“ปอ ทฤษฎี” กว้านซื้อที่ดินบุรีรัมย์กว่า 200 ไร่ ไว้ปลูกข้าวขาย หวังต่อยอดเป็นธุรกิจ ส่วนกรณีถูกวิจารณ์เป็นพระเอกคู่ “ญาญ่า” แล้วดูไม่เข้ากัน เจ้าตัวตอกตนมีหน้าที่ตั้งใจทำงาน ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมานั่งซีเรียส ทำงานโกยเงินในวงการมาก็หลายปีจนมีเงินถุงเงินถัง พระเอก “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” ก็เลยต่อยอดเงินด้วยการไปซื้อที่ดินที่ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด กว่า 200 ไร่ ไว้ปลูกข้าวขาย ทั้งนี้เจ้าตัวบอกอยากหาอะไรให้พ่อทำหลังเกษียณ อีกทั้งมองไปถึงอนาคตทำเป็นธุรกิจไปเลย
“ก็มีครับ มีบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกมั้ง เป็นพื้นที่สวนครับ เพาะปลูกข้าวที่บุรีรัมย์ อยากลองปลูกข้าวให้คนกินดูบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ต้องดูแลอะไรมาก มีเวลาก็แวะไปดู แต่ก็มีคนคอยดูแลให้อยู่ ที่ตัดสินใจซื้อเพราะชอบที่แถวนั้น อยากลองปลูกข้าวให้คนกินดู (จะทำเป็นธุรกิจ?) ถ้ามันสามารถเติบโตได้มากกว่านี้ก็มองกันไป แต่ตอนนี้มันเพิ่งเริ่มต้น ผมยังบอกอะไรได้ไม่มาก ว่ามันจะทำเป็นอะไร แต่อย่างน้อยคนลงทุนก็ไม่อยากขาดทุนอยู่แล้ว ผมก็ซื้อกับพ่อ หาอะไรให้พ่อทำตอนที่พ่อเกษียณแล้ว”
พร้อมแจงหลังละคร “ภูผาแพรไหม” ที่เล่นคู่กับ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” กระแสแป้ก เจ้าตัวบอกนานาจิตตัง บอกถ้าดูแล้วไม่สนุกก็ไปดูเรื่องอื่นที่สนุก
“ละครเรื่องนี้ก็มีคนถามว่าบู๊ได้ขนาดนั้นจริงๆ เหรอ เขาก็บอกว่าไม่เคยเห็นเราบู๊ๆ มาก่อนก็ดูแปลกตาดี ยากครับ เพราะแต่ละคิวมันเป็นบู๊แบบแฟนตาซีนิดหนึ่ง คือมันไม่ใช่เตะต่อยธรรมดา แต่มันต้องเก่งมากๆ กับแต้วก็ไม่ได้ร่วมงานกันมานานแล้วนะครับ ก็เจอกันอีกครั้งก็โตขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เก่งขึ้นด้วยครับ ทำให้เล่นกันง่าย”
“ฟีดแบคก็ดีครับ มีคนเข้ามาถาม สรุปว่าเกลียดนางเอกมั้ย จะฆ่านางเอกมั้ย (บางกระแสบอกละครแป้ก?) ก็แล้วแต่ มันก็มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบละครสไตล์แบบนี้ มันก็นานาจิตตัง ผมว่ามันเป็นสิทธิ์ มันเป็นฟรีทีวีนะครับ ผมว่าใครอยากดูก็เปิด ใครไม่อยากดูก็เลือกดูเรื่องที่ชอบ เราตั้งใจทำงานให้คนที่ดูมีความสุข และสนุกกับงานที่เราทำ คือนี่คือจุดมุ่งหมายจริงๆ ถ้าดูไม่สนุกก็ไปดูที่มันสนุกครับ”
เมื่อถามความคิดเห็นว่าละครเรื่อง “ภูผาแพรไหม” เนื้อเรื่องเหมือน “จำเลยรัก” เจ้าตัวก็บอกว่า…“เป็นเรื่องของทางทีมงานมากกว่านะครับ อย่างผู้เขียนบท คือผมไม่สามารถคอมเม้นท์ได้เพราะเป็นนักแสดง”
โดนวิจารณ์มาพักใหญ่กรณี “ปอ” ได้ประกบ “ญาญ่า อุรัสยา” ลงละครเรื่อง “ดาวเรือง” ว่าดูยังไงก็ไม่เข้ากัน ซึ่งปอก็ท่องคาถานานาจิตตัง
“ก็นานาจิตตังเหมือนเดิมแหละครับ คือทุกคนอาจจะติดภาพว่าคนนั้นต้องคู่กับคนนี้ ผมว่ามันเป็นนักแสดงนะครับ ถ้าผู้ใหญ่เขามองว่าอะไรที่น่าจะไปกันได้ มันก็น่าจะไปกันได้ (เป็นเพราะบทรึเปล่า?) ก็มีส่วนครับ กับในเรื่องของบท อายุมันก็ห่างกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นบทอาจจะติดที่คน แต่ถ้าเราดูที่ตามบทมันก็ถูกต้องครับ”
“แต่ก็ไม่น้อยใจครับที่โดนวิจารณ์ เพราะผมโดนทุกเรื่องปกติอยู่แล้วครับ อย่างน้อยผมก็ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด เพราะคิดว่าคนที่วิจารณ์ที่ไม่ดีหรืออะไรก็ตามแต่ อาจจะยังไม่เห็น ก็อาจจะเอามาพูดกันได้ครับ ก็ลองดูก่อน แล้วมาพูด หน้าที่ผมคือตั้งใจทำงานครับ ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมานั่งซีเรียส”
ที่มา: manager.co.th