Author Topic: “เชอรี่” ลั่นบั้นปลายอยากใช้ชีวิตศึกษาธรรมะกับ “เสริมสิน” ไม่คิดมีลูก  (Read 892 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




“เชอรี่” เผยรัก 7 ปี “เสริมสิน” มีความสุขดี คุยเรื่องแต่งงานกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ แพลนแต่งงานแล้วไม่คิดมีลูก ตั้งใจบั้นปลายอยากใช้ชีวิตศึกษาธรรมะด้วยกัน เจ้าตัวลั่นไม่กลัวอาถรรพ์รักล่ม บอกถึงจะคบนานก็ยังต้องปรับจูนกันตลอด
       
       คบหาดูใจกับหนุ่มไฮโซ “เสริมสิน สมะลาภา” มากว่า 7 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่า นางเอกสาว “เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ” จะตกลงปลงใจแต่งงานซะเสียที เมื่อผู้สื่อข่าวแย็ปถามกับสาวเชอร์รี่ เจ้าตัวก็ตอบชัดเจนว่า คงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน
       
       “ถึงเพื่อนในวงการจะแต่งกันไปหลายคู่แล้ว แต่ไม่หวิวเลยค่ะ รู้สึกแฮปปี้มาก ช่วงที่ผ่านมาบรรยากาศมันอบอวลไปด้วยความรัก พอเห็นงานแต่งงานแต่ละคนงานน่ารัก เชื่อว่า ทุกๆ คนที่ดูก็คงจะสดชื่นแฮปปี้ไปด้วย งานเรานี่อีกพักยาวๆ เลย ตอนนี้ยังไม่มีแพลน ด้วยความที่เรารู้ว่าตัวเราเองต้องการอะไรมากกว่า ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าพอเห็นแล้วอยากแต่งงาน เพราะเรายังไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นสเต็ปชีวิต ณ ช่วงเวลานี้ของเราค่ะ ไม่เร่งเลยค่ะ เราแฮปปี้เข้าใจกัน”
       
       “ด้วยความที่เราเรียนรู้กันมาประมาณ 7 ปีแล้ว หลายคนมองว่าเวลาอาจจะเหมาะสมแล้ว ด้วยอายุก็อาจจะเหมาะสมแล้ว เหมาะสมทุกอย่างเลย มันเหลือแค่ความพร้อมของใจเรามากกว่าที่จะต้องเปลี่ยนแปลงชีวิต เพราะการแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ ด้วยความที่เราเองอาจจะติดครอบครัวเหมือนกับที่คนอื่นๆ เขายังไม่อยากแต่งงานกัน เพราะรี่รู้สึกอยากอยู่กับคุณพ่อให้นานที่สุด”
       
       “เรามีปมด้อยในการที่คุณแม่เสียไปตั้งแต่เรายังเด็ก แล้วเราก็รู้สึกว่า เราไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่เลย คุณพ่อรี่เอง ท่านก็ไม่เร่ง จะออกแนวนิ่งๆ พ่อรี่ไม่เคยยุให้แต่งงานเลย เมื่อก่อนจะมีปัญหาเรื่องการเราไม่อยากมีลูก แต่คุณพ่ออยากให้มีลูก แต่ตอนนี้พี่สาวก็มีลูก 2 คนแล้ว พี่ชายก็มีลูก 2 คน ก็เท่ากับว่าคุณพ่อมีหลาน 4 คนแล้ว”
       
       รับมีคุยวางอนาคตแต่งงานกับฝ่ายชายว่าจะไม่มีลูก แพลนบั้นปลายใช้ชีวิตกับธรรมะด้วยกัน
                 
       “ไม่เคยคุยเล่นๆ แต่คุยจริงจัง เราคุยกันว่า เรามองชีวิตกันอย่างไร อนาคตข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไร คุยๆ กันเพียงแต่ว่าความต้องการ ณ ช่วงเวลานี้เราตรงกันพอดีด้วย ก็เลยไม่ได้มีใครเร่งรัดใคร ก็เลยยังไม่ได้มีแพลนแต่งงานในระยะเวลาใกล้ๆ นี้แน่นอน อย่างรี่เองไม่อยากมีลูกเขาเองก็เหมือนกัน”
       
       “เรามองว่า น่าจะอยู่ด้วยกันสองคนมากกว่าค่ะ ที่ไม่อยากมีลูกเพราะรู้สึกว่าสังคมสมัยนี้การเลี้ยงลูกถือเป็นเรื่องที่ใหญ่ และยากมากที่จะเลี้ยงให้คนๆ หนึ่งเป็นคนดีได้ และเราเห็นตัวอย่างจากพี่สาวด้วย เราโตมาด้วยกัน เรานึกภาพเขาไม่ออกเลยว่าวันหนึ่งเขาจะเป็นแม่ได้ขนาดนี้ เขาสุดยอดมากค่ะ”
       
       “แต่สำหรับตัวรี่แล้ว รู้สึกว่าถ้าบางทีการตัดห่วง การที่จะห่วงคนๆ หนึ่งได้เราตัดก็ดีเหมือนกัน แต่ ณ วันนี้ความรู้สึกเป็นอย่างนี้นะคะ แต่ถ้าเราแก่มากกว่านี้อาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้ค่ะ บั้นปลายเรามองกันว่าเราอยากใช้ชีวิตกับศาสนา ธรรมะ จะเป็นแบบนั้นมากกว่า”
       
        ลั่นไม่มองคบ 7 ปีเจออาถรรพ์รัก บอกถึงจะคบนานก็ยังต้องปรับจูนกันตลอด
       
       “ส่วนเรื่อง 7 ปีอาถรรพ์อะไรนี่ เราไม่ได้มองเลย เชื่อว่า การที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน มันเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจกันค่ะ ถ้าวันไหนที่มีแรงพลังในการปรับตัวหากัน มันก็ยังคงเดินหน้ากันต่อไปได้ แต่ถ้าวันไหนที่ความพยายามของแต่ละคนหมดไป มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราเชื่อในความรู้สึกของมนุษย์มากกว่าคำว่าอาถรรพ์ค่ะ”
       
       “ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนๆ เราก็ยังต้องปรับจูนกัน ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าจะต่อไปจากนี้อีกกี่ปีก็ตาม 10-20-30 ปี ทุกช่วงมีการต้องเรียนรู้และปรับตัวเรื่อยๆ เพราะขนาดตัวเราเองยังเปลี่ยนเลย ความรู้สึกของเราอาจจะเปลี่ยนเกือบทุกวัน คนอีกคนก็อาจจะเปลี่ยนเหมือนกัน และคนสองคนเมื่อมาอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องเปลี่ยนแน่นอน เราต้องพยายามๆ ปรับจูนกันให้เดินไปด้วยกันได้”
       
        “คู่เราไม่ได้เปิดตัวและไม่ได้ปิด รี่ไม่ค่อยไปงานกับเขาเท่าไหร่ ไปแค่ 1-2 ครั้งเอง แต่นานมากแล้ว เพราะไม่มีงานไหนที่จำเป็นต้องออกด้วยกันค่ะ ถ้ามีก็ออกได้ อย่างงานแต่งงานของเพื่อนนักแสดงที่ไม่ได้ไปกับเขา เราคิดแทนเขา ไม่รู้ว่าเขาคิดหรือเปล่าว่าการที่เขาจะไปงาน เขาน่าจะได้รู้สึกว่ามีส่วนร่วม คือรู้จักกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวด้วย ถ้าเกิดรู้จักเราก็ยินดีไปด้วยกัน ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้สึกอึดอัด เด๋อด๋า”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)