“ป๋อ-เอ๋” เผย ความคืบหน้างานวิวาห์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ประกาศแขกที่จะไปร่วมงานต้องแต่งตัวให้เหมาะที่จะไปงานวัด ไม่งั้นจะโดนเหวี่ยงให้ไปบูธผ้าขาวม้าหน้างาน เผยอยากให้ทุกคนมาร่วมงานอย่างสบายๆ ในบรรยากาศไทยๆ ไม่ต้องใส่สูท เป็นอีกคู่ที่งานวิวาห์ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับคู่ของ “เอ๋ พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์” และหนุ่ม “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” เมื่อสอบถามความคืบหน้าของงานทั้งคู่เผยว่าเตรียมงานมงคลเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือก็แต่ชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาวที่ยังไม่เรียบร้อยดี
เอ๋ : “งานเราเตรียมไปก็เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็เหลือเรื่องชุดอีกนิดหน่อยที่ยังไม่เสร็จ คิดว่า อาทิตย์หน้าก็น่าจะโอเคแล้ว”
ป๋อ : “คือ ดินพอกหางหมูกับไฟลนก้นมันเป็นสไตล์ของเราอยู่แล้วครับ”
เอ๋ : “แต่ยังไงก็ต้องเสร็จแน่นอนค่ะ ตอนนี้เอ๋ก็เร่งฟิตหุ่นเพราะอยากให้เราดูเฟิร์ม ไม่อยากอดอาหารเพราะเดี๋ยวจะดูโทรม อยากให้ดูสวยและเป็นผู้หญิงที่แข็งแรงและมีน้ำมีนวล”
ป๋อ : “ก็ไม่ได้เข้าคอร์สอะไรเป็นพิเศษเหมือนคนอื่นเขาหรอกครับ”
เอ๋ : “เราไม่รู้ว่าเข้าคอร์สบ่าว-สาวต้องทำอะไรบ้างเราแค่ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมมากกว่า”
ป๋อ : (หันมาพูดกับเอ๋) “พรุ่งนี้พี่ไปทำหน้าสักนิดดีกว่า เพราะพี่รู้สึกว่าพี่ต้องหล่อที่สุดวันนั้น(นักข่าวแซวฉีดกรูต้าร์มั้ยเจ้าตัวถึงกับหัวเราะลั่น)”
เอ๋ : “แรง…คนเขาออกจะขาว”
ป๋อ : “ก็ใกล้วันแล้ว มันตื่นเต้นจนหายตื่นเต้นไปแล้วครับ จากตอนแรกที่ตื่นเต้น ต่อมาก็รู้สึกเครียด ตอนนี้ก็ปล่อยวางแล้วบอกเอ๋ว่าคนที่มาเขาย่อมให้อภัยเราในความไม่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว มันไม่มีงานไหนหรอกที่ออกมาเพอร์เฟค เพราะฉะนั้นไม่ว่างานจะเป็นอย่างไรเราตั้งใจให้มันออกมาเป็นแบบนั้นแล้วอะไรมันจะเกิดก็คงต้องเกิด เพราะเราอยู่กับคนที่รักเราอยู่แล้ว”
บอกเริ่มกังวลหลังของชำร่วยที่เตรียมแจกในงานเป็นลอตเตอรีไม่เพียงพอกับจำนวนแขกที่เชิญมาร่วมงาน
ป๋อ : “แต่ตอนนี้เริ่มจะเครียดกับเรื่องของชำร่วย เพราะว่าของเริ่มไม่พอเพราะทุกคนก็อยากได้โชค แต่ก็ต้องไปดูกันวันนั้นครับ เพราะผมก็อยากให้ของที่ให้โชคที่สุดในรอบปีก็ว่าได้ เพราะไม่แน่คนที่ได้รับไปในงานวันนั้นจะถูกรางวัลที่ 1 ก็เป็นได้”
เอ๋ : “คือ ตอนที่แจกการ์ดก็ประกาศชัดแล้วว่าต้องแต่งตัวมาให้แหล่มธีมงานวัด ถ้าใส่สูทมาเราจะเหวี่ยงไปเลยให้ไปบูทผ้าขาวม้าหน้างาน”
ป๋อ : “คือ ถ้าแต่งตัวดีเกินไปเราจะทำให้คุณด็อปลง มันเป็นเรื่องของแฟนซีด้วย คือเราเป็นคนไทย ผมเองก็หน้าไทย เอ๋เองก็เหมือนกันเรามีความรู้สึกว่าอยากจัดงานแบบไทยๆ เราอยากให้ทุกคนปลดเปลื้องสิ่งเหล่านี้ออกแล้วมาสบายๆ กันดีกว่าเหมือนไปเที่ยวทะเล”
เอ๋ : “อยากให้คนมาแล้วไม่รู้สึกเกรง ถ้าใส่สูทอาจจะไม่กล้าคุยกันแต่ถ้าใส่ผ้าขาวม้าแล้วอาจจะคุยกันโดยที่เพิ่งมารู้จักกันก็ได้”
เผยตอนนี้ครอบครัวของตนเริ่มสนุกกับธีมงานวัดหลังจากไม่เห็นด้วยกับการจัดงานธีมนี้สักเท่าไหร่
ป๋อ : “คือ แม่ไม่ได้รับได้นะครับ คือ แม่ต้องทนในสิ่งที่เราทำมากกว่า เพราะแม่ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะเป็นสไตล์ทางการทุกอย่างจะต้องไม่แหวกประเพณีไม่แหวกจากอะไรเลย แต่เขาจะได้ลูกที่แหวกจากสิ่งที่คนอื่นทำตลอด แต่ตอนนี้แม่ก็เริ่มชักมันแล้วเหมือนกัน ถามบ่อยว่า เมื่อไหร่จะได้ไปร่วมงานสักทีและยังบอกอีกว่าชุดแม่ต้อง 2 ชุดนะ เราก็บอกว่าชุดเดียวก็ได้มั้ง แต่แม่ไม่ยอมบอกว่าเดี๋ยวคนถ่ายรูปแม่เยอะ ผมก็เลยบอกว่าเขาไม่ถ่ายรูปแม่หรอกเพราะเขาคงไม่รู้ว่าแม่เป็นใคร แม่ก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ยังไงก็ต้องขอ 2 ชุด”
ด้านสาว “เอ๋” บอกหนุ่ม “ป๋อ” คงพูดเล่นที่บอกโด๊ปไข่ทุกวันหวังปั้มลูกให้ติดเร็วๆ แต่ก็พร้อมมีเพราะไปตวรจเช็คสุขภาพมาแล้วเรียบร้อย
เอ๋ : “พี่ป๋อเขาก็พูดเวอร์ บางทีก็ไม่ต้องไปเอาจริงอะไรกับเขาหรอก ไข่โคเลสเตอรอลสูงขนาดนี้ คิดว่าพูดเล่นโจ๊กๆ มากกว่า คือ จริงๆ แล้วพระบอกไว้ว่าอยากจะให้มีปีนี้ แต่เอ๋กับพี่ป๋อคุยกันว่าถ้าหลังแต่งงานแล้วเขาจะมาหรือ ร่างกายเราแข็งแรงก็โอเค ตรวจสุขภาพกันมาแล้วเรียบร้อย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยด้วย เพราะมันไม่ได้มีกันง่ายๆ แต่ส่วนตัวเอ๋ก็ไม่ได้โด๊ปอะไรเป็นพิเศษเพราะเดี๋ยวอ้วนตอนนี้ขอออกกำลังกายอย่างเดียวก่อนเดี๋ยววันแต่งไม่สวย ส่วนจะมีสักกี่คนเอาคนแรกให้มีก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยคิด”
ที่มา: manager.co.th