“ชมพู่” ยันไม่ตั้งใจ โชว์หวอ งานมิสทิน ย้อนขาเม้าท์จำเป็นมั้ย! แจงชุดที่ตั้งใจใส่ตอนแรกไม่ใช่ชุดนี้ แต่ชุดไม่พอเลยต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ยันเซฟแล้ว พร้อมลั่นไม่ดูรูปเพราะไม่อยากคิดมาก บอก “น็อต” ยังไม่รู้แต่เชื่อแฟนเข้าใจเพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทำเอาอึ้งกันทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ หลังหลายวันก่อนนางเอกแถวหน้า “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” โชว์หวอในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ “มิสทิน” ที่เจ้าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทั้งที่ที่ผ่านมา เป็นที่รู้กันว่าชมพู่เป็นคนระวังตัวและไม่เคยพลาดเรื่องแบบนี้มาก่อน งานนี้ทำเอาเจ้าตัวโดนเม้าท์แหลกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุหรือเจ้าตัวตั้งใจให้เกิด ซึ่งชมพู่ได้ออกมายืนยันในงาน “Evita Peroni Autumn 2012 Fashion Show” ณ สยามสมาคม ถนนอโศก ว่าไม่ได้ตั้งใจ
“ไม่ได้ดูภาพเลย เพราะเสร็จจากงานนั้นก็ไปงานต่อที่ต่างจังหวัด แต่ก็มีคนมาเล่าให้ฟัง ก็คิดว่าไม่ดูดีกว่า มันผ่านมาสัปดาห์นึงแล้ว ก็นานแล้ว วันนั้นเซฟมาค่ะ พองานเมื่อเช้า(ช่วงเช้าวันเดียวกันชมพู่ไปงาน อุ่นใจได้แต้มปี 4 ของเอไอเอส)ลงมาแบ็คดรอปนักข่าวก็ถามกันเรื่องรูป ฮือฮากันใหญ่เลย เอารูปมาให้ชมดู ก็แล้วแต่จะคิดก็แล้วกันค่ะ”
“ปกติก็ระวังตัวที่สุดแล้ว นั่นก็ใส่กางเกงขาสั้นแล้ว จริงๆ งานในวันนั้นมันมีอะไรที่ฉุกละหุกหลายอย่าง ชุดที่จะใส่ในงานแถลงข่าวไม่พอ ชุดนั้นก็เป็นชุดที่เราแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากัน เราเองก็ไม่ได้เตรียมพร้อมมากับสถานการณ์นั้น แล้วชุดเองมันก็ไม่ได้แนบไปกับสะโพก ฉะนั้นเวลานั่งมันก็จะ...นะ ชมเองก็ลืมคิดตรงนี้ไป เพราะตอนแรกชุดที่ตั้งใจจะใส่มันเซฟ แต่พอมันเกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นก็เลยไม่ได้ใส่ชุดนั้น”
ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจโชว์ตามที่โดนเม้าท์?
“มันจำเป็นมั้ย แต่ก็จะทำไงได้ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็มองไปข้างหน้าดีกว่า เราก็เลือกที่จะไม่ดู ไม่รับรู้ เพราะถ้าดูแล้ววิตกก็อย่าดูเลย มันจบไปแล้ว เราทำอะไรไม่ได้ (น็อตว่าไงบ้าง?) เขาอยู่ต่างประเทศ ถ้าเขาเห็นเขาก็คงไม่ว่าอะไร เขาก็รู้อยู่แล้วว่าใครจะอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
ส่วนความคืบหน้าละครเวที “เรยา เดอะมิวสิคัล” ชมพู่เผยว่า.....
“ละครเวที เรยา เดอะมิวสิคัล ความคืบหน้าก็ตามที่อัพเดทไปล่าสุดค่ะ ชมน่าจะได้เริ่มซ้อมจริงๆ ก็คงพฤษภาคมไปแล้ว ตอนนี้รอเคลียร์คิวก่อน กับการเตรียมตัวชมก็คงต้องไปเรียนร้องเพลงเพิ่มเติมค่ะ แต่ว่าตอนนี้ยังติดถ่ายละครอยู่ แล้วก็หลังสงกรานต์มาเคลียร์ละครให้ได้ 2 เรื่องก่อน จากนั้นก็คงเริ่มเรียนร้องเพลงค่ะ”
“ไม่ใช่ละครเวทีเรื่องแรกค่ะ ชมเคยเล่นเมื่อหลายปีก่อนละครเวที แต่อันนี้เป็นมิวสิคัลเรื่องแรก ถามว่ากดดันไหมมันก็มีความท้าทายเยอะเหมือนกัน เพราะว่านักแสดงร่วมตัวอื่นๆ เป็นนักร้องที่มีระดับ จะคนละวงการกับเรา เป็นนักร้องคุณภาพแบบโอเปร่า ลักษณะนั้นเลย แล้วเราเป็นคนเดียวที่เรียกว่าเป็นดารา เราก็ไม่ได้มีพื้นฐานมากมาย เพราะฉะนั้นก็คงต้องสปีดตัวเอง ต้องพยายามทำให้เต็มความสามารถที่สุด”
ไม่กลัวถูกจับตามอง เพราะอย่างน้อยก็เป็นกระแสให้ละคร
“ก็อย่างที่บอก คือจริงๆ แล้วตามจุดประสงค์ของอาจารย์ถ่ายเถาและทีมผู้ผลิตทุกคน เขามีมาตราฐานมีภาพในใจ แล้วให้ออกมาค่อนข้างลักษณะบอรดเวย์ เพราะฉะนั้นจะมีการร้องเยอะพอสมควร นักแสดงอื่นๆ ที่เล่นเป็นนักร้องจริงๆ ชมถือว่าเราเองได้รับเกียรติมากที่เขาให้เกียรติเรา และโอกาสเราในการที่มาลองทำอะไรใหม่ๆ ที่มันท้าทายขนาดนี้ ถามว่าโดนจับตามองไหม ก็คงมีบ้าง แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง ชมว่าก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็เป็นกระแสให้ละคร ก็มาดูกันเยอะๆ แต่ว่าทำได้แค่ไหนก็พยายามเต็มที่อยู่แล้ว ตัวชมเองก็น้อมรับทุกคำติชม”
ปัดงานล้นมือจนมีผลกระทบกับธุรกิจที่เพิ่งเปิดใหม่
“ไม่มีหรอกค่ะ อันนั้นเราไม่ได้ทำคนเดียว เรามีทีม ก็จัดการเวลา ประชุมกันเท่านั้นเท่านี้ นัดเจอกันที่ไหนก็ได้ ยกหูหากัน โซเซียลเน็ตเวิร์ค ก็ทำได้ ถ้าทำคนเดียวก็คงไม่รอด แต่เรามีทีมที่โอเค เพื่อนๆ ในวงการก็ช่วยกันอุดหนุนหลายคนก็น่ารักดี”
บอกถึงจะทำงานเยอะแต่ความรักกับ “น็อต” ก็ไม่มีปัญหาเพราะว่างแล้วก็หาเวลาเจอหน้ากัน
“มันก็เป็นช่วงเวลาที่ต่างคนต่างต้องไปทำอะไรของเรา ชมว่าก็เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย คุณน็อตเองก็ยุ่ง แต่ว่าเอาเป็นว่ามีเวลาก็มาเจอกัน วันไหนเลิกเร็วก็โทรหา พี่อยู่ไหนน้องอยู่ไหน”
ส่วนกรณีที่ “ชมพู่” ปฏิเสธไม่ไปร่วมงาน “เกิด อวอร์ด” ของ “วู้ดดี้” ทั้งที่ซี้กันมาก เพราะไม่มีชื่อได้รับรางวัลนั้น ชมพู่เคลียร์ว่า...
“ชมติดงานที่เขาใหญ่ เราไปตั้งแต่วันพฤหัสฯ ก็ไปอยู่ 4 วัน อยู่ยาว ส่วนที่หลายคนมองว่าที่ปีนี้ชมไม่ไปร่วมงานเกิดอวอร์ด จริงๆ ปีก่อนๆ ชมไม่เคยได้เสนอชื่อชมก็ไปให้ตลอดเลย ก็ถ้าพูดอย่างนี้ก็น้อยใจเหมือนกัน เพราะว่าเราไปทีก็ตัดชุด เราก็จัดเต็ม ออกงานทีก็หลายตังค์ คือถ้าว่างชมก็ไปให้ทุกคน แต่ก็ไม่เป็นไร โอกาสหน้าฟ้าใหม่ ชมกับพี่วู้ดดี้ ชมเชื่อว่ายังมีอะไรที่สามารถทำด้วยกันได้ อาจจะไม่ใช้เฉพาะอันนี้ เราก็ร่วมงานยังเจอกันอีกได้ เพราะว่าเป็นเรื่องที่คุยได้”
ที่มา: manager.co.th