Author Topic: เอปสันไทยประกาศผู้นำอิงก์เจ็ตพรินเตอร์ไทย  (Read 776 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


เออิจิ คาโตะ


ทีเอ็มพรินเตอร์ สำหรับพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน



เอปสันไทยโตเกินคาดแตะ 13% แม้เจออุทกภัยปลายปี คุยเป็นเบอร์ 1 อิงก์เจ็ตพรินเตอร์ และโปรเจกเตอร์ ปีนี้ตั้งเป้าโตแบบถ่อมตัว 15% พร้อมรักษาตำแหน่งผู้นำต่ออีกปี
       
       นายเออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการประจำปี 2554 ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2554 ถึงเดือนมีนาคม 2555 ของเอปสัน ประเทศไทย มียอดขายในทุกหมวดสินค้าเพิ่มขึ้นโดยรวม 13% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ถึงแม้จะต้องเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมาก็ตาม ทั้งนี้น่าจะเป็นผลมาจากการที่ทางบริษัทใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในเชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นการส่งสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดหลายรุ่นติดต่อกันเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าในเซกเมนต์ต่างๆ มากขึ้น ทำให้สามารถเปิดตลาดใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น บวกกับการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องของเอปสัน
       
       “จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ยังคงลงทุนไอทีในโครงการต่างๆ ถือเป็นสัญญาณที่ดี ดังนั้นในปีนี้ทางเอปสันจึงตั้งเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจของเอปสันในไทยไว้ที่ 15%”
       
       นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไปบริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า การที่เอปสันมีผลประกอบการที่ดีในปีที่ผ่านมานั้นเป็นผลมาจากหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆ ที่เอปสันทำมาอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัวอิงก์เจ็ตพรินเตอร์ที่เป็นเครื่องตระกูล แอลซีรีส์ ในส่วนของแท็งก์แท้ ไม่ได้ส่งผลในทางลบต่อภาพลักษณ์แบรนด์ของเอปสันแต่ประการใด
       
       “ถือว่าผลตอบรับจากตลาดดีเกินคาด มีคนชมมากกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ออฟฟิศโซโห และสถาบันการศึกษาว่าเอปสันสามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้มากขึ้น”
       
       จากผลการสำรวจส่วนแบ่งตลาดของจีเอฟเคระบุว่า เอปสันมีส่วนแบ่งทางการตลาดอิงก์เจ็ตพรินเตอร์โดยรวม ในส่วนของรายได้เป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 30.2% ซึ่งแซงหน้าคู่แข่งอยู่ประมาณ 0.1% โดยมีอัตรการเติบโตสูงสุดในตลาดถึง 37.2% โดยในส่วนของซิงเกิล ฟังก์ชัน อิงก์เจ็ตพรินเตอร์ เอปสันก็ยังเป็นอันดับหนึ่งมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 44.3% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีประมาณ 38% ขณะที่ตลาดออลอินวัน อิงก์เจ็ตพรินเตอร์ถึงแม้ไม่ได้เป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีอยู่ 21% เป็น 25% ในปีนี้
       
       สภาพการแข่งขันตลาดอิงก์เจ็ตพรินเตอร์ในปีนี้ก็ยังคงรุนแรงเหมือนกับทุกๆ ปี โดยมีอัตราการเติบโตทั้งตลาดไม่ถึง 10% แต่สิ่งที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากๆ น่าจะเป็นเรื่องการแข่งขันในเรื่องต้นทุนต่อแผ่นที่ถูกลงมากขึ้น จึงเห็นการปรับตัวลดราคาหมึกพิมพ์ลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับเอปสันแล้ว ปีนี้จะยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดอิงก์เจ็ตโดยรวมต่อไป โดยคาดว่าจะเติบโตได้ถึง 20% ในตลาดนี้
       
       นายยรรยงกล่าวอีกว่า กลุ่มพรินเตอร์ที่เรียกว่า ทีเอ็มพรินเตอร์สำหรับพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน เป็นอีกตลาดหนึ่งที่เอปสันยังคงเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 64% ซึ่งตลาดนี้ถึงแม้จะมีมูลค่าไม่มากนัก แต่ก็ยังมีอัตราการเติบโตประมาณ 20% ต่อปี โดยเอปสันคาดว่าจะโตในตลาดนี้ได้ถึง 40% ส่วนตลาดโปรเจกเตอร์เป็นอีกตลาดหนึ่งที่เอปสันมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งที่ 26% เป็นผลมาจากการที่เอปสันเป็นเจ้าของเทคโนโลยี 3 แอลซีดีเอง ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ให้งานแสดงภาพดีที่สุดในเวลานี้ โดยปีนี้ก็จะยังคงเป็นผู้นำในตลาดได้ต่ออีก 1 ปี
       
       กลยุทธ์ในการรุกตลาดปีนี้ ทางเอปสันยังคงโฟกัสในกลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตอย่างชัดเจน เช่น โปรเจกเตอร์ อิงก์เจ็ตพรินเตอร์ พร้อมยังเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรุกเข้าไปในตลาดใหม่ที่เอปสันยังไม่ได้เข้าไป หรือแม้กระทั่งมีส่วนแบ่งตลาดที่ยังน้อยอยู่เพิ่ม โดยที่ยังคงเน้นความคุ้มค่าและต้นทุนการใช้งานที่ต่ำเป็นจุดขาย
       
       “กิจกรรมการตลาดในปีนี้คงจะไม่แตกต่างจากปีก่อน โดยทางเอปสันไม่ได้ทุ่มไปกับการมีพรีเซ็นเตอร์ หรือทำโฆษณาผ่านสื่อทีวีอะไรมากมายนัก แต่จะเน้นกิจกรรมการตลาด ณ จุดขายมากกว่า ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เอปสันมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา”
       
       ส่วนช่องทางการขายนั้น เอปสันจะหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพมากกว่าการขยายจำนวน ซึ่งในปีที่แล้วเอปสันถือว่ามีการขยายที่เพียงพอที่จะครอบคลุมตลาดแล้ว โดยปีนี้จะเน้นการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ทีมขายในแต่ละช่องทางเกี่ยวกับคุณค่าและความคุ้มค่าในการลงทุนที่ผลิตภัณฑ์เอปสันมอบแก่ลูกค้า”
       
       “การโฟกัสตลาดยังคงเน้นไปที่ตลาดองค์กรธุรกิจอยู่ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีโอกาสการขยายตัวได้อีกมาก”
       
       นายยรรยงกล่าวว่า ยอดขายของเอปสันในปีที่แล้วจบที่ 2,300 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากยอดขายในกลุ่มธุรกิจพรินเตอร์ประมาณ 86% ซึ่งสัดส่วนในปีนี้ก็คงจะไม่ต่างกันเท่าไรนัก ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีการขยายเข้าไปในตลาดใหม่มากขึ้นซึ่งคงจะไม่ได้สร้างรายได้มากมายเท่าไรนัก แต่จะได้ในส่วนของการขายผลิตภัณฑ์อื่นของเอปสันเข้าไปในตลาดนั้นๆ มากกว่า โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,650 ล้านบาท
       
       “เป้า 15% ถือเป็นตัวเลขกลางๆ บนสถานการณ์เศรษฐกิจเวลานี้ โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาถือว่ามีสัญญาณที่ดีจากโครงการลงทุนภาครัฐ และเอกชน”
       
       Company Related Link :
       Epson

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)