มีการเปิดเผยรายละเอียดจากเอกสารที่ทางอัยการส่งให้กับศาล เกี่ยวกับโทษของนาย “คริสโตเฟอร์ เชนีย์” ในคดีการแฮกคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือของคนดังจำนวนมาก ที่อาจทำให้เขาต้องชดใช้ความผิดในเรือนจำถึง 71 เดือน และจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินสูงถึง 150,000 เหรียญ เลยทีเดียว คริสโตเฟอร์ เชนีย์ แฮกเกอร์ผู้ก่อคดีดังสั่นสะเทือนฮอลลีวูด อาจต้องจ่ายเงินค่าเสียหายให้กับเหยื่อ และเข้าไปชดใช้ความผิดในเรือนจำเป็นเวลา 5 ปี 11 เดือน ในคดีความผิดที่เขาแอบแฮกแอกเคานต์โทรศัพท์ และอีเมล ของคนดังในวงการบันเทิงร่วม 50 ราย รวมถึงขโมยภาพนู้ดของดาราสาวคนสวย สการ์เล็ต โจแฮนสัน ที่เธอถ่ายเพื่อส่งให้กับหนุ่ม ไรอัน เรย์โนลด์ สามีในขณะนั้นดูกันเป็นส่วนตัว แต่กลับถูกนำรูปดังกล่าวไปเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ จนกระจายไปในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว
กับความผิดทั้งหมดพนักงานอัยการได้ร้องขอคำสั่งลงโทษจากศาล ให้ เชนีย์ จ่ายค่าเสียหายให้ โจแฮนสัน เป็นเงิน 66,179.46 เหรียญ (ประมาณ 2,100,000 บาท), คริสตินา อากีเลรา 7,500 เหรียญ (23,900 บาท), เรเน โอลสเต็ด 76,767.35 เหรียญ (2,400,000 บาท) และกองทุน Aftra Health Fund ที่ถูกเขาแฮกข้อมูลอีก 10,374.59 เหรียญ (330,000 บาท) รวมแล้วเป็นเงินประมาณ 150,000 เหรียญ หรือ 4.8 ล้านบาท
การสอบสวนคดีความที่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเรียกว่า Operation Hackerazzi ประสบความสำเร็จสามารถจับกุมตัว นายคริสโตเฟอร์ เชนีย์ วัย 35 ปี ที่มีพฤติกรรมแอบแฮกข้อมูลจากอีเมลของคนดังจำนวนมากระหว่าง พ.ย.2010 - ต.ค.2011 ได้เมื่อปีก่อน แม้จะปฏิเสธในตอนแรก แต่ต่อมาเขายอมรับสารภาพว่าตนเองได้กระทำความผิดเหล่านี้ไปจริง
โดยหนุ่มวัย 35 ปี บอกในการให้สัมภาษณ์ว่า ทุกอย่างเริ่มต้นจากความ “อยากรู้อยากเห็น” เท่านั้น แต่แล้วกลับกลายเป็นการเสพติดที่ไม่สามารถหยุดยั้งพฤติกรรมของตนเองได้ เชนีย์ ยังเอ่ยปากกล่าวขอโทษอย่างถึงที่สุด กับเหยื่อทุกคนที่ต้องถูกล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว และพร้อมยอมรับโทษ นอกจากนั้น ยังอ้างว่าตนเองรู้สึก “โล่งใจ” เสียด้วยซ้ำที่ถูกจับ เพราะเชื่อว่านี่จะเป็นหนทางที่จะทำให้เขาก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ดูเหมือนว่า เชนีย์ จะไม่ได้สำนึกผิดอะไรอย่างที่เขากล่าวอ้าง โดยอัยการ ลิซา เฟลแมน ได้กล่าวในเอกสารที่ส่งถึงศาลว่า แม้จะถูกจับกุมตัวแล้ว ชายผู้นี้ก็ไม่ได้หยุดพฤติกรรมทำนองนี้แต่อย่างใด โดยในวันที่เขาถูกจับกุม เชนีย์ ยังแสดงความเร่งรีบในการกระทำความผิดดังกล่าวต่อไป ก่อนเจ้าหน้าที่ FBI จะเข้าถึงตัว และยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขาได้ นอกจากนั้น ในภายหลังยังมีอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ที่ FBI ตรวจพบลิสต์อีเมลของเหยื่อ ในบ้านที่พักอาศัยของเขา
ที่มา: manager.co.th