Author Topic: “เก๋ ชลดา” หันหน้าพึ่ง ปชป. ให้ช่วยผลักดัน พรบ.คุ้มครองสัตว์ หลังรัฐบาลทำเฉย  (Read 1213 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




"แหวนแหวน ปวริศา" ร่วมบุกสภาทวงพรบ.คุ้มครองสัตว์ด้วย


“เก๋ ชลลดา” บุกสภาอีกรอบทวง พรบ.คุ้มครองสัตว์ พร้อมไปยื่นหนังสือให้ประชาธิปัตย์เพื่อช่วยผลักดันกฏหมายฉบับดังกล่าวให้สำเร็จ หลังจากที่กลุ่มคนรักสัตว์ได้ยื่นหนังสือและกฏหมายนี้มาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว เผยตั้งแต่มาผลักดันรณรงค์เรื่องการไม่กินเนื้อสุนัข ก็โดนโทรศัพท์ข่มขู่มาโดยตลอด
       
       หลังจากที่ “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี” สร้างความฮือฮาโดยการรวมพลดาราผู้รักสัตว์ไปที่รัฐสภาเพื่อยื่นหนังสือให้รัฐบาลออก พรบ.คุ้มครองสัตว์ เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เพราะสะเทือนอารมณ์จากข่าวการค้าสุนัขข้ามชาติ จนกระทั่งก่อตั้งโครงการ THE VOICE เสียงจากเรา และเตรียมจะจัดตั้งเป็นมูลนิธิเร็วๆ นี้ จากนั้นเก๋ก็เดินหน้าช่วยเหลือสัตว์ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น สุนัข , แมว , ช้าง ฯลฯ โดยมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือโครงการ
       
       ผ่านไป 2 เดือนก็ยังไม่มีการฟีดแบคใดๆ จากรัฐบาล ทำให้ในวันนี้เวลา 8.30 น. เก๋กับเพื่อนดารา “โบว์ เบญจศิริ วัฒนา” และ “แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ” รวมไปถึงกลุ่มคนรักสัตว์ มูลนิธิอนุรักษ์ช้าง , มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า , บ้านรักสัตว์ , Thailand Petrescue, AAA (Animal Activist Alliance) Thai Bangkaew & Nobody Project WFFT ฯลฯ เพื่อรวมตัวกันเพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าของพรบ.คุ้มครองสัตว์
       
       นอกจากนั้นแล้วเวลา 10.30 น. เก๋ก็ยังจะไปยื่นหนังสือให้ “กรณ์ จาติกวณิช” ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบและเร่งรัดให้รัฐบาลผ่านกฏหมายฉบับนี้ ซึ่งมีการเรียกร้องจากกลุ่มผู้รักสัตว์เป็นเวลานานถึง 7 ปีแล้ว ซึ่งเก๋ก็ได้เปิดเผยถึงการทวงถามพรบ.คุ้มครองสัตว์ในครั้งนี้ว่า....
       
       "เมื่อครั้งที่แล้วเราได้ยื่นเอกสารไปแล้ว และครั้งนี้เราก็อยากจะมาทวงถามความคืบหน้าว่า พรบ.คุ้มครองสัตว์ไปถึงไหนแล้ว ก็เป็นการรวมตัวกันอีกครั้งของพี่ๆ น้องๆ ที่รักสัตว์ ซึ่งเป็นการรวมตัวที่เยอะกว่าเดิม นอกจากนั้นแล้วเราก็ยังจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้คุณกรณ์เพื่อช่วยตรวจสอบและเร่งรัดเรื่องนี้ด้วย เพราะเรารอกฏหมายนี้มา 7 ปีแล้ว”
       
       “ในส่วนการทำงานของเก๋ที่ผ่านมาเราก็ได้มีการช่วยเหลือสัตว์มาโดยตลอด และโครงการ THE VOICE เสียงจากเราก็อยากจะตั้งใจทำให้เป็นมูลนิธิให้สำเร็จ ซึ่งการจะเป็นมูลนิธิได้ต้องมียอดจากผู้มีจิตเมตตาประมาณ 500,000 บาท ตอนนี้เราก็ทำมาได้ 200,000 บาท เกือบ 300,000 บาท แต่ก็มีการใช้จ่ายทุกวัน กับการช่วยสุนัข ช่วยแมว ช่วยช้าง ที่เจ็บป่วย ยังไงเก๋ก็จะพยายามผลักดันให้ได้”
       
       “ตั้งแต่ทำงานมามันมีทั้งความสุขที่ได้ช่วยเหลือ และก็มีเรื่องที่น่าตกใจเกิดขึ้น เพราะจู่ๆ มีก็มีโทรศัพท์เข้ามาขู่อยู่บ่อยๆ ในหลายๆ รูปแบบ เก๋ก็เจอบ่อยจนชินแล้วค่ะ มีอยู่รายหนึ่งเก๋ไม่ได้รับโทรศัพท์เองให้น้องชายรับ เขาก็ขู่มาเลยว่า กูไม่กินหมาก็ได้แต่กูจะกินพี่มึงแทน”
       
       “ตรงนี้ก็ทำให้ครอบครัวเป็นห่วงเก๋ น้องชายก็เตือนให้ระวังตัวบ้าง ซึ่งเก๋เองก็ระวังตัวอยู่แล้วปกติ เก๋จะไม่ขับรถเองจะมีคนขับรถให้ตลอด ถามว่ากลัวไหมก็เฉยๆ และเก๋ก็ไม่ท้อ ยังเดินทำต่อแน่นอน คุณพร้อม(แฟน) ก็อยู่เบื้องหลังคอยช่วยเหลือตลอด คอยเป็นสารถีให้ตลอดทางก็เป็นกำลังใจที่ดี เหนื่อยแต่ไม่ท้อค่ะเพราะอย่างที่บอกว่า ทุกอย่างมันรอไม่ได้นะคะ ต้องช่วยเหลือน้องหมา น้องแมว ให้เต็มที่”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)