Author Topic: “อินทัช” นับถอยหลังลุยดิจิตอลทีวี  (Read 1001 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ศุภจี” เผยอินทัชเตรียมลงทุนธุรกิจใหม่ 2 ประเภท คือ เวนเจอร์แคปปิตอล และดิจิตอลทีวี พร้อมเปรยได้ความชัดเจนไทยคม 9 ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนผลประกอบคาดโตกว่าปีที่ผ่านมา 10-15%
       
       นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม กล่าวว่า บริษัทอินทัชมีความสนใจเข้าดำเนินการในธุรกิจใหม่ 2 ประเภท คือ ธุรกิจดิจิตอลทีวี และธุรกิจกองทุนร่วมลงทุน (เวนเจอร์แคปปิตอล) ซึ่งจะเป็นการเปิดให้บุคคลหรือบริษัทที่มีความต้องการเงินทุนเข้ามายื่นขอรับการสนับสนุนทางการเงินได้ โดยเบื้องต้นตั้งงบลงทุนไว้ที่ 200 ล้านบาท
       
       ส่วนการทำธุรกิจดิจิตอลทีวีนั้น อินทัชกำลังศึกษารูปแบบการเปิดประมูลใบอนุญาต (ไลเซนส์) จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งไทยคม และอินทัชมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูล ทั้งใบอนุญาตด้านโครงสร้างพื้นฐาน และผู้ให้บริการโครงข่าย แต่ขอดูความชัดเจนในรายละเอียดอีกครั้ง
       
       ทั้งนี้ ในส่วนความคืบหน้าในการยิงดาวเทียมไทยคม 9 ในตำแหน่งวงโคจรที่ 50.5 องศาตะวันออก เพื่อรักษาสิทธิในวงโคจรของประเทศไทยตามที่ได้รับสิทธิจากสมาคมโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เนื่องจากหากไทยยังไม่มีดาวเทียมขึ้นไปสู่วงโคจร ก็จะเสียสิทธิซึ่งจะหมดอายุในเดือนพฤศจิกายน ปี 2555 นี้
       
       “เราเชื่อว่าความชัดเจนในการรักษาสิทธิวงโคจร 50.5 องศาตะวันออก จะได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤษภาคมนี้แน่นอน”
       
       นางศุภจีกล่าวว่า สาเหตุที่ยังไม่ได้ข้อสรุปในการยิงดาวเทียมไทยคม 9 ในขณะนี้เนื่องจากต้องรอความชัดเจนใน 2 เรื่อง คือ 1. ต้องรอประมาณอีก 1-2 สัปดาห์นี้ในการลงนามร่วมกับพันธมิตรในการลากดาวเทียมชั่วคราว ซึ่งการวางแผนทั้งหมดนี้คือการปูทางทำตลาดในระยะยาว รองรับลูกค้าเอเชียแปซิฟิก มิดเดิลอีสต์ แอฟริกา และอินโดไชน่า เพื่อรองรับความต้องการใช้งานแบนด์วิดท์ และความแพร่หลายของการรับชมแบบ HDTV
       
       2. ต้องรอเรื่องที่เสนอไปยังกระทรวงไอซีที เพื่อให้พิจารณาในเบื้องต้นเพื่อรอการอนุมัติต่อไป โดยคาดภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะเห็นความชัดเจนเช่นกัน
       
       ขณะที่ดาวเทียมไทยคม 6 ในตอนนี้มียอดจองก่อนยิงดาวเทียมแล้ว 30% ของจำนวนช่องสัญญาณที่มีอยู่ทั้งหมด ซึ่งจะขึ้นสู่วงโคจรกลางปี 56 โดยจะเน้นการให้บริการทีวีดาวเทียม และการให้บริการในระบบ HDTV
       
       ส่วนดาวเทียมไทยคม 7 ซึ่งจะยิงขึ้นให้บริการในช่วงต้นปี 57 โดยจะใช้ในกิจการโทรคมนาคม และเสริมพื้นที่ให้บริการของดาวเทียมไทยคม 5 และไทยคม 6 ซึ่งจะให้บริการในประเทศแถบอินโดจีน อาเซียน รวมทั้งออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยถือเป็นดาวเทียมดวงแรกที่สร้างขึ้นภายหลังสัญญาสัมปทานกับกระทรวงไอซีทีหมดลง โดยต้องไปขอใบอนุญาตจาก กสทช.แทน
       
       นางศุภจีกล่าวอีกว่า ในปีนี้เชื่อว่าไทยคมจะมีรายได้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาราว 10-15% หรือมีรายได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งจะใกล้เคียงกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
       
       ในส่วนการเปิดเสรีโทรคมนาคม ซึ่งรวมถึงกิจการดาวเทียมด้วยนั้น ผู้บริหารไทยคมมองว่า ภาครัฐควรพิจารณานโยบายการเปิดเสรีให้เข้ากับประโยชน์ของประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน ซึ่งในฐานะที่เป็นซีอีโอของไทยคมก็พร้อมสำหรับการเปิดเสรีดาวเทียม แต่ต้องคำนึงว่าหากมีดาวเทียมจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จะสามารถควบคุมและกำกับดูแลได้หรือไม่
       
       Company Related Link :
       ไทยคม

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)