“มารี” นางเอกหน้าใหม่ช่อง 3 ดวงสั้นจู๋ โดนปลดฟ้าผ่าทีเดียว 2 เรื่องรวด เซ่นละคร “แววมยุรา” เรตติ้งห่วย ลั่นไม่เสียใจเพราะเข้าใจผู้ใหญ่คงไม่กล้าเสี่ยงกับตนอีก พร้อมแอ่นรับทำงานไร้วินัยจนโดนด่ากระแทกหน้า ยันตอนนี้ปรับปรุงตัวแล้ว เพิ่งก้าวขึ้นแท่นนางเอกละครแค่ 2 เรื่อง แต่ดูเหมือนว่าอนาคตในวงการบันเทิงของนางเอกสาวหน้าใหม่ช่อง 3 “มารี เบิร์นเนอร์” จะร่อแร่ซะแล้ว หลังกระแสละคร “แววมยุรา” ที่แสดงคู่กับพระเอกจอมเกรียน “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” เรตติ้งไม่สู้ดี แถมเจ้าตัวยังโดนโจมตีว่าเป็นตัวฉุดหนุ่มบอยที่โด่งดังอยู่แล้วดิ่งลงเหวไปด้วย เป็นเหตุให้สาวมารีโดนถอดออกจากละคร 2 เรื่องด้วยกัน ทั้ง “พรพรหมอลเวง” และ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” แว่วว่าเป็นบทลงโทษของทางผู้ใหญ่นั่นเอง
“คือหนูรู้สึกว่า คนยังไงเขาก็แยกแยะระหว่างคนสองคนว่า นางเอกเล่นเป็นยังไง พระเอกเล่นยังไง พี่บอยไปเล่นกับคนใหม่อาจจะเรตติ้งดีตาม หนูว่ามันเป็นเรื่องที่เราทำงานด้วยกันแล้วเคมีไม่เข้ากัน คนดูอาจจะไม่อิน อาจจะติดภาพคนอื่นมาก่อน ซึ่งเวลาได้ยินและอ่านคอมเมนต์แรกๆ รู้สึกเสียใจอยู่แล้ว เราต้องเลือกที่จะรับมัน เราเลือกที่จะแบ่งดีกว่าว่าอันไหนมีเหตุผล เราผิดตรงไหนแล้วเอาไปปรับปรุง ดีกว่าเก็บทุกอย่างไปคิด”
“ส่วนเรื่องถอนออกจากละครนั้น มันเป็นเรื่องของฟีดแบ็กอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าฟีดแบ็กของพระ-นางคู่นี้ออกมาไม่ดี ผู้จัดจะมาเสี่ยงทำไม ก็ถูกของเขาที่ถอดออก จะปรับตัวกับละครใหม่ ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะรู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจของผู้ใหญ่ หนูเชื่อใจพี่ตู่ ปิยะวดี (มาลีนนท์) อยู่แล้ว ว่าถ้าเกิดพี่ตู่ถอดตัวหนูออกมา พี่ตู่คงเชื่อว่าการที่หนูได้เล่นพรพรมอลเวง มันจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น มันแค่จะทำให้กระแสแย่ลง”
“คือหนูรู้ตัวมาตลอด อย่างเรื่อง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คือ จริงๆ มันเป็นเรื่องของคิวไม่ตรงกัน เรื่องนี้ยังไม่ได้เปิดกล้อง เขาต้องการคิวเรียนแอ็กติ้งล่วงหน้า ซึ่งเราเรียนไปด้วย แล้วแววมยุรา เพิ่งปิดไป ต่อด้วยรักคุณเท่าฟ้าเลย บางทีขอคิวที่ตรงกับวันเรียนเรา เราก็ให้เขาไม่ได้ หนูไม่คิดมากเลยที่โดนถอด 2 เรื่อง หนูมองว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ คิดว่าถ้าละครเรื่องไหนไม่เหมาะกับเรา หรือเวลามันไม่ตรง คือเราฝืนไป ผลงานมันก็คงออกมาไม่ดีค่ะ”
“ส่วนข่าวว่าหนูไม่ค่อยมีวินัยในการทำงาน เป็นสาเหตุของการถอดออกจากละคร เรื่องนี้หนูยอมรับนะคะ ว่ามีช่วงนึงที่เหมือนกับว่า เราอาจจะสบายในกองถ่ายมากเกินไปหน่อย จนรู้สึกว่ามันคือการไปสนุกกับเพื่อนๆ เพราะเรารู้สึกสบายใจ เหมือนทุกคนเป็นครอบครัวเดียวไปแล้ว แต่ว่าพอเรารู้ตัว มีคนมาพูดค่อนข้างแรงด้วยว่า เราไม่ตั้งใจ เราเป็นเด็กไม่ดี ไม่น่ารัก แต่หลังจากนั้น เราปรับทันทีเลยค่ะ แล้วก็ปรับดีขึ้นด้วย ผู้ใหญ่ยังพูดเลยค่ะว่ารู้สึกหนูปรับได้เร็วมาก แต่ว่าข่าวมันเป็นเรื่องปกติ ถ้าแก้ไขแล้วมันคงไม่มีใครปล่อยออกมาว่าแก้ไขแล้ว ดีขึ้นแล้ว ต้องขอให้ดูจากผลงานต่อๆ ไปละกันค่ะ เพราะเราตั้งใจแล้ว ต่อไปรับรองว่าจะดีขึ้นค่ะ”
ที่มา: manager.co.th