บริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) สำรวจพบซัมซุงยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้สามารถทำยอดขายในตลาดสมาร์ทโฟนโลกทิ้งห่างคู่แข่งเบอร์ 1 อย่างแอปเปิลได้เกือบเท่าตัว เหตุผลสำคัญคือซัมซุงเปิดตัว Galaxy S3 ได้ก่อนไอโฟนรุ่นใหม่ โดยช่วงไตรมาส 2 ซัมซุงขายสมาร์ทโฟนได้ 50.2 ล้านเครื่องขณะที่ไอโฟนมียอดขายเพียง 26 ล้านเครื่อง ข้อมูลจากไอดีซีระบุว่า ซัมซุงสามารถจัดส่งสมาร์ทโฟน 50.2 ล้านเครื่องสู่ตลาดโลกในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของซัมซุงเติบโตเป็น 33% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีเพียง 17%
ขณะที่ส่วนแบ่งของแอปเปิลในตลาดสมาร์ทโฟนโลกนั้นมี 17% ลดลงจากที่เคยมี 19% ในปีก่อน โดยช่วงเม.ย.-มิ.ย.ที่ผ่านมา แอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ 26 ล้านเครื่อง
ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนโลกที่ซัมซุงนำโด่งทิ้งห่างแอปเปิลนั้น ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นผลจากการเปิดตัว Galaxy S3 ล่วงหน้าจากไอโฟนรุ่นใหม่เป็นเวลาหลายเดือน ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ยังมองว่าซัมซุงได้รับประโยชน์จากกลยุทธ์การพัฒนาอุปกรณ์ หลายกลุ่มสำหรับลูกค้าหลายระดับในเวลาเดียวกัน จุดนี้ทำให้ซัมซุงสามารถทำยอดขายได้ในหลายกลุ่มตลาด ต่างจากแอปเปิลที่พุ่งเป้าตลาดไฮเอนด์ด้วยไอโฟนเพียงอย่างเดียว
สมาร์ทโฟน Galaxy S3 รุ่นล่าสุดนั้นได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากในช่วงเปิดตัว โดยในสหรัฐฯ ตัวเครื่องสามารถรองรับเครือข่ายข้อมูล 4G ความเร็วสูงได้บนหน้าจอที่ใหญ่กว่าไอโฟน แต่มีน้ำหนักเครื่องเบากว่าและตัวเครื่องบางกว่า ซึ่งรายงานเบื้องต้นระบุว่า ไอโฟนที่รองรับเครือข่าย 4G นั้นจะยังไม่เปิดตัวจนกว่าจะเข้าสู่ไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งหมดทำให้ไอโฟนรุ่นปัจจุบันของบริษัท 'iPhone 4S' ซึ่งเปิดตลาดมาตั้งแต่ต.ค.ปีที่แล้ว มียอดจำหน่ายลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของไอดีซียังคงมองว่าคำถามใหญ่ที่รอซัมซุงอยู่ คือซัมซุงจะสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ดีเพียงใดเมื่อไอโฟนรุ่นใหม่เปิดตัว
สำหรับไตรมาสปัจจุบัน นักวิเคราะห์เชื่อว่าซัมซุงจะสามารถทำกำไรได้สูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ผลจากการทำตลาด Galaxy S3 อย่างเต็มที่ ก่อนจะเริ่มลดลงในช่วงไตรมาส 4 หรือช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีที่ไอโฟนรุ่นใหม่จะเริ่มทำตลาดเต็มตัว
ในตลาดรวมไอดีซีพบว่าสมาร์ทโฟนทั่วโลกถูกจัดส่งสู่ตลาดมากกว่า 154 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับ 108 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม อัตราเติบโตนี้น้อยกว่าการประเมินที่ไอดีซีเคยคาดไว้ที่ 43% และไตรมาส 2 ของปีนี้ยังเป็นไตรมาสที่ตลาดสมาร์ทโฟนโลกมีอัตราเติบโตต่ำที่สุดนับตั้งแต่ ไตรมาส 4 ปี 2009
สิ่งนี้ทำให้ไอดีซีมองว่า อัตราการเติบโตที่ลดลงอาจทำให้ซัมซุงและแอปเปิลขยายส่วนแบ่งตลาดได้ลำบากกว่าเดิม ทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาในยุโรป ทำให้ตลาดไม่เติบโตเท่าที่ควร
ในส่วนตลาดรวมโทรศัพท์มือถือ การสำรวจพบว่ายอดจัดส่งโทรศัพท์มือถือกลุ่มพื้นฐานมีจำนวนราว 406 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจาก 402 ล้านเครื่องในปีก่อนหน้า
ในขณะที่ซัมซุงและแอปเปิลมีสัดส่วนตลาดสมาร์ทโฟนรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของโนเกีย อดีตยักษ์ใหญ่โลกโทรศัพท์มือถือถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 6.6% ลดลงจาก 15% ที่มีในปีที่แล้ว ที่ผ่านมา ต้องถือว่าโนเกียประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งกับสินค้าตระกูลลูเมีย (Lumia) ซึ่งเป็นรุ่นที่โนเกียเริ่มนำระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนของไมโครซอฟท์ มาใช้กับผลิตภัณฑ์แบรนด์โนเกีย จนสามารถรั้งตำแหน่งอันดับ 3 ในตลาดไว้ได้
สำหรับเอชทีซี ผู้ผลิตสัญชาติไต้หวันถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 4 ส่วนแบ่งตลาดคือ 5.7% ลดลงจาก 11% ที่เคยมีในปี 2011
ผู้ผลิตอันดับที่ 5 ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกตกเป็นของแซตทีอี สัญชาติจีนที่สามารถเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระดับโลกได้เป็นครั้งแรก มีส่วนแบ่งตลาด 5.2% เพิ่มจากปีก่อนหน้าที่มี 1.8%
เบื้องหลังความสำเร็จของแซตทีอีคือการตั้งราคาสมาร์ทโฟนที่ต่ำกว่า และวางจุดยืนของผลิตภัณฑ์ในฐานะสมาร์ทโฟนสำหรับผู้เริ่มต้น ทำให้สมาร์ทโฟนของแซตทีอีสามารถทำตลาดได้ดีมากในจีนและลาตินอเมริกา
Company Related Link :
Samsung
IDC
ที่มา: manager.co.th
