“มารี” เผยโดนปลดละคร 2 เรื่อง มีแต่คนสงสาร ยืนยันจะทำงานในวงการต่อไป ต่อให้ไม่มีใครยืนข้างๆ ก็ตาม บอกข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีผลกับความรู้สึกบ้าง แต่ไม่เก็บเอามาเครียด ส่วนเรื่องทำงานไม่มีวินัยได้เคลียร์ไปหมดแล้ว เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่พักใหญ่ กับเรื่องที่ช่อง 3 ปลดนางเอกน้องใหม่สาว “มารี เบิร์นเนอร์” ออกจากละครถึง 2 เรื่อง หลังขาดระเบียบวินัยในการทำงาน และไม่มีมนุษย์สัมพันธ์กับเพื่อนๆ ในกองถ่ายละครเรื่อง “แววมยุรา” จนผู้ใหญ่ทางช่องต้องจับมาเคลียร์ พร้อมทั้งให้ฝึกแอคติ้งใหม่ งานนี้สาวมารียืนยันว่า ตนไม่ได้โดนถอดจากละครด้วยเรื่องไม่มีระเบียนวินัยในการทำงาน แต่เป็นเพราะคาแรคเตอร์ยังไม่เหมาะสมกับละครทั้ง 2 เรื่องต่างหาก
“ไม่จริงค่ะ อะไรที่ติดขัดในกองถ่ายก็แก้ไขไปหมดแล้ว และเราก็ให้สัมภาษณ์ไปค่อนข้างเยอะแล้ว ส่วนเรื่องโดนถอดละครโดนพักงาน ไม่จริงค่ะ เราอาจจะไม่ได้เล่นละคร ผู้ใหญ่คงมีการคุยกันว่าเราเหมาะกับตัวละครไหน บางทีสุดท้ายมันอาจจะไม่ลงตัวก็ได้ ซึ่งเหตุผลที่ไม่ได้เล่น มันคือเรื่องของคาแรคเตอร์มากกว่า และคิวละครมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเล่น เพราะว่าเราจะต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย”
“เรื่องความเฟรนด์ลี่ในกองถ่าย อันนี้ด้วยความที่เราจะเป็นคนเงียบๆ ไม่มีอะไร จะไม่ค่อยกล้าคุยกับคนที่ไม่สนิท ก็ต้องปรับปรุงค่ะ ก็ขอไม่แอ็คติ้งแล้วกัน เวลาอยู่ในชีวิตประจำวัน ขอเป็นตัวเองดีกว่า ขอให้ทุกคนค่อยๆเรียนรู้ละกัน ว่าตัวจริงของเราเป็นยังไง”
“ตอนนี้กำลังเรียนแอ็คติ้งเพิ่มค่ะ เรียนเข้าบทกับละครเรื่องใหม่เพราะกำลังจะมีละครใหม่ด้วย ตอนนี้เราได้คุยกับผู้จัดแล้ว บังเอิญเขาคิดว่าจะวางตัวเราให้เล่นบทนี้ มันเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ ส่วนมากที่เขาจะเลือกให้เรามาเล่นละครเรื่องนึง คาแรคเตอร์ต้องตรงกัน บุคลิกด้วย มันต้องได้หลายอย่างมาก ซึ่งมันอยู่ที่ว่าทุกอย่างจะลงตัวรึเปล่า”
“ส่วนเรื่องการใช้ภาษาไทยมันเป็นอะไรที่ต้องฝึกเรื่อยๆ อยู่แล้ว มันคงไม่ใช่ว่าฝึกสักพักแล้วถือว่าเราเรียนจบแล้ว เรามีอะไรไม่เข้าใจก็ต้องสอบถามอยู่แล้ว เพื่อทำความเข้าใจกับบทมากขึ้น”
ลั่นข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบกับงาน แต่มีผลกับความรู้สึกบ้าง แต่ไม่เก็บเอามาเครียด
“ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรเลย คนมักจะสงสาร เป็นกำลังใจให้นะ เราก็มีกำลังใจให้ตัวเองอยู่แล้ว เราทำตรงนี้เต็มที่แล้ว พร้อมที่จะทำตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ คนเดียวไม่ว่าจะมีใครยืนอยู่ข้างๆ เราหรือไม่ เราไม่ได้รู้สึกท้อถอยกับเรื่องตรงนี้ ยอมรับว่ารับรู้ข่าวก็รู้สึกเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องเอามาเครียด หรือเก็บมาคิดค่ะ”
ที่มา: manager.co.th