อวาย่าเปิดฉากรุกเอสเอ็มอีไทย เชื่อเอสเอ็มอีจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่สร้างความแข็งแกร่งรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หลังไทยเริ่มตอบรับกระแสไอพีมากขึ้น ใช้ไอพี ออฟฟิศ โซลูชัน ที่ใช้ไอพีเทคโนโลยีเป็นหัวหอก พร้อมตั้งเวสท์คอม กรุ๊ปเน้นตลาดนี้โดยเฉพาะ เชื่อภายในปี 1 ปีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 2 เท่าตัว นายเรย์ เทสก์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคอาเชียน บริษัท อวาย่า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศมีแนวโน้มการนำไอพีเทคโนโลยีมาใช้งานในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเมื่อปีที่แล้วมีการใช้งานระบบสื่อสารที่เป็นแบบอนาล็อกถึง 80% เป็นไอพีเทคโนโลยีแค่ 20% แต่ภายหลังจากเกิดภัยพิบัติช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้ปีนี้มีการตื่นตัวลงทุนระบไอพีมากขึ้น ทำให้ระบบที่เป็นแบบอนาล็อกลดลงเหลือเพียง 60% เป็นไอพี 40% แต่เชื่อว่า อีกไม่นานก็จะเปลี่ยนมาใช้ไอพีเทคโนโลยีเกือบทั้งหมดในเร็วๆ นี้
ตลาดผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) นับเป็นอีกตลาดที่ใหญ่มาก โดยมีการประมาณกันว่าในปี 2554 มีมากถึง 3 ล้านราย ส่วนใหญ่ประมาณ 99.6% เป็นการทำธุรกิจภายในประเทศเป็นหลัก โดยสามารถสร้างรายได้ถึง 3.75 พันพันล้านบาท คิดเป็น 37% ของจีดีพีของประเทศ ประกอบกับอีกไม่นานประเทศไทยก็เข้าสู่กลุ่มประคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทำให้เอสเอ็มอีจำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบสื่อสารที่มีอยู่ให้รองรับการทำธุรกิจระหว่างประเทศมากขึ้น
ทางอวาย่าจึงได้แต่งตั้งให้บริษัท เวสท์คอน กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ระบบสื่อสารสำหรับตลาดเอสเอ็มอีที่เรียกว่า ไอพี ออฟฟิศ โซลูชัน เพิ่มขึ้นอีกตลาดหนึ่ง พร้อมๆ กับได้แต่งตั้งให้มาสเตอร์รีเซลเลอร์เพื่อช่วยในการขยายตลาดให้กับทางเวสท์คอน กรุ๊ปจำนวน 3 ราย
“ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการขยายตลาดของอวาย่าในประเทศไทยให้มากขึ้น จากเดิมที่มีรายได้หลักมาจากตลาดเอนเตอร์ไพรซ์ถึง 90% ตลาดเอสเอ็มอีถือว่า เป็นตลาดหนึ่งที่สำคัญที่นอกจากจะมีฐานผู้ใช้ที่ใหญ่มาก ยังถือว่า เป็นตลาดที่มีการเติบดตอย่างรวดเร็วอีกด้วย
นายเรย์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาอวาย่าทำตลาดระบบสื่อสารในกลุ่มเอสเอ็มอีมาบ้างแล้ว โดยมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% ส่วนใหญ่จะเป็นการทำตลาดผ่านพาร์ทเนอร์เป็นหลัก แต่ปีนี้ทางอวาย่าโฟกัสในตลาดเอสเอ็มอีมากขึ้น ซึ่งมีรูปแบบการทำตลาดที่แตกต่างจากการทำตลาดเอนเตอร์ไพรซ์ค่อนข้างมาก จึงได้มองหาพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพเข้ามาดูแลการทำตลาดนี้โดยตรงแทนอวาย่า ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้อวาย่ามีรายได้จากตลาดเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 1-2 เท่าภายใน 1 ปี
“อีกไม่นานนี้ ทางอวาย่าคงจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นไอพี ออฟฟิส โซลูชันในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้อวาย่าก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดรวมไอพีเทคโนโลยี”
นายสมนึก สุนทรเพ็ชรพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เวสท์คอน กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า โอกาสในตลาดเอสเอ็มอีสำหรับผลิตภัณฑ์ไอพี ออฟฟิศ โซลูชันของอวาย่ามีสูงมาก ที่สำคัญไอพี ออฟฟิศในตลาดต่างประเทศถือเป็นว่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดในส่วนของรายได้สูงเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 19.5% มีจุดเด่นตรงที่เป็นผลิตภัณฑ์เดียวในตลาดที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคอนแ ทคเซ็นเตอร์ เรื่องของการบันทึกระบบวิดีโอ ฯลฯ โดยไม่ต้องมีการนำผลิตภัณฑ์อื่นเข้ามาเชื่อมต่อเหมือนแบรนด์อื่นๆ ในตลาดที่จะต้องมีผลิตภัณฑ์เข้ามาเสริม 5-20 ผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญโซลูชันของอวาย่าสามารถรองรับกับเอสเอ็มอีที่มีพนักงานตั้งแต่ 5 คนจนถึง 1 พันคน ซึ่งถือเป็นโซลูชันสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะในเรื่องของการสื่อสาร
Company Relate Link :
Avaya
ที่มา: manager.co.th