“น้องดา” เปิดใจถอนหมั้น “พระเจสัน” เพราะอยากให้หมดห่วง รับตกใจที่รู้ว่าจะบวชไม่มีกำหนดสึก แต่ไม่เสียใจ เพราะถือว่าพระคู่หมั้นให้โอกาสตนได้เสียสละครั้งใหญ่ บอกพบกันเพราะธรรมะ และจบลงด้วยธรรมะ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ แต่ก็ยังเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน พร้อมเผยพระเจสันจะไปปฏิบัติธรรมที่แคนาดา ส.ค.นี้ ทำเอาช็อกไปตามๆ กัน กับข่าวการถอนหมั้นระหว่าง “พระเจสัน ยัง“ กับ “น้องดา ดาริกา จาโกต้า” หลังทั้งคู่ได้จัดงานหมั้นตามแบบประเพณี ไปเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา และมีกำหนดจะจัดพิธีแต่งงานกันในช่วงปลายปีนี้ โดยมีเหตุผลสำคัญ คือ เนื่องจากพระคู่หมั้นมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะอยู่ในผ้าเหลืองแบบไม่มีกำหนดสึก
โดยในวันนี้ (27 มิ.ย.) ทางฝ่ายของน้องดาคู่หมั้น ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงด้วยตนเองขึ้น ที่โรงแรมโซฟิเทล โซ แบงคอก ในงานได้มี ตู่ นพพล โกมารชุน, ปรียานุช ปานประดับ และ ส้ม ชนากานต์ ชัยศรี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ “พระเจสัน” นับถือร่วมในการแถลงข่าวด้วย
ดา : ขอขอบคุณมากๆ นะคะที่มาในวันนี้ ซึ่งพระเจสันมาไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้อยู่ทางโลกแล้ว วันนี้ตื่นเต้นมากค่ะ วันนี้เลยต้องมีพี่ส้ม ชนากานต์ คอยช่วย เพราะบางอย่างดาก็ไม่เข้าใจภาษาไทย พระเจสันก็เป็นคนของประชาชน เพราะท่านมีแฟนละคร ในการแถลงข่าววันนี้ก็เพื่อให้ความชัดเจนแก่ทุกคน ก่อนที่ท่านจะเดินทางไปแคนาดาเพื่อศึกษาพระธรรมต่อ”
“สาเหตุที่มีการถอนหมั้น ซึ่งตามกำหนดเดิมท่านมีกำหนดบวช 1 เดือน แต่เมื่อครบแล้ว ท่านได้มีการพูดคุยกับพ่อแม่ดา และดาเองว่าท่านมีความปรารถนาบวชต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ไม่ได้ปรารถนาทางโลกแล้ว เราฟังก็ตกใจนิดนึง ซึ่งเราพูดคุยกันหลายครั้งสุดท้ายท่านก็บอกเองว่า นี่คือ สิ่งที่ท่านต้องการ อยากสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป”
“ท่านได้ขอโทษต่อพ่อแม่ดาที่ไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาได้ พอดาตั้งสติดูดีๆ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก เพราะดากับครอบครัวเป็นครอบครัวที่ปฏิบัติอยู่แล้ว และไม่ใช่ง่ายๆ ที่ใครจะทำได้อยู่แล้ว ท่านมีบุญมากๆ ดาก็ถือเป็นเหมือนสะพานบุญ ดารู้ว่าสิ่งนี้เป็นบุญจริงๆ แล้วนี่คือโอกาสของดา ดาทำจิตให้เป็นกุศล ดามีโอกาสทำบุญอันยิ่งใหญ่นี้”
“เราอนุโมทนากับท่านเสียสละเพื่อศาสนา ท่านจะได้สอนคนอีกมาก หลายคนถามว่า เราเสียใจไหม อย่างที่บอกว่าตกใจ แต่พอมีสติเราคิดอย่างจิตมีกุศล ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี ท่านอยู่ในทางที่ขาวสะอาด แล้วไม่ได้มีอะไรเทียบได้เลย มันไม่มีเรื่องอะไรที่น่าเสียดายท่านให้โอกาสดาได้เสียสละด้วยซ้ำ”
ส้ม : “คือ น้องดาจะหมายถึงการถอนหมั้นครั้งนี้ เพื่อให้พระเจสัน ก็คือ เป็นบุญที่ใหญ่”
ดา : “ใช่ค่ะ การถอนหมั้นเป็นอะไรที่ให้ท่านหมดห่วง ไม่ต้องกังวล เพื่อให้ท่านได้สืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างที่ท่านต้องการ อยู่นานๆ ไม่มีกำหนด การถอนหมั้นดาคิดว่าท่านคงสบายใจ ตัวดาเองก็ยังต้องอยู่ทางโลก เพราะมีภาระหน้าที่เป็นครูสอนเด็ก เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ อนาคตก็อาจมีความรับผิดชอบอีก ดาเชื่อว่าคนอย่างท่าน ถ้ามุ่งมั่นอะไรจะทำได้ดีอย่างแน่นอน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและจะเป็นผลดีกับส่วนรวม และชาวพุทธส่วนใหญ่ได้อย่างมาก หลายคนก็ถามถึงของหมั้นตามประเพณีอินเดียจะไม่มีการหมั้นหมาย”
ส้ม : “ตามประเพณีอินเดียนั้น ไม่มีการให้ผู้ชายมอบของหมั้นให้ผู้หญิง แต่เพราะพระเจสันเป็นคนไทย เลยจัดให้ เพื่อเป็นเกียรติแก่ฝ่ายหญิงเพราะฉะนั้นครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ได้รับ และคืนให้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
ดา : “คนตั้งคำถามแน่นอนว่า เข็ดไหมกับความรัก จริงๆ ดาก็ไม่เคยใช้ชีวิตคู่กับใคร ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เพราะฉะนั้นเลยไม่ได้เข็ดหรืออะไรค่ะ ดาตอบไม่ได้ว่าในอนาคตดาจะมีใครไหม ดาพูดไม่ได้เพราะเป็นเรื่องอนาคต ทุกวันนี้ดาก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด วันนี้เหมือนเป็นงานบุญด้วยซ้ำ อยากให้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยซ้ำ ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหลายๆ คน วันนี้ก็ได้จัดเตรียมสังฆทานมาให้ทุกคนได้ร่วมทำบุญ เราพบกันเพราะธรรมะ ตอนนี้ก็จบลงด้วยธรรมะ ถึงแม้เราไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ แต่เราก็ยังเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน”
ตู่ นพพล : “ผมเป็นตัวแทนของพระเจสัน พระเจมีความประทับใจกับครอบครัวน้องดาตั้งแต่พบกัน เพราะพระเจเป็นคนที่ขาดซึ่งอย่างที่ทราบ พ่อ-แม่พระเจได้เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อได้มาพบกับครอบครัวน้องดาจึงเป็นสิ่งที่ดี น้องดาเหมือนสะพานบุญที่ชักนำให้พระเจได้พบทางธรรม ดาคอยแนะนำและช่วยเหลือตลอด และครอบครัวน้องดาก็เป็นครอบครัวอินเดียพุทธที่เคร่งครัดกับศาสนาในเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปทั้งคู่ได้หมั้น และจนพระเจได้บวช”
“เราไม่ทราบหรอกครับว่าเกิดอะไรขึ้น กับพระเจที่ตัดสินใจจะสละทางโลก คิดว่า เป็นเพราะศาสนามากกว่า เกิดจากคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ลูกผู้ชายคนนึงได้เรียนรู้พระธรรม ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม ในความคิดของผมและคุณนุช สิ่งที่สวยงามมากไปกว่านั้นเกิดขึ้นจากการเสียสละของน้องดา ที่เสียสละความรักให้พระพุทธศาสนา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก”
“ตอนแรกที่เราได้ฟังจากปากน้องดา เรารู้สึกอิ่มใจมาก ว่าน้องดาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อวานยังได้คุยกับพระเจ ซึ่งท่านยังห่วงอยู่ว่าน้องดาและครอบครัวจะถูกคนมองว่าอย่างไร ถ้าท่านมาวันนี้ได้ คงมาเอง แต่ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เราเองก็เป็นตัวแทนและท่านได้ส่งจดหมายมาให้ ผมขออนุญาตอ่านนะครับ”
ระหว่างนี้ “ตู่ นพพล” ได้อ่านเนื้อหาของจดหมายแถลงการณ์ที่ “พระเจสัน ยัง” ส่งมาซึ่งมีเนื้อหาดังนี้...
เจริญพรญาติโยมทุกท่าน อาตมาพระเจสัน ขอประกาศแจ้งให้ทราบทั่วกันว่า อาตมาได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เพื่อทดแทนบุญคุณของบิดามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว และเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมานั้น อาตมาได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมอย่างเคร่งครัด จนได้ลึกซึ้งเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงมีความประสงค์ครองอยู่ในสมณเพศอย่างไม่มีกำหนด เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา อาตมาขอใช้โอกาสนี้ยกย่องสรรเสริญการเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ของโยมดาริกา และครอบครัวที่ไม่ขัดข้อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบในทางโลกอยู่บ้าง แต่ครอบครัวของโยมดาริกา ก็พร้อมที่จะฟันฟ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อรักษาสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า โดยในขณะนี้อาตมากำลังศึกษาการนั่งสมาธิขั้นสูง
ตู่ นพพล “นอกนั้นก็เป็นรายละเอียด แต่เดี๋ยวทางเราจะมอบให้สื่อมวลชนอยู่แล้ว สิ่งนึงที่อยากจะเรียนให้ทราบว่าพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ วันนี้เป็นวันดีที่เราจะร่วมอนุโมทนาบุญให้ลูกผู้ชายคนนึงได้บวชเรียน และดำเนินชีวิตในทางธรรมและผู้หญิงคนนึงได้เสียสละเพื่อพระพุทธศาสนา ผมและคุณนุชอยากร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ”
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า บวชไม่สึก กับบวชไม่มีกำหนดสึก “พระเจสัน” เจตนาอย่างไร?
ดา : “จริงๆ เรื่องนี้ดาบอกไม่ได้ แต่สิ่งที่ท่านพูด คือ ท่านอยากครองอยู่ในผ้าเหลืองไม่มีกำหนด และไม่ปราถนาทางโลกแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะไม่สึกหรือยังไง ดาไม่ได้อยากพูดถึง เพราะเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ เรื่องที่ท่านตัดสินใจแบบนี้ เราก็พูดคุยกันตลอดหลังจากที่ครบกำหนด1เดือน ท่านก็ได้พูดคุยกับครอบครัวดา ว่าท่านไม่ได้ปราถนาทางโลก อยากให้เราร่วมอนุโมทนา มีการพูดคุยกันตลอด ซึ่งท่านจะไปแคนาดาช่วงสิงหาคมนี้ แต่ดาก็ไม่ทราบจะอยู่นานแค่ไหน”
ตู่ นพพล : “คือ พระเจจะตามพระเถระชั้นผู้ใหญ่ท่านนึงไปที่นั่น และชวนกันไปที่นั่นเพื่อศึกษาและได้ฝึกปฏิบัติธรรม”
ทั้งนี้ “น้องดา” ย้ำเป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากเลย ซ้ำยังสนับสนุนด้วยซ้ำ
ดา : “ไม่เลยค่ะ เราต้องอนุโมทนาและสนับสนุน”
ตู่ นพพล : “ไม่ยากหรอกครับสำหรับคนปฏิบัติธรรมมาทั้งชีวิตครับ ที่ท่านต้องไปที่แคนาดาเพราะไม่ใช่ความอยากไปนะครับ แต่เป็นเพราะพระเถระที่กำลังสอนพระเจท่านต้องจำวัดที่นั่น ดังนั้นพระอาจารย์ไป ก็ต้องตามไป ท่านจะได้สั่งสอนอย่างใกล้ชิด รู้สึกว่าที่แคนาดาก็มีสถานปฎิบัติธรรม และชาวต่างชาติก็เข้ามาปฎิบัติธรรมกันเยอะ กำหนดไปประมาณสิงหาคมเพื่อให้ทันเข้าพรรษา แต่ผมไม่ทราบชื่อวัดนะครับ”
“ก็ยังสามารถใส่บาตร หรือไปพบได้อยู่ครับ ตามไปได้ครับ ก็ยังคุยกันว่าอยากจะตามไปใส่บาตรที่แคนาดา (หัวเราะ) การที่พระเจจะเดินทางไปต่างประเทศต้องไปหาพระเถระชั้นผู้ใหญ่ถึง5รูป เพราะให้อนุมัติ เพื่อพระชั้นผู้ใหญ่ได้ถามถึงความตั้งใจจริงในพระพุทธศาสนาจริงหรือเปล่าประมาณนี้ครับ”
ส้ม : “ที่ได้เจอท่านมา ท่านก็ผอมลงเพราะท่านปฎิบัติเคร่งครัด ซึ่งก่อนที่ท่านบวชก็สุขุมอยู่แล้ว”
ปรียานุช : “คือ ตอนที่ท่านยังถ่ายละครกับพวกเรา จริงๆ ท่านเคร่งอยู่แล้ว ก่อนเข้าฉากท่านจะนั่งสมาธิ ท่านทานเจ มังสวิรัติ อยู่แล้ว เดี๋ยวจะคิดว่าเพิ่งมาเป็นตอนบวช”
ท่านให้ข้อคิดอะไรไหม?
ดา : “เรื่องธรรมะเป็นสิ่งที่ดากับพระเจคอยสนับสนุนกันมาตลอด พอท่านตัดสินใจตรงนี้ เรารู้ว่าเป็นสิ่งที่ดีและพระเจก็คิดว่าดาเข้าใจ ก็เลยไม่ได้มีการให้ข้อคิดอะไรมากค่ะ”
โดยเนื้อหาในจดหมายแถลงการณ์ที่ “พระเจสัน ยัง” ส่งสารมายังสื่อมวลชนมีเนื้อหาทั้งหมดดังนี้
อาตมา พระเจสัน ปิยาจาโร (ยัง) ขอประกาศแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า หลังจากที่อาตมาได้เข้ามาสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อทดแทนคุณบิดา-มารดา ที่ได้ล่วงลับไปแล้วเมื่อวันที่ 1 เม.ย. อาตมาได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติทำวัตรและรักษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด อยู่มาได้เกิดความซาบซึ้ง เลื่อมใส และศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงมีความประสงค์ที่จะอยู่ในสมณเพศต่อไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา
อาตมาจึงขอโอกาสนี้ยกย่องสรรเสริญความเสียสละอันยิ่งใหญ่และจิตใจอันประเสริฐยิ่งของโยมดาริกาและครอบครัวจาโกต้า ที่ไม่ขัดข้อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากทางโลกอยู่บ้าง แต่ทางโยมดาริกาก็พร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อรักษาธรรมที่ยิ่งใหญ่กว่า และร่วมอนุโมทนาบุญกับอาตมา
ขณะนี้อาตมา กำลังศึกษาวิชาสมาธิชั้นสูง รุ่นที่ 1 ร่วมกับพระสงฆ์ครูสมาธิ นักวิชาการจากทั่วประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิทางการเมืองรวมกว่า 1,500 ชีวิต ณ วัดธรรมมงคล โดยมีพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร) เป็นอาจารย์ผู้สอนหลักสูตรด้วยตัวท่านเอง และหลังจากจบหลักสูตรประมาณต้นเดือน ส.ค.นี้ อาตมาจะเดินทางไปพำนักอยู่ที่วัดราชธรรมวิริยาราม 3 เมืองแอดแมนตั้น ประเทศแคนาดา
สุดท้ายนี้ อาตมาขอขอบคุณโยมดาริกาและครอบครัวจาโกต้าทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณนพพล โกมารชุน คุณปรียานุช ปานประดับ ครอบครัวเหลืองสวัสดิ์ ครอบครัวพุทธินันทน์ ครอบครัวพวงมาลา ครอบครัวสารกิจปรีชา ตลอดจนครูบาอาจารย์ วงการบันเทิงไทย ผู้ใหญ่ทุกท่าน พี่น้องและเพื่อนทุกคน รวมถึงแฟนเพลง/ละคร ฯลฯ หากมีสิ่งใดเคยล่วงเกินท่านทั้งหลายด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมและอนุโมทนาบุญในเส้นทางธรรมของอาตมาด้วย
ที่มา: manager.co.th