(ซ้าย) นายคาซึอากิ โอยา - (ขวา) นายธีรยุทธ หงษ์คณะนุเคราะห์ อัลไลด์ เทเลซิส ตั้งเป้าติด 1 ใน 3 ผู้นำตลาดเครือข่ายไทยภายใน 5 ปี นำโมเดลใหม่รายงานตรงสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่นมาปรับใช้เป็นที่แรกในอาเซียน หลังไทยเป็นตลาดที่โตสูงสุดในอาเซียน พร้อมทุ่ม 10 ล้านตั้งศูนย์สาธิตโซลูชันเครือข่ายแห่งที่ 3 ในโลก นายคาซึอากิ โอยา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการตลาด บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส โฮลดิ้ง และผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก กล่าวว่า แม้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐอเมริกาและยุโรป แต่ตลาดเอเซียแปซิฟิก มีสัญญาณการเติบโตที่ดี ในปีนี้บริษัทได้ปรับรูปแบบการทำตลาดใหม่ โดยหันมาให้ความสำคัญกับตลาดในภูมิภาคนี้มากขึ้น ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะมีรายได้จากภูมิภาคนี้ประมาณ 5% หรือประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ จากยอดรายได้รวมทั่วโลกประมาณ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้สำนักงานใหญ่มีนโยบายที่จะผลักดันตลาดระบบเครือข่ายในภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิก โดยเฉพาะไทยนั้นถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางด้านรายได้เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคนี้ โดยปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตถึง 50% จึงได้ปรับโมเดลการทำตลาดในภูมิภาคนี้ใหม่ โดยยกระดับสำนักงานตัวแทนขึ้นเป็นบริษัทฯ หรือสำนักงานสาขา รายงานตรงต่อสำนักใหญ่ที่ญี่ปุ่นแทนที่จะต้องรายงานไปยังสำนักงานที่สิงคโปร์ และยังได้ตั้งศูนย์สาธิตเทคโนโลยีในไทยและเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ด้วยเงินกว่า 10 ล้านบาท
นายธีรยุทธ หงษ์คณะนุเคราะห์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีการยกฐานะ ซึ่งจะมีการดำเนินการในรูปแบบนี้อีกในอินโดนีเซีย มาเลเชีย และเวียดนาม ภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ปรับช่องทางการทำตลาดจากเดิมที่มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ 3 ราย ลดเหลือเพียง 2 ราย คือบริษัท เอแวนท์กาด กับบริษัท ไนน์ ดิสทริบิวชั่น รวมไปถึงการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นซิสเต็มส์อินทริเกเตอร์หรือเอสไอเพิ่ม โดยตั้งเป้าปีนี้ไว้ว่า จะมีเอสไอที่ทำงานร่วมกับบริษัทประมาณ 30 รายจากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 10 ราย
ในส่วนตลาดหลักยังคงเป็นตลาดภาครัฐประมาณ 40% แต่บทบาทของตลาดผู้ประกอบการสัญชาติญี่ปุ่นและตลาดทางด้านสาธารณสุขจะมีบทบาทมากขึ้นจนเป็นตลาดหลักภายในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะมีการทำงานร่วมกับเอสไอที่ทำงานร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นในไทยมากขึ้น ส่วนตลาดสาธารณสุขก็จะนำโมเดลที่เคยทำในญี่ปุ่นที่เคยประสบความสำเร็จเมื่อ 3 ปีที่แล้วจากที่ไม่เคยมีส่วนแบ่งตลาดจนวันนี้สามารถสร้างรายได้ถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
'มูลค่าตลาดเครือข่ายในไทยปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 110 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,300 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 10% แต่สำหรับยอดขายของอัลไลด์ฯ ในไทยปีนี้คาดว่า จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 30%โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะขึ้นติดอันดับ 1 ใน 3 ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเครือข่ายให้ได้ภายใน 5 ปี จากที่เวลานี้มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5%เท่านั้น'
Company Related Link :
Allied Telesis
ที่มา: manager.co.th