หึ่ง! “บ๊วย” ขอหย่าตั้งแต่ “ตุ๊ก” คลอด “น้องภูมิ” ลูกคนเล็กได้ 20 วัน ด้าน “เก๋ ชลลดา” เผยตุ๊กเตรียมใจมาตั้งแต่น้องภูมิเกิดได้ 20 วัน ตอนนี้ครบหนึ่งปีพอดีทำให้เข้มแข็งระดับหนึ่ง แจงประทับใจคำพูดตุ๊กที่บอกว่า ตัวเขาเองทำดีที่สุดแล้วในการเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งบ๊วยเคยเลือกเป็นคู่ชีวิต แต่วันนี้สิ่งที่บ๊วยอยากได้มากที่สุดคืออิสรภาพ ซึ่งตนได้ทำให้อย่างที่ขอแล้ว พร้อมบอกเห็นแล้วสงสารจับใจ ปิดฉากชีวิตคู่ 7 ปีอย่างขมขื่น สำหรับ “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” และ “ตุ๊ก ชนกวนันท์” ที่ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่เขตสะพานสูง แม้จะมีโซ่ทองคล้องใจแล้วถึง 2 คน คือ “น้องเแพรว” และ “น้องภูมิ” แต่ก็สุดจะยื้อขาเตียงให้กลับมาแข็งแรงได้เหมือนเดิม โดยตุ๊กจะเป็นคนดูแลลูกทั้ง 2 คน ส่วนบ๊วยจะช่วยส่งเสียค่าเลี้ยงดูและส่งเรียน
ท่ามกลางข่าวลือสารพัด นอกจากปัญหาส่วนตัวของทั้งคู่ที่สะสมมานานแล้ว ยังมีเรื่องของมือที่สาม ที่ทางฝ่ายของบ๊วยเองก็ไปมีข่าวแอบสานสัมพันธ์กับทายาทร้านทองชื่อดัง “โม นภัสนันท์ พสวงศ์” แม้ว่าบ๊วยจะเคยออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวไปแล้ว แต่ว่ากันว่า ปัญหาอย่างหลังเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง ทั้งนี้ยังมีข่าวออกมาด้วยว่า ความจริงแล้วหนุ่มบ๊วยได้ขอหย่าตั้งแต่ตุ๊กคลอด “น้องภูมิ” ลูกชายคนเล็กได้เพียง 20 วัน แต่เป็นเพราะทั้งคู่ยังตกลงกันไม่ได้ ทำให้เรื่องราวลากยาวยื้ดเยื้อมาเป็นปี
ล่าสุดได้มีโอกาสเจอตัว “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี” เพื่อนรักของตุ๊ก ที่งาน Mega Gems Grand Opening ที่ เมกะ บางนา ซึ่งเก๋เป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้าง คอยปลอบโยน เห็นความเป็นมาเป็นไปของตุ๊กมาตลอด งานนี้เก๋ถึงกับออกปากเห็นใจเพื่อนรักสุดๆ อีกทั้งยังบอกด้วยว่า ตุ๊กเข้มแข็งระดับหนึ่ง เพราะเตรียมใจมาตั้งแต่ลูกชายคนเล็กเกิดได้ 20 วันแล้ว
“จริงๆ ตุ๊กเขาก็เข้มแข็งระดับนึง เกินกว่าที่เราคิดไว้ ก็ทราบมาตลอด เขาเองก็เตรียมตัวมาสักระยะแล้ว เก๋ว่าตั้งแต่น้องภูมิเกิดมาได้ 20 วัน ตอนนี้น้องภูมิก็เพิ่งจะขวบนึงเมื่อไม่นานมานี้ ก็ไม่กี่วันเอง เขาก็เตรียมใจ ทำใจมาสักพักแล้ว”
“เวลาที่มีอะไรไม่ดี แน่นอนเจ้าตัวเขาต้องรู้สึกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ที่มากกว่าปกติคือสายตาจากคนรอบข้าง อย่างเวลาที่เขาไปส่งลูกที่โรงเรียน พอมีข่าวออกมา ตุ๊กเขาก็กลัวกระทบกระทั่ง ที่เขาห่วงมากที่สุดก็คือน้องแพรวเพราะน้องแพรวเข้าโรงเรียนแล้ว เพื่อนๆ คนอื่นคงไม่ถามหรอก แต่บางทีผู้ปกครองคุยกัน แล้วมาถามตุ๊ก เขาก็ไม่อยากให้ลูกได้ยิน”
“เก๋เองเรียกว่าให้กำลังใจทุกรูปแบบเลย ครั้งนี้ถือว่าเก๋ได้ใช้บทบาทนำหน้าของคำว่าเพื่อนสนิท ว่ามันเป็นอย่างไร มันไม่ใช่แค่โทรศัพท์ แต่เก๋ไปอยู่ด้วยเลย ไปนอนที่บ้านเขา ไปรับ-ส่งน้องแพรว ไปดูแลน้องภูมิให้ ในช่วงที่เขาถ่ายละคร ไปเป็นเพื่อนตุ๊กหาหมอ ไปนอนที่บ้านเป็นเพื่อนตอนไม่มีพี่เลี้ยง ตอนที่เขายังหาพี่เลี้ยงให้น้องๆ ไม่ได้ เรียกว่าทำทุกอย่างเลย ครั้งนี้เลยได้ใช้บทบาทของความเป็นเพื่อนสนิทจริงๆ”
“จำได้เลย 7 ปีที่แล้วเจอตุ๊ก บอกคนนี้เป็นเพื่อนรักเราต้องเหนื่อยหน่อยนะ วันนั้นคือวันแต่งงาน ซึ่งเก๋เองดีใจจริงๆ เลยที่วันนี้ได้มีโอกาสทำหน้าที่อีกครั้ง เรียกว่าไปใช้ชีวิตอยู่กับเขา ตั้งแต่เช้ายันเย็น ตื่นมาอาบน้ำ ทำกับข้าว แปรงฟัน ไปส่งลูกเป็นเพื่อนกัน ไปตักบาตร กลับมาป้อนข้าวน้องภูมิ พาน้องภูมิไปหาหมอ ไปส่งน้องภูมิบ้านคุณแม่ตุ๊ก ตกเย็นก็ไปรับน้องแพรวอีก กลับมาส่งลูกเข้านอนตอน 6 โมงครึ่ง ทุกอย่างก็จะเป็นตารางสอน ในคิวเก๋ก็จะเป็น ตุ๊ก ชนกวนันท์ น้องแพรว น้องภูมิ ตลอดเวลา”
รู้สึกยังไงบ้างที่เราเคยส่งเพื่อนไปมีความสุขในวันแต่งงาน แต่วันนี้กลับเป็นแบบนี้?
“วันที่ส่งตุ๊กเข้าเรือนหอ ก็บอกเขาว่า ฝากตุ๊กด้วยนะ ขอให้ตุ๊กมีความสุขที่สุด รักกันจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต เมื่อวานก็พูดคล้ายๆ กัน แต่อาจจะปรับนิดนึง มันไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเราอยู่ด้วยกันตลอด แต่ ณ เวลานั้นคำพูดคงช่วยให้ตุ๊กรู้สึกในทันทีไม่ได้ ก็ได้แต่จับไหล่เพื่อน แล้วบอกว่าหมดทุกข์แล้วนะ”
“วันนั้นมันที่สุด บอกเขาเจอหน้าไม่ต้องพูดเลยนะ บอกไม่ต้องแค่ยื่นมือ บอกว่าทิ้งตัวมาเลย เก๋เองทราบอยู่แล้ว ว่าเขาจะไปกี่โมง ตุ๊กเขาบอก เขาไปเองได้ ไม่ต้องห่วง เขาไปกับผู้ช่วย เขาไม่อยากให้คนใกล้ชิดอย่างพ่อแม่เพื่อนไป เขาบอกรอต้อนรับตุ๊กกลับบ้านนะ”
เผยสุดประทับใจคำพูด “ตุ๊ก” ที่บอกว่า ตัวเขาเองทำดีที่สุดแล้วในการเป็นผู้หญิงคนนึง ที่ครั้งนึง “บ๊วย” เคยเลือกเป็นคู่ชีวิต แต่วันนี้สิ่งที่บ๊วยอยากได้มากที่สุดคืออิสรภาพ ซึ่งตนได้ทำให้อย่างที่ขอแล้ว
“วันหย่าตุ๊กเหมือนนางเอกมิวสิควีดีโอ เขาแข็งแรงมาก ตัวเขาเองไม่เป็นอะไร แต่คนรอบข้างเป็นแทนหมดเลย เก๋เองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้น มันไม่ได้เป็นการนัดทานข้าวนะ ที่จะกินข้าวสังสรรค์ไปเป็นเพื่อนกัน เราก็กลับมาพูดคุยกันที่บ้าน ทุกคนรอบข้างตุ๊กเห็นใจ เข้าใจ ประทับใจ สงสารในเวลาเดียวกัน แต่ที่ประทับใจคำพูดตุ๊กที่สุดมากๆ เลย ไม่รู้ว่าพี่บ๊วยได้ทันฟังรึเปล่า เขาบอกว่าเขาทำดีที่สุดแล้วในการเป็นผู้หญิงคนนึง ที่ครั้งนึงพี่บ๊วยเคยเลือกเป็นคู่ชีวิต วันนี้สิ่งที่ให้พี่บ๊วยได้มากที่สุดคืออิสรภาพ ตามที่พี่บ๊วยเขาต้องการ ที่เขาขอ”
เราเองรู้สึกแทนเพื่อนเลยมั้ย?
“สุดๆ ไปเลย มันเต็มที่จริงๆ คือพอทุกคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตุ๊ก ก็มีคนมาช่วยคิด นี่เราไม่ได้ยุแยงนะ แต่ก็บอกว่าค่าเลี้ยงดูทำให้เป็นระบบมั้ย เอาจริงๆ ตุ๊กเองไม่เคยคิดจะเรียกร้องแม้สักบาทเดียว วันนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่เพื่อนๆ ก็เออ...ส่งลูกไปเรียนหนังสือ ไปหาหมอ ก็ค่าดูแลน้องๆ ล่ะคะ เขาก็เป็นแก้วตาดวงใจของคนเป็นพ่อ เป็นแม่ ก็ให้คนมาช่วยดูตรงนี้ให้”
“ซึ่งเก๋เองไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายกับเอกสารตรงนี้เลย จนกระทั่งเมื่อวาน เพิ่งจะได้เห็น คนเรามาแต่ตัวก็ไปแต่ตัว ในชีวิตนี้เอาอะไรไปไม่ได้ มีลูกเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากที่สุดคือแพรวกับภูมิ แค่นี้เขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เจ้าตัวเขาประสงค์แบบนี้ เพื่อนๆ ที่จะช่วยก็ไม่อยากจะอะไร นึกออกมั้ยคะ เก๋เองไม่เคยพูดกับเพื่อนเลย ต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่สักครั้งเดียว”
“มันไม่ใช่ความรู้สึกโกรธ มันเลยจุดนั้นไปมาก เราเองรู้ล่วงหน้าทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้เตรียมใจไว้เพราะมันเกินกว่าที่เราคาดการณ์ ก็ตกใจและงงมากๆ แต่สุดท้ายพี่บ๊วยก็เป็นพี่ชายที่เก๋นับถือมากคนนึง เก๋เคยมองว่าเขาเป็นแฟมิลี่แมนมากๆ เลย ลูกคือที่สุด ครอบครัวคือทุกอย่างของชีวิตพี่บ๊วย ที่ทุกคนก็ฝันถึงแบบนั้น แต่พอวันนี้เกิดขึ้นมันเลยไม่มีคำพูดอะไร ไม่รู้จะพูดอะไร”
“ทุกคนถามว่าเก๋ได้คุยกับพี่บ๊วยมั้ย เก๋ก็ไม่รู้จะคุยจะถามอะไร เพราะเราอยู่ด้วยตลอด มันไม่ต้องถามอะไร เก๋ก็เคารพการตัดสินใจของพี่ชาย ถ้าพี่ชายคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะทำให้พี่มีความสุขในยามแก่เฒ่า หรือชีวิตที่เหลือของพี่ เพื่อนเก๋ก็ทำให้เต็มที่เลยค่ะ”
พร้อมฝากถึง “บ๊วย” ว่า…
“ก็พูดไปหมดแล้ว พี่บ๊วยก็โตมากแล้ว เก๋คงไม่กล้าไปสอน เก๋เองไม่มีประสบการณ์ชีวิตครอบครัวมาก่อนด้วย ก็ไม่ สามารถชี้แนะว่ารอก่อนได้มั้ย เก๋ว่าการจรดปากกาวันนั้นมันก็สุดท้ายแล้ว ก็อยากจะให้พี่บ๊วยแบ่งเวลาให้เป็นแล้วกันนะ”
ที่มา: manager.co.th