ทีโอที ชงโครงการขยายไว-ไฟ 4-5 หมื่นจุดใน 3 หมื่นโรงเรียนทั้งประเทศ งบ 8.5 พันล้านบาท รองรับโครงการแจกแท็บเล็ตรัฐบาล หากอนุมัติคาดแล้วเสร็จในเดือนต.ค.นี้ นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ทีโอที กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมาทีโอทีได้เข้าประชุมเชิงปฏิบัติการกับกระทรวงไอซีทีในการกำหนดทิศทางธุรกิจรวมไปถึงแนวทางความอยู่รอดหลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุด ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องดังกล่าวทีโอทียังได้ถือโอกาสเสนอแผนงานการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สาย (Wi-Fi) เพื่อรองรับการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนป.1
สำหรับแผนการขยาย Wi-Fi ที่ทีโอทีเสนอไปยังไอซีทีนั้นคาดว่าจะใช้งบในการลงทุนราว 8,500 ล้านบาท เพื่อติดตั้ง Wi-Fi จำนวน 40,000-50,000 จุด ใน 30,000 โรงเรียนทั่วประเทศโดยจะมีความเร็วขั้นต่ำ 6-10 เมกะบิตต่อวินาที
ทั้งนี้ตามกรอบการดำเนินงานดังกล่าว ทีโอทีจะดำเนินการติดตั้ง Wi-Fi ใน 700 โรงเรียน และให้บริการ Wi-Fi 800 จุดภายในเดือนพ.ค.ที่จะถึงนี้ และสามารถติดตั้งได้ตามแผนทั้งหมดในช่วงเปิดภาคการศึกษาที่ 2 หรือ ประมาณเดือนต.ค.นี้
'งบประมาณ 8,500 ล้านบาทนั้น ยังไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้าย เพียงแต่เป็นตัวเลขที่ตั้งไว้หากต้องลงทุนทั้งหมดตามแผน แต่สามารถปรับลดได้ตามความเหมาะสมและเนื่องจากเป็นโครงการเร่งด่วนหากใช้วิธีประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์หรืออีออกชั่นอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามแผนที่กำหนดว่าจะต้องเสร็จภายในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้' นายมนต์ชัย กล่าวว่าในส่วนของแหล่งเงินทุนจะมาจาก 2 ส่วน โดยทีโอทีคงต้องหารือกับกระทรวงไอซีที และคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่าทีโอทีจะสามารถนำโครงการไปหักจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) 4% ได้หรือไม่ และทีโอทีจะสามารถขอรับเงินสนับสนุนคณะกรรมการในการบริหารจัดการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) ได้หรือไม่ด้วย
ส่วนผลสรุปในการประชุมเชิงปฏิบัติการกับกระทรวงไอซีทีเพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อนตามนโยบายของกระทรวงไอซีทีนั้นในเบื้องต้น ทีโอทีพร้อมจะเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายหลัก (คอร์ เน็ตเวิร์ก)ของประเทศ และพร้อมสนับสนุนแนวทางการทำงานเพื่อผลักดันประเทศสู่ สมาร์ท ไทยแลนด์อย่างเต็มที่
แต่ทีโอทียังคงมีปัญหาเรื่องโครงสร้างองค์กรที่เป็นกังวลอยู่คือรูปแบบโครงสร้างการบริหารที่ใหญ่ไม่คล่องตัวตามสภาพการแข่งขันของตลาด ถึงแม้ที่ผ่านมาบอร์ดชุดก่อนมีการจ้างบริษัทเฮย์ กรุ๊ป เป็นที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลเข้ามาศึกษาวิเคราะห์ ทบทวนรูปแบบการบริหารแล้วก็ตาม ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้เสนอความเหมาะสมในการปรับลดสายงาน และกลุ่มธุรกิจจาก 12 สายงาน เหลือ 9 สายงาน
'การปรับลดสายงานดังกล่าวอาจอาจส่งผลต่อการจัดวางตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ในแต่ละสายงานด้วย อย่างไรก็ดีคาดว่าจะมีการหารือของบอร์ดอีกครั้งในช่วงหลังวันสงกรานต์เพื่อหาข้อยุติ'
Company Related Link :
TOT
ที่มา: manager.co.th