 มีนาคมนี้ โดยมีเจ้าของแบรนด์สินค้าไอทีคอนซูเมอร์ครบทุกราย ตอบรับเข้าร่วมงานเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา


 ขณะเดียวกัน คาดว่าคอมมาร์ตครั้งนี้ จะเป็นงานที่ผู้ค้าหลายรายเริ่มเร่งระบายสินค้าที่ค้างในสต็อก เพื่อเตรียมตัวสำหรับเทคโนโลยีใหม่ ประกอบกับช่วงใกล้กับการปิดยอดไตรมาสแรก ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ตลาดไอทีโดยรวมยังดูไม่คึกครื้นเท่าที่ควร


คนเดินลด-ค่าเช่าเพิ่ม
  ทั้งยังประเมินว่า ความซึมเศร้าของตลาดอาจส่งผลกระทบต่อยอดผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ จะลดลงจากระดับมากกว่า 1 ล้านตลอดงาน 4 วัน เหลือไม่ถึง 9 แสนราย


 "ต้องยอมรับว่า คอนซูเมอร์ เป็นตัวแปรสำคัญที่สุดของตลาดไอที ซึ่งถ้าเราสามารถกระตุ้นกำลังซื้อในส่วนนี้ขึ้นมาได้ ก็มีแนวโน้มที่จะดึงกำลังซื้อไอทีให้ฟื้นตัวขึ้นมาได้เร็วขึ้น แม้ว่างานครั้งนี้อาจได้เห็นคนเดินน้อยลง หรือยอดคนซื้อสินค้าผ่อน แซงหน้าการจ่ายด้วยเงินสดสูงขึ้นไปอีก" นายปฐมกล่าว


 เขากล่าวว่า บริษัทช่วยผู้ค้าที่เข้าร่วมงานนี้ โดยอัดฉีดงบการตลาดเพิ่มอีกเกือบ 50% เป็นประมาณ 50 ล้านบาท จากปกติ 25-30 ล้านบาท เพื่อเพิ่มในส่วนของรางวัล และของแถมที่จะคืนกำไรให้กับลูกค้า  เช่น รางวัลรองจากรางวัลใหญ่ในงาน ได้แก่ ทองคำ และจอแอลซีดี


 อย่างไรก็ตาม งานครั้งนี้บริษัทได้ปรับราคาพื้นที่ขึ้นระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากเจ้าของพื้นที่คือ ศูนย์สิริกิติ์ขอขึ้นค่าเช่าประมาณ 10% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา


 "งานครั้งนี้เราไม่ได้หวังยอดโตใดๆ เนื่องจากสภาพตลาดที่ทุกคนทราบกันดี ขอแค่ให้ได้ยอดเดิมคือ เงินสะพัดเท่าปีที่แล้วประมาณ 3,000 ล้านบาท" นายปฐมกล่าว


โตชิบาอัดงบ8หลักจูงใจ
 นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทใช้งบประมาณสูงถึง 8 หลัก เพื่อเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์หลักของงานเป็นครั้งแรก เนื่องจากเชื่อว่า ภาพรวมแล้วยอดขายราว 20-30% ของผู้ค้าส่วนใหญ่เริ่มมาจากงานอีเวนท์ประเภทนี้


  นอกจากนี้ บริษัทยังได้เริ่มทำสินค้าราคาพิเศษ เช่น เน็ตบุ๊ค ราคาต่ำกว่า 15,000 บาท และปรับราคาสินค้าทั้งโน้ตบุ๊ค กล้อง และเอ็กซ์เทอร์นัล ฮาร์ดดิสก์ เฉพาะในงานลงราว 10%


 พร้อมกันนี้ยังได้นำพีดีเอโฟนรุ่นแรกของบริษัทวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก โดยตั้งราคา 19,900 บาท


งัดราคาพิเศษสู้
 นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงค์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมกำลังซื้อในตลาดไอทีหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด 10-15% ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงจากเศรษฐกิจ


 ขณะที่ ในส่วนของเอเซอร์ เชื่อว่าช่องทางจำหน่ายผ่านงานอีเวนท์ใหญ่ๆ ยังคงเป็นทางออกหนึ่งของผู้ค้ายุคนี้ โดยล่าสุดกับงานคอมมาร์ตต้นปี บริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่  และสินค้าราคาพิเศษ  เช่น เอ็กซ์เทอร์นัล ฮาร์ดดิสก์ ทั้ง 2.5 นิ้ว และ 3.5 นิ้ว ที่ยังไม่เคยทำตลาดมาก่อน


 "สิ่งที่คนกลัวที่สุดตอนนี้คือ กำลังซื้อไม่มี และเชื่อว่าทุกค่ายจะเริ่มเล่นราคาแรงกว่าทุกครั้งโดยเราเองก็ทำราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยทำ แต่คงไม่ใช่การแข่งกันระหว่างแบรนด์ เพราะแต่ละแบรนด์จะมองการกระตุ้นกำลังซื้อมากกว่า สิ่งที่ทุกค่ายทำตอนนี้เชื่อว่า น่าจะทำให้ตลาดเริ่มฟื้นตัวกลับมาช่วงไตรมาส 3 " นายนิธิพัทธ์กล่าว


 รายงานข่าว กล่าวว่า ผู้ค้าหลายรายยังจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อดึงดูดกำลังซื้อจากมาตรการ 2,000 บาทของรัฐ เช่น เอปสัน ที่เตรียมสินค้าราคาระดับไม่เกิน 2,000 บาท เข้ามาร่วมหลายรายการ เนื่องจากเชื่อว่า สินค้าไอทียังคงเป็นกลุ่มสินค้าแรกๆ ที่คนทั่วไปวางแผนใช้จ่ายในยามนี้


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)