"บอย โกสิยพงษ์"(คนกลาง) หนึ่งในคณะกรรมที่จะทำการออดิชั่น
ผู้บริหารทีวีธันเดอร์ อดีตผู้บริหารค่ายเพลงคีตา ปรับยกเครื่องรายการ “มาสเตอรคีย์” ใหม่ โดยจะเปลี่ยนเป็นเวทีจัดประกวดนักร้องเพื่อปั้นให้เป็นซูเปอร์สตาร์ ไม่ตอบว่าจะปัดฝุ่นเปิดค่ายคีตาให้คืนชีพเพื่อรองรับเวทีนี้หรือไม่ “ทีวีธันเดอร์” เจ้าของรายการ “มาสเตอร์คีย์” รายการเกมโชว์ที่ออกอากาศมาแล้วเกือบ 20 ปี ปรับตัวรายการขนานใหญ่มาเป็นรายการ “มาสเตอร์คีย์เวทีแจ้งเกิด” ที่มุ่งเฟ้นหาซูเปอร์สตาร์มาประดับวงการบันเทิง โดยการประกวดร้องเพลง แล้วต่อยอดสานฝันให้เข้าสู่วงการบันเทิงแบบเต็มตัว โดยจะทำการออดิชั่นผู้สมัครอายุ 15 - 20 ปี ให้เหลือ 48 คน เข้าสู่รอบดวลไมค์ โดยมีคณะกรรมการคือ ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา,รัดเกล้า อามระดิษ, ตี้ นิติพงษ์ ห่อนาค,แต๋ง ภูษิต ไล้ทอง, อิน บูโดกัน(อินทิรา ยืนยง) ,บอย โกสิยพงษ์ (ชีวิน โกสิยพงษ์)
จากนั้นก็จะคัดเหลือ 8 คนสุดท้าย และทั้ง 8 คนจะจับคู่กับเทรนเนอร์ เบน ชลาทิศ(ชลาทิศ ตันติวุฒิ) , โจ๊ก โซคูล(กรภพ จันทร์เจริญ) , อุ๋ย บุดดาเบลส(นที เอกวิจิตร) , พีท THE STAR (พล นพพิชัย) , กิ่ง เหมือนเพชร(เหมือนแพร พานะบุตร) , แชมป์ ศุภวัฒน์ พีรานนท์, พัดชา เอนกอายุวัฒน์ และ แพรว คณิตกุล เนตรบุตร ทั้งหมดจะขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมโหวตเพื่อหาผู้ชนะป็อบปูลาร์โหวต รับรางวัล 1 แสนบาท และผู้ชนะจากการตัดสินได้ 1 แสนบาทและถ้วยพระราชทานจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
โมเดลไม่แตกต่างจากรายการอื่นๆ นัก แต่ที่น่าสนใจก็คือ “สมพงษ์ วรรณภิญโญ” ประธานกรรมการ บริษัท ทีวีธันเดอร์ จำกัด เป็นอดีตผู้บริหารค่ายเพลงคีตาซึ่งเคยประสบความสำเร็จอย่างสูงในอดีต หรือการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่รายการในครั้งนี้ อาจจะเป็นการหวนคืนของค่ายคีตา
“การทำรายการทีวีในยุคนี้การแข่งขันสูงรสนิยมคนดูก็เปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยนให้ทันความต้องการของสังคมยุคใหม่ คงจะทำอย่างเดิมๆ ไม่ได้ เมื่อเวลามันเปลี่ยนเราก็ต้องทำอะไรที่มันใหม่ขึ้นทันสมัยขึ้น ต้องขอบคุณสถานีที่เปิดโอกาสให้เราทำรายการมายาวนาน แต่ขณะเดียวกันเราก็หยุดนิ่งไม่ได้ต้องปรับเปลี่ยนให้มันถูกต้องตามความต้องการของคนตลอดเวลา คนบันเทิงต้องทำได้ทุกอย่าง ”
“ถ้าดูการประกวดก็ไม่แตกต่างเท่าไหร่ แต่อยู่ที่กลยุทธ์วิธีการฟอร์แมทในการประกวดไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่อยู่ที่ลูกเล่นของแต่ละรายการ โดยที่ของเรานี่กลุ่มโปรดิวเซอร์เราแข็งแรง คนสร้างงานแข็งแรงเบื้องหลังเราแข็งแรงอยู่แล้วขาดแต่เบื้องหน้า เมื่อเราหาเบื้องหน้าให้เข้ากันได้เมื่อไหร่ก็เกิดงานทันที เราไม่ได้ให้เขาประกวดเสร็จแล้วลงจากเวทีไปโดยไม่มีเป้าหมายอะไร แต่เรามีเป้าหมายทำให้เขาเป็นซูเปอร์สตาร์ไง”
“ส่วนการจะกลับมาทำค่ายเพลงอีกหรือไม่ตอนนี้โมเดลธุรกิจมันเปลี่ยนไปแล้ว ศิลปินเดี๋ยวนี้ต้องเป็นพรีเซ็นเตอร์ต้องทำอะไรได้หลายอย่าง ไม่ใช่ร้องเพลงได้อย่างเดียว หลังประกวดเราก็ดูเขาว่ามีความสามารถอะไร เราก็ต้องต่อยอดให้เขา เด็ก 8 คนนี้ก็เช่นกันสนับสนุนให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาอยากเป็น ร้องเพลงดีก็นักร้องต่อไป เล่นละครได้ไหม เป็นพิธีกรได้ด้วย ก็แล้วแต่ความสามารถของเด็ก เราพยายามทำให้เป็นเพชร เมื่อสำเร็จเขาก็ได้เราก็ได้ ได้ชื่อเสียง ได้ผลประโยชน์ แต่หากว่าไม่สำเร็จ เราก็ได้เหนื่อย เขาก็เสียใจ ฉะนั้นเราต้องทำให้ประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ทั้งผู้ถูกสร้างและคนสร้าง”
“ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีครับ สปอนเซอร์สนใจชอบคนดูก็ตื่นเต้นก็ถือว่าโอเค เราหวังว่า มาสเตอร์คีย์เวทีแจ้งเกิด จะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่จะตอบโจทย์และสานฝันให้กับผู้สนใจทำงานในวงการบันเทิง เราใช้การประกวดร้องเพลงเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อคัดสรรคนคุณภาพทั้งบุคลิกความสามารถในการกล้าแสดงออกเข้าวงการบันเทิงไทย มาสเตอร์คีย์เวทีแจ้งเกิด เป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ ให้ใช้ความสามารถ ก้าวเดินเข้ามาแล้วคว้าโอกาสของคุณไว้ให้ได้ ทีวีธันเดอร์ พร้อมสนับสนุนเต็มที่ หลังจากนี้เราก็จะรับสมัครรุ่นใหม่ต่อไปเลย เราก็จะทำไปเรื่อยๆ”
ที่มา: manager.co.th