Author Topic: “ชาย ชาตโยดม” ขึ้นแท่น ผกก.วาดฝันอนาคตอยากเป็นผู้จัด  (Read 808 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ชาย ชาตโยดม” ขึ้นแท่นผู้กำกับละคร “ตะวันฉายในม่านเมฆ” บอกเป็นงานที่ยากแต่ท้าทาย วาดฝันอนาคตอยากเป็นผู้จัดละคร “วิกกี้ สุนิสา” ว่าที่ภรรยาให้กำลังใจเต็มที่
       
       เป็นนักแสดงโลดแล่นอยู่เบื้องหน้ามานานกว่า 10 ปี นักแสดงหนุ่ม “ชาย ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ” ได้รับโอกาสดีจากผู้จัดละคร “จิ๋ม มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” เปิดซิงขึ้นแท่นผู้กำกับละครครั้งแรก “ตะวันฉายในม่านเมฆ” ของผู้จัด “เจ็ท ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช” พร้อมจับนางเอกสาวหน้าหวาน “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” พลิกบทบาท ประกบคู่พระเอกคิวทอง “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ครั้งแรก ทำเอาเจ้าตัวเป็นปลื้ม ที่ทางผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เติบโตก้าวไปอีกขั้นในวงการ ยอมรับว่า เป็นงานใหม่ที่ยากท้าทายและกดดันมาก
       
       “เร็วๆ นี้ กำลังจะมีงานกำกับละครครับ เรื่อง ตะวันฉายในม่านเมฆ เป็นละครแนวโรแมนติกคอเมดี้ของ พี่เจ็ท ณัฐพงศ์ ลูกชาย อาจิ๋ม มยุรฉัตร ครับ เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง คือ ตะวันฉาย (นางเอก) ซึ่งเป็นนักเขียน แต่ว่าด้วยความเป็นคนที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน พอเขียนหนังสือส่งต้นฉบับไปแล้วก็ไม่ผ่าน เขาก็เลยบอกว่าให้ลองไปหาความรัก พอเข้าใจความรักเมื่อไหร่ก็จะเขียนได้ดี เขาก็เลยต้องมาเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง คือ ตัวพระเอกที่เคยมีความรักที่สวยงาม แต่ผิดหวังกับความรักมา เพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่เชื่อในความรักแล้ว คนหนึ่งที่ไม่เชื่อในความรัก กับอีกคนหนึ่งที่ไม่เคยได้เจอกับความรักมาก่อนมาเจอกัน ตอนแรกทั้งคู่ไม่ถูกกัน วิธีที่จะเข้ามาเจอกัน อยู่ใกล้กันได้ คือ นางเอกต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย เป็นพี่เลี้ยงของลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน แล้วก็เลยเกิดเรื่องราวอะไรต่างๆ ขึ้น”
       
       “จริงๆ เริ่มทำงานมาได้สักพักใหญ่แล้วเหมือนกัน ก็คือ ผมได้บทมาเกือบ 10 ตอนแล้วครับ ส่วนนักแสดงก็วางตัวครบแล้ว ตอนนี้นักแสดงที่จะต้องเล่นเป็นนักดนตรี ก็ไปเรียนดนตรี ไปเรียน กลอง เบส เปียโน อะไรกันอยู่ แล้วช่วงนี้ก็มีการเวิร์กชอปกันด้วยว่า จะได้เข้ากันได้เพื่อเมื่อเริ่มเวลาถ่ายจริงก็จะได้สนิทกัน”
       
       “พระเอกเป็น บอย ปกรณ์ และนางเอก คือ น้องแต้ว ณฐพร ที่เลือกสองคนนี้ จริงๆ ผมว่าโชคดีมากกว่าที่ได้สองคนนี้เข้ามาเพราะว่าคิวเขาแน่นมาก แล้วก็เป็นอีกคู่หนึ่งที่ยังไม่เคยเห็นเล่นด้วยกัน ปกติเราได้เห็นบอย ปกรณ์ กับ มาร์กี้ ราศี หรือกับใครก็แล้วแต่หลายคน แต่ว่ากับน้องแต้ว ยังไม่เคยมาคู่กับบอยเหมือนกัน ก็น่าจะเป็นอะไรใหม่ๆ ที่รู้สึกว่าอยากจะปรับคาแรกเตอร์ของเขาให้ดูมีอะไรมากกว่าที่เราเคยได้เห็นมาก่อนหน้านี้ เพราะน้องแต้วอาจจะดูเหมือนเรียบร้อย เราก็จะปรับเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่คนดูอาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อน”
       
       “นับว่าเป็นการกำกับละครเรื่องแรกเลยครับ อีกอย่างเราไม่เคยทำมาก่อน แล้วก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นยังไงด้วยซ้ำไป แต่รู้สึกว่ามันท้าทายดี และอยู่ในสายงานที่เรารักและชอบจริงๆ เพราะฉะนั้นมันน่าจะเป็นอะไรที่เราสามารถน่าจะเรียนรู้ได้ คือ ทุกคนที่อยู่รอบข้างทีมที่ทำด้วยกันเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือ พร้อมที่จะสอนอยู่แล้วครับ”
       
       “ยอมรับว่า การเป็นผู้กำกับยากมาก เหมือนตอนที่เรามาเล่นละครใหม่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แต่พอถึงเวลาเราก็เรียนรู้กับมันได้จนทำให้เรารู้สึกว่ารักตรงนี้มาก แต่ชายรู้สึกว่าพอมาเริ่มทำตรงนี้เหมือนกับเริ่มต้นใหม่เลย คือ ความรู้ความเข้าใจที่เรามีเกี่ยวการเป็นนักแสดง หรืออะไรมันก็ได้แค่ประมาณหนึ่งเท่านั้น แต่พอถึงเวลาเราต้องมารับอีกหน้าที่หนึ่งแล้วเหมือนเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นจะเรียกว่าท้าทายชายว่ามันเกินกว่านั้น ความกังวล ความตระหนก ความกลัว ที่ไม่ได้รู้สึกอย่างนี้มานานแล้วเหมือนกัน มันได้เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ที่จะต้องต่อสู้ฝ่าฟันกับเขาอีกเยอะ”
       
       มานั่งเป็นผู้กำกับแบบนี้ ว่าที่ภรรยา “วิกกี้ สุนิสา เจ็ท” ถึงจะไม่ได้ร่วมแสดง แต่ก็คอยให้กำลังใจ “ชาย” ว่า “อย่าเพิ่งท้อ ให้เดินหน้าสู้ต่อไป”
       
       “กี้เขาก็ให้กำลังใจเราตลอดครับ ชายจะเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ชายก็จะรู้สึกไม่แน่ใจว่าชายจะทำได้หรือเปล่าจะออกมาดีหรือเปล่า แต่กี้จะเป็นคนที่คอยบอกตลอดว่าต้องทำให้ได้ ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เขาเชื่อว่า ชายต้องทำได้ และอย่างน้อยที่สุด เราก็มีคนที่คอยอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจ คอยบอกเราอยู่ตลอดว่าอย่าเพิ่งท้อนะ”
       
       “จริงๆ ในอนาคตก็อยากจะทำงานตรงนี้ อยากจะเป็นผู้จัดอยากจะเป็นอะไรที่โตขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งก็บอกกี้เขาอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งที่เราทำก็ต้องทำด้วยกัน เพราะว่าอีกหน่อยในอนาคต ก็อยากจะให้ทำเป็นธุรกิจของครอบครัว คือทำเรื่องของละคร ส่วนจะชวนกี้เขามาเล่นด้วยไหม เรื่องนี้คงยังครับ คือ บอกเขาอยู่ตลอดว่า เขาเป็นคนที่มีมุมมองของเขาอยู่เหมือนกัน เพราะชายก็ให้กี้อ่านและดูบทให้ แล้วเขาจะคอยบอกด้วยว่า ควรจะปรับตรงไหนบ้าง กี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยก่อร่างสร้างตัวละครเรื่องนี้มาด้วยเหมือนกัน”
       
       ถึงจะผันตัวเองมาทำเบื้องหลัง แต่เบื้องหน้าการเป็นนักแสดงก็ยังไม่ทิ้ง เพราะเป็นสิ่งที่รักทั้งคู่
       “ตราบใดที่เขายังให้เล่นอยู่ก็จะเล่นครับ (หัวเราะ) และตอนนี้ชายก็ถ่ายละครมณีสวาทด้วยเหมือนกัน คือ จริงๆ อยากจะทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งให้ดีไปเลย แต่เรารักที่จะทำทั้งคู่คือการแสดงและการกำกับ การแสดงคือสิ่งที่ทำให้ชายมีความสุขที่สุดทุกครั้งที่ได้ทำงาน แต่ว่าการกำกับคืออะไรใหม่ๆ ที่รู้สึกว่าถ้าพลาดตรงนี้ไปเราจะเสียดายมาก”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)