ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายมือถือแบรนด์ “อาม่า” เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ในชื่ออาเซียน หรือที่รู้จักในนาม “อาหม่อง” ยอมรับกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างโมเดลธุรกิจขายตรงเพื่อทำตลาดโทรศัพท์มือถือ 5 ภาษานี้ บนความหวังให้ชาวพม่า-ลาว-เขมรบอกต่อกันปากต่อปาก มั่นใจเสียงตอบรับเยี่ยมเพราะมียอดสั่งจองเกิน 2 หมื่นเครื่องแล้ว ลุ้นสิ้นปียอดขายทะลุหลักแสนเครื่องตามเป้า นายสุรินทร์ อมรชัชวาลกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ กล่าวในงานเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ “อาเซียน” ที่สามารถใช้งาน 5 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ พม่า ลาว และกัมพูชาซึ่งรู้จักในชื่อ “มือถืออาหม่อง” ว่ากำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางขายตรง หรือ MLM เชื่อว่าจะทำให้สามารถเข้าถึงตลาดแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยที่มีมากกว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศได้ดีขึ้น
“เรากำลังเลือกอยู่ว่าจะทำช่องทาง MLM ดีไหม ให้คนพม่าขายกันเอง ยังศึกษาอยู่ว่าจะทำได้ดีหรือไม่ อาจจะช่วยให้ตลาดตื่นตัวในรูปปากต่อปาก ซึ่งยังต้องศึกษาวิธีบริหารจัดการเครือข่ายก่อนตัดสินใจ”
โทรศัพท์มือถืออาเซียนที่เปิดตัวใหม่จะวางจำหน่าย 2 สี คือ เขียว และส้ม จุดนี้สุรินทร์ระบุว่าเป็นผลจากการวิจัยว่าแรงงานต่างด้าวชอบผลิตภัณฑ์สีสันสดใส ราคาเครื่องละไม่เกิน 1,000 บาท ตัวเครื่องมีกล้องถ่ายรูป เชื่อมต่อไร้สายบลูทูธ สามารถรองรับ 2 ซิมหน้าจอเป็นรูปธงชาติ 5 ธง
แม้จะเพิ่งเปิดตัว สุรินทร์ระบุว่าตัวแทนจำหน่ายจากแม่สอด และหนองคายติดต่อสั่งเครื่องไปจำหน่ายแล้ว โดยเชื่อว่าผู้ใช้จากพม่าและลาวจะเป็นกลุ่มตลาดหลัก
“พม่ายังไม่มีมือถือภาษาเขา เพราะเพิ่งเปิดประเทศ เราส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานงานเรื่องภาษาที่สถานฑูต ความพร้อมของภาษาในมือถืออาเซียนอยู่ที่ราว 95% ยอมรับว่ายังไม่ถึง 100% แต่วันนี้มีออเดอร์แล้ว 2 หมื่นเครื่อง สิ้นปีนี้ตั้งใจว่าแสนเครื่องก็ดีใจแล้ว”
สุรินทร์กล่าวว่า ประชากรพม่าในปัจจุบันมีจำนวนราว 30 ล้านคน สถิติล่าสุดที่ถูกบันทึกไว้คืออยู่ในประเทศไทยมากกว่า 3 ล้านคน คาดว่าโทรศัพท์มือถืออาเซียนจะได้เสียงตอบรับอย่างดีในราคาไม่ถึง 1,000 บาท
การเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดหลังจากมือถือแบรนด์อาม่าตกเป็นข่าวถูก กสทช.ห้ามจำหน่ายรุ่นอาม่าพลัสพร้อมกับโทรศัพท์มือถืออีก 280 รุ่น การเพิกถอนใบอนุญาตจำหน่ายรุ่นอาม่าพลัสทำให้ยอดขายมือถือแบรนด์อาม่าตกจากหลายหมื่นเครื่องต่อเดือน เป็นหยุดนิ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ สุรินทร์ระบุว่าบริษัทได้ติดต่อ กสทช.จนได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว
วันนี้ “อาม่าพลัส” ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “อาม่าดับเบิ้ลพลัส” เพิ่มความจุแบตเตอรี่เท่าตัว ซึ่งสุรินทร์เชื่อว่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคได้ ขณะเดียวกันก็มีการจับมือกับพันธมิตรอย่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และบริษัทประกันภัยอย่าง AIA
“ในช่วงเดือนสิงหาคม มือถือแบรนด์อาม่าจะมีจำหน่ายที่เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นโปรโมชันวันแม่ 1-31 ส.ค.นี้ ผู้ซื้อจะได้ตั๋วภาพยนตร์ 2 ใบฟรี ตรงนี้จะดึงความมั่นใจผู้บริโภคได้ว่าอาม่าขายได้ที่เซเว่น ขณะเดียวกัน AIA ก็เลือกเราเป็นพันธมิตร ซื้ออาม่าไปแถมลูกค้าหลักร้อยเครื่องเพราะภาพลักษ์เข้าใจผู้สูงอายุ”
ในช่วงครึ่งปีหลัง มีเดียอินฟินิตี้วางแผนเปิดตัวโทรศัพท์มือถืออีกราว 6 รุ่น โดยในไตรมาส 3 นี้ บริษัทมีแผนจะจำหน่าย “แท็บเล็ต ก ไก่” แท็บเล็ตภายใต้ชื่อ “ปิติซีรีส์” ที่บริษัทจะพัฒนาขึ้นเพื่อเด็กไทย โดยสามารถสร้างซอฟต์แวร์ตามความต้องการของโรงเรียน เบื้องต้นจะเตรียมบุกตลาดโรงเรียนระดับกลาง
“แท็บเล็ต ก ไก่ จะมีราคา 3,000 บาทนิดๆ กำลังทำซอฟต์แวร์พิเศษให้ใช้งานเหมือนกระดานชนวนได้ พื้นหลังเป็นสีดำ ส่วนฮาร์ดแวร์พัฒนาสมบูรณ์แล้ว เหลือแค่ซอฟต์แวร์ เราจะทำตามความต้องการของโรงเรียน เป็นรุ่นรองรับ WiFi อย่างเดียว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หน้าจอ 7 นิ้ว ยังศึกษาอยู่”
ขณะที่ไตรมาส 4 บริษัทมีแผนเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่น “มานะ-มานี” ตามชื่อตัวละครของเด็กในแบบเรียนไทยสมัยก่อน ระบุว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือของเด็กดีที่ใช้งานง่ายและไม่แพง พร้อมกับโทรศัพท์มือถือรุ่น “อาม่าโฮม” โทรศัพท์มือถือที่สามารถวัดความดันโลหิตได้ ทั้งหมดยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดการจำหน่ายในขณะนี้
Company Related Link :
Media Infinity
ที่มา: manager.co.th