Author Topic: “ต่าย” น้ำตาคลอวิวาห์ “ทิม” ด้านฝ่ายชายสัญญาจะซื่อสัตย์ไปชั่วชีวิต  (Read 2455 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



<a href="https://www.youtube.com/watch?v=5XHQNOPd2q4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=5XHQNOPd2q4</a>

“ต่าย” น้ำตาคลอวิวาห์ “ทิม” ด้านฝ่ายชายสัญญาจะซื่อสัตย์ไปชั่วชีวิต “ต่าย” น้ำตาคลอวิวาห์ “ทิม” ด้านฝ่ายชายสัญญาจะซื่อสัตย์ไปชั่วชีวิต “ต่าย” น้ำตาคลอวิวาห์ “ทิม” ด้านฝ่ายชายสัญญาจะซื่อสัตย์ไปชั่วชีวิต








      “ต่าย” แต่ง “ทิม” แล้ว เจ้าตัวถึงกับน้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน พร้อมลั่นจะสร้างครอบครัวด้วยกันให้ดีที่สุด ด้านทิมก็สุขล้นจนน้ำตาปริ่ม บอกพ่อที่อยู่บนสวรรค์ก็คงยินดีต้อนรับลูกสะใภ้คนนี้ สัญญาจะเสมอต้นเสมอปลายและซื่อสัตย์ พร้อมเผยอยากมีลูก 4 คน
       
       หวานชื่นกันอีกคู่ สำหรับ “ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ” นางเอกที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง “ซีซั่นเชนจ์” ที่ถือฤกษ์ดีวันที่ 5-5-55 ควงแฟนหนุ่มดีกรีนักธุรกิจพันล้าน “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ลั่นระฆังวิวาห์กันที่โรงแรมสุโขทัย หลังจากรักกันมานานเกือบ 4 ปี โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีพิธีหมั้น และจดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนอบอุ่น มีครอบครัวและเพื่อนฝูงมาเป็นสักขีพยานรักร่วม 70 คน
       
       จากนั้น เวลาประมาณ 16.00 น.ทั้งคู่ได้ควงคู่กันออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชน พร้อมแลกกันหอมแก้มโชว์หวานหยดจนมดขึ้น
       
       ทิม : “เมื่อเช้าเป็นพิธีหมั้นตอน 7 โมงเช้า ก็มีแต่ญาติๆ คุณพ่อ คุณแม่ ฤกษ์สวมแหวนก็ตอนเช้า แต่พอดีเมื่อเช้าฝนตกเลยตั้งขบวนไม่ได้ อากาศเลยไม่ร้อน แล้วก็กราบไหว้ผู้ใหญ่ จดทะเบียนสมรสกันด้วย”
       
       ต่าย : “เมื่อเช้าก็ตื่นเต้นนิดนึง เพราะรู้สึกว่าวันนี้มันมาถึงแล้วนะ ก็ดำเนินตามขั้นตอนราบรื่นดี ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นนางแล้ว เปลี่ยนนามสกุลด้วยค่ะ”
       
       ทิม : “ผมก็รู้สึกมีความสุขมาก ครอบครัวของเราได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งสองครอบครัว ก็ประมาณ 70 คนเท่านั้นเอง ก็มีแต่เพื่อนสนิทๆ งานที่เป็นพิธีคือวันนี้ ส่วนพิธีเลี้ยงฉลองแต่งจะเป็นเดือนธันวาคม แต่ยังไม่ระบุวัน ยังไม่ลงตัวเพราะเพื่อนที่เรียนหนังสือผมที่อเมริกา เขาลาหยุดช่วงแบบนี้ไม่ได้ แต่หยุดช่วงคริสต์มาส ถึงจะมาฉลองได้”
       
       “แล้วน้องชายของผมกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ สอบเสร็จก็คงช่วงนั้นพอดี แต่ยังไม่ระบุวันอีกนานหลายเดือน ส่วนเรื่องสินสอดไม่มากไม่น้อย คิดว่าเหมาะสม ตัวผมเองก็ชนชั้นกลางธรรมดาไม่ได้มี ก็ไม่มีอะไรให้พิเศษ ก็ตามประเพณี มันเป็นแค่สัญลักษณ์ แหวนหมั้นก็ไม่เล็กไม่ใหญ่พอดีๆ”
       
       เป็นที่รู้กันว่าหนุ่ม “ทิม” นั้นรักสาว “ต่าย” มาก แถมคุณสมบัติก็เข้าขั้นผู้ชายเพอร์เฟ็ค งานนี้หลายคนก็เลยมองว่าต่ายเป็นผู้หญิงที่โชคดี
       
       ต่าย : “ต่ายก็รู้สึกอย่างนั้นเพราะเขาน่ารัก โรแมนติก เป็นคนดี เป็นคนที่ใช่สำหรับเราทุกอย่าง”
       
       ทิม : “ความรักที่มีให้ มันเป็นตัวของผมเอง หลายคนมองว่าอายุห่างกัน 7-8 ปี ผมก็อยู่ต่างประเทศตลอด ตั้งแต่ผมคุณพ่อเสียไปเมื่อหลายปีก่อน ก็ต้องทำธุรกิจดูแลแทน มีอะไรก็จะเล่าให้เขาฟังตลอด เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่มันดีที่มีคนรับฟังเรา เป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก”
       
       ต่าย : “ความประทับใจมันก็ทุกอย่างค่ะ เขาเสมอต้นเสมอปลาย เปิดเผย ซื่อสัตย์ โรแมนติก ดูแลเราตลอด คนอาจมองว่าต่ายอายุน้อยไปสำหรับการแต่งงาน ต่ายมองว่าเราพร้อมแล้ว มันไม่มากไปไม่น้อยไปกำลังดี”
       
       ทิม : “แต่เรื่องมีลูกก็รอเดือนธันวาคมก่อน ในใจคิดว่า อีกสีกปีนึงค่อยมี แล้วปล่อยตามธรรมชาติ คุณแม่ก็ไม่เร่งเพราะท่านเห็นตามความเหมาะสม ใจผมอยากมีสัก 3-4 คน (หัวเราะ) แต่เขาจะยอมหรือเปล่า ที่ผมคิดแบบนี้เพราะผมมีน้องชาย ตอนมีความสุขก็อยู่ด้วยกัน ทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่ได้เป็นคนสุดท้ายในจักรวาล ถ้ามี 3 คน ผมก็รู้สึกว่าไม่อยากให้มีคนกลาง อยากมีมากกว่า 3 สัก 4 กำลังดี แต่คงค่อยว่ากันอีกที แต่ผมชอบครอบครัวใหญ่ๆ”
       
       ต่าย : “ลองดูก่อนไหมว่าไหวหรือเปล่า (หัวเราะ)”
       
       ทิม : “เรื่องฮันนีมูนก็รอหลังเดือนธันวาคมเลยครับ ที่ผมจัดช่วงนี้เพราะมีสองอย่างคือฤกษ์สะดวก และฤกษ์มงคล แต่สำหรับครอบครัวของต่าย คือ ฤกษ์ส่งตัวคือวันที่ 6 พฤษภาคม ก็เลยต้องแต่งมันลงตัวพอดี ผมไปเรียนต่อที่เมืองนอกตอนพ่อผมเสีย และผมต้องดูแลบริษัทแทน คุณพ่อขอคุณแม่ไว้ว่า อยากให้ผมไปเรียนต่อให้ได้ มันก็เลยยาว”
       
       “ครอบครัวผมภูมิใจในตัวต่ายมาก เห็นเขาเป็นครอบครัวนานแล้ว เลยไม่ค่อยตื่นเต้นมาก ผมก็รู้สึกอย่างนั้นนับจากวันแรกจนวันนี้ เราคบกันมา 3 ปีกว่าแล้ว ผมเจอเขาตอนเขาถ่ายหนังหนีตามกาลิเลโอ ที่อิตาลี ผมเรียนอยู่อเมริกา ตอนนั้นผมต้องแวะที่นั้นเลยได้เจอกัน อุปสรรคของเราคือระยะทางนี่แหละครับ แต่ผมมั่นใจเขาเราแน่ใจในตัวน้อง”
       
       ต่าย : “ต่ายเองก็ต้องอดทนด้วย แต่ก็ใช้อินเทอร์เน็ต เราก็คิดถึง คุยกันทุกวันก็พอช่วยได้บ้าง รอวันได้เจอกัน”
       
       พร้อมกันนี้ ทั้งคู่ได้เผยถึงแพลนชีวิตหลังแต่งงานด้วย
       
       ทิม : “ส่วนงานในวงการก็อยากให้เขาเป็นแม่บ้านมากกว่า เพราะถ้าสิ่งที่เขาเรียน บริษัทผมต้องการพวกประชาสัมพันธ์การตลาด อยากให้เขามาช่วย แต่ถ้าเขาจะรับงานบันเทิงก็แล้วแต่ไม่ว่ากัน”
       
       ต่าย : “ต่ายเองอะไรก็ได้ แล้วแต่เขา”
       
       ทิม : “ผมเองก็ต้องปรับเปลี่ยนชีวิตหลังจากแต่งงานแล้ว ต้องเสียสละมากขึ้น ส่วนเรือนหอก็เป็นคอนโดแถวทองหล่อ บ้านผมก็อยู่แถวนั้นด้วย ผมให้คำมั่นสัญญากับเขาว่า จะจำวันนี้เป็นหลักในการประคองใช้ชีวิตในอนาคต จะสม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลาย ซื่อสัตย์ คำว่ารักมันเป็นคำนามก็ได้ คำกิริยาก็ได้ แต่ผมจะทำให้ความรักของเราเป็นกิริยาไม่ใช่คำนาม”
       
       “ถามว่า อยากจะบอกอะไรเป็นพิเศษไหม ผมก็บอกไปหมดแล้ว ความรู้สึกที่มีต่อเขา คือเขาเป็นคนในครอบครัว ตั้งแต่ผมเสียคุณพ่อไป ครอบครัวก็เหงาๆ คุณแม่เป็นผู้หญิงคนเดียว เขาก็มาเติมเต็มครอบครัวผม คุณพ่อผมที่อยู่บนสวรรค์ก็คงยินดีต้อนรับลูกสะใภ้ด้วย (น้ำตาคลอ)”
       
       ต่าย : “จะดูแลพี่ทิมอย่างเต็มความสามารถ ไม่กวนเขา แล้วจะเป็นเด็กดี ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อยากจะ…(น้ำตาคลอ) สร้างครอบครัวด้วยกันให้ดีที่สุด และจะเสมอต้นเสมอปลายและซื่อสัตย์”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)