หลังจากที่กูเกิลได้เข้าซื้อกิจการของ Motorola Mobility เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นหมายถึง คู่ค้าแอนดรอยด์ทั้งหลายจะต้องกลายมาเป็นคู่แข่ง ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ซัมซุง เริ่มที่จะพัฒนาระบบปฏิบัติการเป็นของตนเองโดยซีอีโอคนใหม่ของซัมซุงได้เรียกร้องให้บริษัทมีการเพิ่มความสนใจไปยังซอฟท์แวร์มากขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งนั่นเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นว่า กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงจากแอนดรอยด์ไปสู่ระบบปฏิบัติการที่มีกรรมสิทธิ์เป็นของตัวเอง ซึ่งซัมซุงมีความต้องการที่จะผลักดันการบูรณาการทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์มานานแล้ว โดยมีการลงทุนในระบบปฏิบัติการ Bada และเริ่มจำหน่ายอุปกรณ์ในบางตลาด แต่ด้วยความยอดนิยมของแอนดรอยด์ ซึ่งมีพลังอำนาจที่ทำให้สมาร์ทโฟนและแท๊บเล็ตประสบความสำเร็จ จึงทำให้บริษัทไม่สามารถที่จะออกจากแพลตฟอร์มดังกล่าวได้อย่างแท้จริง แต่ทั้งนี้ ซัมซุงเองก็ได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในซอฟท์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตน และเริ่มเห็นได้ชัดเจนจากการสนับสนุนของซีอีโอคนใหม่ ควอน โอ-ฮยอน ซึ่งในการพูดเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ควอน ได้กล่าวเอาไว้ว่า บริษัทต้องมีการมุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าใหม่โดยเสริมสร้างความสามารถทางด้านซอฟท์แวร์, ประสบการณ์ของผู้ใช้ และการออกแบบ โดยการบูรณาการอย่างสมบูรณ์จะช่วยให้ซัมซุงสามารถควบคุมรายละเอียดต่างๆของอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่ และจะไม่ปล่อยให้ขึ้นอยู่กับบริษัทภายนอกที่รับผิดชอบด้านซอฟท์แวร์ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มของเรา จะช่วยให้เราแตกต่างจากอุปกรณ์ที่รันด้วยซอฟท์แวร์เดียวกัน ซึ่งไอเดียนี้ไม่ต่างจากค่ายอื่นๆ อย่างเช่น แอปเปิ้ลที่มีการสร้างทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เอง, RIM, Palm และ Nokia ก็เช่นกัน แม้จะมีบางส่วนที่หายไป และบางส่วนที่กำลังพยายามต่อสู้อยู่ก็ตาม ซึ่งแรงผลักดันในการพัฒนาระบบปฏิบัติการของซัมซุงเอง น่าจะอยู่ตรงที่การเข้าซื้อกิจการของ Motorola Mobility ซึ่งนั่นหมายความว่า บริษัทที่เคยเป็นคู่ค้ากับกูเกิลทั้งหลาย จะต้องกลายมาเป็นคู่แข่งเสียนั่นเอง แม้ว่าทางกูเกิลจะออกมากล่าว จะแยกธุรกิจออกจากกัน และจะยังคงให้การสนับสนุนแอนดรอยด์สำหรับคู่ค้าต่อไปก็ตาม
Source : CNET
ที่มา: pantip.com