อะโดบี ซิสเต็มส์ เปิดเผยรายงานที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ชมยอมรับโฆษณาบนเว็บที่มีลักษณะคล้ายกับโฆษณาทางทีวีเพิ่มมากขึ้นในงานประชุมสมาคมผู้ประกาศข่าวแห่งชาติ (National Association of Broadcasters) หรือ เอ็นเอบี ประจำปี 2012 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 เมษายน ณ ลาเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยในรายงานดังกล่าว ระบุว่า ผู้ชมมีส่วนร่วมอย่างมากกับโฆษณาในช่วงระหว่างกิจกรรมออนไลน์แบบถ่ายทอดสด และช่วงพักโฆษณา และผู้ใช้จะมีส่วนร่วมอย่างจริงจังมากที่สุดเมื่อได้ชมโฆษณาวิดีโอบนแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน รายงานดังกล่าว ทาง อะโดบี ได้ทำการรวบรวมข้อมูลในช่วง 6 เดือน หลังของปี 2554 และได้จัดทำเป็นรายงานครึ่งปีโดยใช้กลุ่มตัวอย่างที่ไม่เปิดเผยชื่อสำหรับโฆษณา 2,500 ล้านชิ้นที่นำเสนอผ่าน Adobe Auditude ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดการโฆษณาวิดีโอ และการสร้างรายได้ของอะโดบี และเป็นองค์ประกอบหลักของ Project Primetime ของอะโดบี
รายงานนี้แสดงให้เห็นว่า การบริโภคโฆษณาวิดีโอออนไลน์ เริ่มที่จะคล้ายกับโฆษณาทางทีวีแบบเดิมๆ และเปิดโอกาสให้บริษัทสื่อสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับข้อมูลจากช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 จำนวนโฆษณาวิดีโอโดยเฉลี่ยต่อคอนเทนต์แบบยาวในระดับมืออาชีพเพิ่มสูงขึ้น และอัตราการรับชมเสร็จสมบูรณ์ (Completion Rate) สูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับโฆษณาในรูปแบบวิดีโอ
เจเรมี่ เฮลฟานด์ รองประธานฝ่ายระบบสร้างรายได้ของอะโดบี ระบุว่า ผลการวิจัยตลาดชี้ว่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้า จำนวนผู้ชมเนื้อหาวิดีโอทางออนไลน์อาจเพิ่มขึ้นถึง 50% และส่วนใหญ่จะรับชมวิดีโอบนอุปกรณ์เชื่อมต่อ เช่น แท็บเล็ต ไอพีทีวีและ สมาร์ทโฟน สำหรับเจ้าของคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ และบริษัทสื่อที่สำรวจตรวจสอบประสบการณ์โฆษณาออนไลน์ที่เหมือนกับทีวี ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งในการขยายงบประมาณด้านโฆษณาไปสู่ดิจิตอลวิดีโอเพิ่มมากขึ้น
เนื้อหาสำคัญในรายงานที่น่าสนใจ มีดังนี้ รูปแบบโฆษณาคั่นรายการยังคงได้รับความสนใจสูงสุด และมีประสิทธิภาพเหนือกว่าโฆษณาก่อนเข้ารายการหรือหลังจบรายการ โดยมีอัตราการรับชมเสร็จสมบูรณ์ (Completion Rate) สูงถึง 87% เหนือกว่าโฆษณาก่อนเข้ารายการเกือบ 30% และเทียบเท่ากับโฆษณาทางทีวีแบบเดิมๆ นั่นหมายความว่า ผู้ชมยินดีที่จะรับชมโฆษณาออนไลน์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับโฆษณาทางทีวี
ขณะที่อัตราการรับชมเสร็จสมบูรณ์บนอุปกรณ์พกพาสูงถึง 94% มากกว่าช่องทางอื่นๆ นั่นหมายความว่า ผู้ใช้อุปกรณ์พกพาสนใจโฆษณามากกว่า และเปิดกว้างที่จะรับชมโฆษณาขณะเดินทางเพื่อแลกเปลี่ยนกับคอนเทนต์ที่ตนเองต้องการทุกที่ทุกเวลา
คอนเทนต์แบบถ่ายทอดสด ยังคงมีอัตราการดึงดูดสูงสุดเมื่อเทียบกับคอนเทนต์วิดีโอออนดีมานด์ (video-on-demand - VOD) อัตราการรับชมเสร็จสมบูรณ์สำหรับโฆษณาวิดีโอในคอนเทนต์แบบถ่ายทอดสดแตะระดับ 85 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าเกือบหนึ่งในสี่ (23 เปอร์เซ็นต์) เมื่อเทียบกับโฆษณาภายในคอนเทนต์ VOD นั่นหมายความว่า ผู้ชมเข้าใจว่าตนเองอาจพลาดโอกาสที่จะดูรายการถ่ายทอดสด ดังนั้น จึงยินดีที่จะชมโฆษณาคั่นรายการจนจบ
ในคอนเทนต์รูปแบบยาวในระดับมืออาชีพ มีโฆษณาวิดีโอเฉลี่ย 5.5 ชิ้น และมีอัตราการรับชมเสร็จสมบูรณ์โดยเฉลี่ย 70% โดยผู้ชมยินดีที่จะดูโฆษณาเพิ่มเติมจนจบเพื่อแลกกับคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ โฆษณาในคอนเทนต์ระดับมืออาชีพมีอัตราการรับชมเสร็จสมบูรณ์สูงกว่า (76%) เมื่อเทียบกับคอนเทนต์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (user-generated content - UGC) ซึ่งมีอัตราการรับชมเสร็จสมบูรณ์อยู่ที่ 63% นั่นแสดงว่า คอนเทนต์ระดับมืออาชีพสามารถดึงดูดผู้ชมได้มากกว่า
และโฆษณาแบบซ้อนทับ (overlay ad) ยังคงถูกใช้งานสำหรับคอนเทนต์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น ขณะที่โฆษณาเชิงเส้น (linear ad) ถูกใช้งานสำหรับคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ
Company Related Link :
Adobe
NAB Show2012
ที่มา: manager.co.th