“สเตฟานี่” รับเลิก “พัตเตอร์” น้องชาย “แพนเค้ก” 4 เดือนแล้ว ปัดแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้มเหตุทำให้ลูกชายเสียคนไม่ยอมไปเรียนหนังสือ ถึงขั้นจับแยกส่งไปเรียนเมืองนอก ยันเลิกกันเองแม่พัตเตอร์ไม่เกี่ยว คบหาดูใจกันมาได้ 2 ปีกว่าๆ สำหรับคู่ของสาว “สเตฟานี เลอร์ช” นักแสดงจากค่ายโพลีพลัสและหนุ่ม “พัตเตอร์ ภัทรนันท์ จามิกรณ์” น้องชายของสาว “แพนเค้ก เขมนิจ” ที่ล่าสุดเม้าท์กันให้แซดว่าเจอประกาศิตคุณแม่ “หน่อย นวลนง” ให้แยกกัน เหตุสาวสเตฟานี่ทำหนุ่มพัตเตอร์เสียคน ไม่ยอมไปเรียนหนังสือ ถึงขั้นส่งหนุ่มพัตเตอร์ไปเรียนเมืองนอกเพื่อให้แยกกัน เพราะกลัวลูกชายจะเรียนไม่จบ
ล่าสุดสาวสเตฟานี่มาเดินแบบที่งาน ซุป’ตาร์ แชริตี้ ซัมเมอร์ บาย มังกี้เซิร์ฟ ที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ จึงสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว งานนี้สาวสเตฟานี่ยืนยันความสัมพันธ์เลิฟกับแม่หน่อยดี และไม่เคยพาพัตเตอร์โดดเรียนจนเสียคนตามที่มีข่าว
“เราไม่ได้ติดต่อกันเลยหลังจากเลิกกันไปประมาณ 4 เดือนกว่า อาจจะติดต่อกันยากนิดหน่อย เขาเรียนอยู่ น่าจะไปได้เดือนกว่าแล้ว เราเองก็เรียนเหมือนกัน เราคุยกันแล้วว่าเราจะเอายังไงกับชีวิตในวันข้างหน้า เราก็มาคุยกันว่าจะเอาแบบไหนถึงจะดีทั้งสองฝ่าย เขาก็เลือกไปเรียนก่อน รอเราพร้อมมากกว่านี้แล้วค่อยกลัวมาคุยกันได้อีกรอบนึง”
“ก็จบกันด้วยดีค่ะ เป็นเรื่องของเรามากกว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณแม่ของพัตเตอร์หรอกค่ะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ แต่ที่ผ่านมาก็ดูเสมอต้นเสมอปลายอยู่แล้วนะคะ คุณแม่เขาก็ไม่ได้มาห้ามนั่นห้ามนี่ อย่างที่เขาไปเรียนเมืองนอกนี่คิดว่าเป็นความคิดของเขาเองมากกว่าไม่ใช่เหมือนตามข่าว คนดีๆ เราก็ไม่อยากหยุดคุยด้วยหรอกค่ะ แต่เพื่ออนาคตของเราดีกว่า ตอนนี้ก็รักครอบครัวและเพื่อนที่สุดเลยค่ะ”
“ตอนนี้เราสนิทกันมากกับคุณแม่ เรารักกันดีค่ะ ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ยังไง เราเองไม่ทราบจริงๆ ที่ผ่านมาเราไม่เคยบังคับเรื่องเขาไปเรียนหรือไม่ไปเรียนรึเปล่า เขาเลือกเอง เราไม่ได้นัดกันโดดเรียนมาเที่ยวเล่นจนเขาเสียคนอย่างนั้นไม่มี”
“เรื่องเรียนยังไงก็ทิ้งไม่ได้ ก็จะบอกเขาว่าถ้าจะเจอมาเจอกันหลังเลิกเรียนดีกว่า ต่างคนต่างไปทำภารกิจของตัวเองให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาเจอกัน ถ้าจะทำแบบนั้นเราไม่เอา ไม่ชอบนะ เราเองก็รักคุณแม่หน่อยเหมือนเป็นแม่ของเราคนนึง คุณแม่ก็น่าจะเอ็นดูเด็กๆ อย่างเราอยู่แล้ว ก็งงค่ะ ไม่เข้าใจว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมา”
“ยืนยันเลยว่าเราไม่ได้เลิกกันเพราะคุณแม่ เพียงแต่เป้าหมายชีวิตเราไม่เหมือนกัน เราคุยเรื่องจะแยกกันมา 7-8 เดือนแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาแยกกัน ที่ผ่านมาเราก็พยายามปรับปรุงเข้าหากัน แต่มันไม่เวิร์ค ก็เลยตัดใจเพื่ออนาคตของเราทั้ง 2 คน ต่างคนต่างไปเรียนดีกว่า มีโอกาสเหมาะเราก็ยังกลับมาคุยกันใหม่ได้ แต่โอกาสจะกลับมาก็คงยากค่ะ”
ที่มา: manager.co.th