“แป้ง” แรงไม่หยุด ฉะ “ฟลุค” กลับไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และไม่มืออาชีพในการทำธุรกิจ เหน็บตนถอนหุ้นออก คงทำให้อีกฝ่ายใช้เงินร้านไปกับเรื่องส่วนตัวได้อย่างสบายใจเฉิบ ลั่นรับไม่ได้กับนิสัยแบบนี้ ไม่ขอร่วมงานด้วยอีก เผยหุ้นญี่ปุ่นกำลังจะถอนตาม ทั้งพนักงานก็ลาออกตามมาอยู่กับตน รับตัวเองตาต่ำมากที่เคยคบหาด้วย
ยังไม่เลิกสาดน้ำลายฉะกันแบบถึงพริกถึงขิง สำหรับสาว “แป้ง อรจิรา แหลมวิไล” กับคาสโนว่าฆ่าไม่ตาย “ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช” ซึ่งเมื่อครั้งรักยังหวานก็ร่วมหุ้นเปิดร้านตัดผม “ฮาชิ ซาลอน” ย่านทองหล่อด้วยกัน แต่พอเลิกรากันไปได้ร่วม 2 ปี จู่ๆ สาว “แป้ง” ก็เกิดอาการตบะแตกโพสต์ด่าสาปส่งอดีตหวานใจบนเฟซบุ๊คว่า “Go to hell” จนข่าวหลุดรั่วออกมา ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับพร้อมเผยว่า ได้ตัดสินใจถอนหุ้นออกจากร้านแล้ว เพราะทนพฤติกรรมของ “ฟลุค” ไม่ไหว เมื่อก่อนตนโง่และตาบอดที่ไปหลงรักคนแบบนี้
จากนั้นหนุ่ม “ฟลุค” ก็ออกมาโต้ทันควันด้วยสีหน้านิ่งเฉย บอกตนก็ไม่อยากเจอสาว “แป้ง” อีก และตอนนี้ก็ตาสว่างแล้วเช่นกัน แถมบอกที่อีกฝ่ายพูดอย่างนั้นเป็นเพราะยังเด็ก และทำธุรกิจไม่เป็น พอถอนหุ้นไปแล้วทำให้กิจการ และพนักงานในร้านดีขึ้น พอเจออีกฝ่ายแขวะกลับมาอย่างนี้ สาว “แป้ง” เลยของขึ้นอีกรอบ ขอฉะกลับอีกดอกว่า ตนทำธุรกิจมาเยอะ แต่อีกฝ่ายต่างหากที่ไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เหน็บตนถอนหุ้นออกมา คงทำให้อีกฝ่ายใช้เงินของร้านได้อย่างสบายใจเฉิบ
“จริงๆ แป้งก็ทำธุรกิจมาเยอะพอสมควรนะ แต่เท่าที่รู้ก็ไม่เห็นพี่ฟลุคทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ก็เลยไม่รู้ว่าที่เขาพูดนี่หมายความว่ายังไง แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เลิกแล้วต่อกัน ถอนหุ้นออกมาแล้ว ที่เขาบอกว่าพอแป้งถอนหุ้นออกมาแล้วกิจการดีขึ้น หมายถึงเขาจะได้ใช้ตังค์ร้านได้ง่ายขึ้นไง เพราะตอนมีแป้ง แป้งก็จะคอยสอดส่องคอยดูว่าเงินมันไปไหนบ้าง ใช้จ่ายทำอะไรบ้าง พอแป้งไม่อยู่ก็สบายไงเพราะเขาคุม แต่ไม่ใช่เขาสบายใจคนเดียวนะ แป้งก็สบายใจค่ะ เพราะตอนแป้งอยู่ก็ไม่สบายใจ กับวิธีการทำงานของเขาเหมือนกัน เห็นแล้วหงุดหงิด แต่ตอนนี้สบายใจมาก และดีใจมากที่ถอนออกมา”
“ไม่ได้คิดว่าเขาให้สัมภาษณ์แรงนะ แป้งไม่คิดอะไรอยู่แล้วเหมือนอย่างที่แป้งเคยสัมภาษณ์ไป ก็แค่ระบายความรู้สึก ไม่ได้สนใจว่าเขาจะออกมาพูดหรือว่าอะไรยังไง เพราะแป้งไม่สนใจเสียงเขาอยู่แล้ว และที่เขาบอกว่าทะเลาะกันครั้งนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องส่วนตัวคือนิสัยส่วนตัวค่ะ แป้งไม่สามารถร่วมงานกับคนนิสัยแบบนี้ได้ รับไม่ได้ ก็เลยอาจจะเกี่ยวว่าเอานิสัยส่วนตัวของคนสองคนมาตัดสิน คือถ้าต้องเห็นคนๆ นี้และนิสัยแบบนั้น เราก็รับไม่ได้ เห็นแล้วยี้ค่ะ”
เผย “ฟลุค” ไม่มืออาชีพในการบริหารงาน และชอบเอาเงินร้านไปใช้จ่ายส่วนตัว บอกตอนนี้หุ้นส่วนคนญี่ปุ่นจะถอนหุ้นออกเช่นกัน ซึ่งตนไม่ได้เป็นคนชักชวนแต่อย่างใด
“สาเหตุหลักที่ถอนหุ้นก็เพราะรำคาญค่ะ ไม่ชอบนิสัยแบบนี้ อย่าได้ทำงานร่วมกันอีกเลย คือมันก็เป็นเรื่องนิสัยของเขาที่เอามาบริหารร้าน และการทำงานที่มันไม่ค่อยมืออาชีพ หรือว่าการเอาเงินร้านไปใช้จ่ายในเรื่องส่วนตัว การใช้เด็กที่ร้านไปทำอะไรในเรื่องที่มันเป็นส่วนตัว คือมันไม่ถูกค่ะ แต่พอแป้งถอนหุ้นออกมา เขาก็สามารถใช้เด็กในร้านทำอะไรก็ได้ เขาก็อาจจะสบายใจกว่าที่เราอยู่ด้วย เพราะถ้าแป้งอยู่ไม่ยอมอยู่แล้ว คนอื่นก็เป็นหุ้นย่อยหมด คนอื่นมี 5-10% เพราะฉะนั้นคนที่ถือเป็นหุ้นใหญ่สุดคือเขา”
“ตอนที่ยังมีหุ้นอยู่แป้งก็ปล่อย เพราะแป้งไม่ค่อยมีเวลา จะถ่ายละครทำงานค่อนข้างเยอะ เขาก็อาจจะว่างมาก เข้าร้านทุกวัน จริงๆ แป้งก็มีการพูดคุยกับหุ้นส่วนคนอื่นเหมือนกัน แต่ว่าเขาก็แค่หุ้นเล็ก เขาไม่จำเป็นจะต้องมาอะไรมากมาย แต่หุ้นที่เป็นของคนญี่ปุ่นก็จะถอน ซึ่งเขาเป็นเพื่อนของแป้ง แต่ว่าพี่ฟลุคคงไม่ยอมซื้อมั้ง เพราะก็กลัวว่าถ้าเกิดทางญี่ปุ่นถอนไปคงลำบาก แต่เขาก็จะถอน เขาแมสเซจมาบอกแป้งว่าเขาจะถอน แล้วดี๋ยวเขาจะอีเมล์ไปบอกกับพี่ฟลุค ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเป็นยังไงแล้ว”
“ตอนนี้หุ้นส่วนที่แฮปปี้มันก็เหลือแต่เขาคนเดียว แต่แป้งไม่เคยไปล็อบบี้ชักชวนคนอื่นมานะ เพราะถ้าทำจริงก็ต้องออกมาหมดแล้วสิคะ นี่แป้งออกมาคนเดียว ตอนนี้แป้งยังแฮปปี้อยู่ดี แต่เท่าที่แป้งรู้หลังๆ คนก็ไม่ค่อยมีในร้านแล้วนะ ตอนนี้เด็กที่ร้านก็มีออกมาอยู่กับแป้ง แป้งว่าเขาคงสบายใจกว่ามั้งคะ แล้วจริงๆ ต้องบอกว่าแป้งไม่ใช่คนแรง แต่แป้งเป็นคนตรง เอาเป็นคนๆ ใครดีมาก็ดีไป ใครเป็นยังไงมาก็เป็นอย่างนั้น”
บอกอีกฝ่ายไม่อยากเจอตนก็ดีเหมือนกัน และไม่ขอร่วมงานกันอีก เหน็บช่วงที่คบหาเป็นช่วงไม่ฉลาดของชีวิต และรู้สึกตัวเองตาต่ำมาก
“เขาไม่อยากเจอแป้งก็ไม่เป็นไรค่ะ ดีแล้วอย่าเจอกันเลย ไม่ซีเรียส เพราะแป้งตรงๆ ไม่มีอะไรอยู่แล้ว คือแป้งรู้สึกยังไงก็พูดอย่างนั้น แป้งไม่ได้ตัดสินใจว่าเราอาจจะผิด เขาอาจจะผิดหรือใครอาจจะผิด เพียงแต่คนอย่างแป้งรับไม่ได้กับคนแบบนี้แค่นั้นเอง เขาอาจจะถูกก็ได้ แต่แป้งรับไม่ได้กับคนแบบนี้ ซึ่งตอนนี้แฮปปี้สุดๆ สบายใจมาก แต่ถ้าให้ร่วมงานกันอีก ไม่ดีกว่า”
“ส่วนฟีดแบคที่เคยพูดว่า Go to hell โอ๊ย....ไม่ใส่ใจ รกสมอง แต่ที่เขาบอกว่าแป้งนิสัยเด็กเนี่ย แหม....ไม่มีอะไรจะพูด ไม่โกรธค่ะ คือถ้าแป้งเด็ก พี่ฟลุคก็คงอื้อหือ(หัวเราะ) ไม่มีคำพูด ไม่มีคำบรรยายค่ะ คือมันเป็นช่วงไม่ฉลาดของชีวิต ก็เหมือนอย่างที่พูดไปนั่นแหละ ก็ร่วมงานกันได้ไม่มีปัญหา เคยเป็นมั้ยเวลามีแฟนแล้วพอเลิกกัน ก็จะรู้สึก โอ้โห…ตอนนั้นทำไมตาต่ำ(เน้นเสียง)ขนาดนี้ เคยรู้สึกกันมั้ย คือมันเป็นอย่างนั้นค่ะ”
“นี่แป้งไม่ได้แฉเลยนะ แป้งไม่ได้พูดว่าเขาทำอะไรยังไง ความรู้สึกแป้งชัดเจน คนด่าเราก็เยอะ คือไม่ใช่ว่าที่แป้งพูดไปมันเป็นสิ่งดีกับตัวเองนะ คนก็ด่าว่ารู้อยู่แล้วต้องเป็นอย่างนี้ แล้วทำไมยังจะอีก ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตอนนั้นเป็นอะไร(หัวเราะ) แต่จริงๆ มันก็จบไปแล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงมันก็ได้ พูดไปแล้วจบไปแล้ว บอกไปแล้วว่ายังไงเพราะอะไร ก็ไม่มีอะไร”
“จะโพสต์ข้อความแบบนี้อีกมั้ย ก็ถ้าเกิดมันสุดๆ จริงๆ ไม่ไหวจริงๆ ก็คงโพสต์ เพราะอันนั้นตั้งใจให้เห็น ไม่ใช่ว่าโพสต์ส่งๆ คือตั้งใจให้เห็นเลย เราโมโห จากนี้ก็คงไม่มีอะไรจะบอกเขาหรอก รู้ๆ กันอยู่(หัวเราะ) ขอไม่พูดดีกว่า คือถ้ารู้เรื่องจริงๆ จะเข้าใจค่ะว่า ทำไมเขาถึงไม่ถือสา ไม่พูดดีกว่า”
พร้อมเผยถึงฟีดแบคหลังจากไปสลัดผ้าถ่ายชุดว่ายน้ำมาล่าสุด บอกมีทั้งชอบและไม่ชอบ แต่แอบดีใจที่มีคนเอารูปที่ตนเคยถ่ายท่าโก้งโค้ง มาเทียบกับสาวสุดเซ็กซี่รุ่นพี่อย่าง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ”
“ฟีดแบคชุดว่ายน้ำก็ชอบแล้วแต่รูป (หัวเราะ) พอดีตอนที่ถ่ายมันเป็นช่วงนั้นของเดือน ท้องก็จะป่องๆ หน่อย แต่ก็โอเคชอบ ภาพมันออกมาใสๆ คือปีที่แล้วก็ถ่าย พอถ่ายไปแล้วมันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วก็อยู่ที่ว่าให้พีอาร์ตัดสินใจด้วย อยากให้ถ่ายก็ถ่าย ซึ่งฟีดแบคคนรอบข้างก็ชมนะคะ แต่มันจะมีบางรูปที่เขาบอกว่าอ้วน คือตัวจริงก็อ้วนค่ะยอมรับ(หัวเราะ)”
“แป้งคงไม่ถ่ายแก้มือ ปีเดียวเล่มเดียวก็พอแล้วมั้ง คือตั้งใจไว้ว่าจะปีละหนึ่งเล่ม แล้วเราก็ให้เกียรติหนังสือด้วย ก็ไม่อยากจะลงเล่มนี้แล้วไปลงเล่มอื่นอีก ไม่ได้ลดความร้อนแรงลงนะ เพราะปกติก็ไม่มีอะไรจะไปร้อนแรงอยู่แล้ว(หัวเราะ) ก็ขอแบบเป็นผู้ดี ดูดี สวยๆ บ้าง แต่ที่มีคนเอารูปแป้งที่ถ่ายโก้งโค้งกับพี่อั้มมาเทียบกัน จะบอกว่าเทียบกับพี่อั้มแป้งก็จบน่ะสิ แป้งคงสู้พี่อั้มไม่ได้หรอกค่ะ(หัวเราะ) แต่ก็ยังดีที่มีคนเอาไปเปรียบกับพี่อั้ม ยังเปรียบกับคนที่ดูดีนะ ก็รู้สึกดี”
ที่มา: manager.co.th