Author Topic: ตลาดฮาร์ดแวร์ไม่เที่ยง? เดลล์ พร้อมรบ ซีเคียวริตี้  (Read 1446 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ไมเคิล เดลล์

     เดลล์ (Dell) หนึ่งในยักษ์ใหญ่ไอทีผู้คร่ำหวอดในวงการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ของโลก ประกาศพร้อมซื้อกิจการด้านเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์นามโซนิกวอลล์ (SonicWall) ย้ำแผนขยายธุรกิจออกนอกอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ที่เดลล์หยั่งรากลึกมานาน สู่อุตสาหกรรมรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างเต็มตัว
       
       รายงานจากวอลล์สตรีทเจอร์นอลระบุว่า เดลล์ไม่เปิดเผยมูลค่าการซื้อบริษัทโซนิกวอลล์ที่เกิดขึ้น แต่ข้อมูลวงในพบว่าเดลล์ยอมทุ่มเงินมากกว่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่รวมหนี้สินของโซนิกวอลล์แล้ว
       
       โซนิกวอลล์นั้นเป็นผู้พัฒนาโซลูชันการรักษาความปลอดภัยสำหรับการปกป้องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กรทั้งในรูปแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เช่น ระบบไฟล์วอลล์เพื่อป้องกันระบบจากภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ โดยปี 2010 กลุ่มทุนเอกชนโธมา บราโว (Thoma Bravo LLC) นั้นเข้าซื้อกิจการโซนิกวอลล์ด้วยเงิน 717 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ทำให้มูลค่าการซื้อโซนิกวอลล์ที่เชื่อกันว่าถึงหลัก 1.2 พันล้านเหรียญของเดลล์นั้นคิดเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้นมาก
       
       เบื้องต้น เดลล์เปิดเผยนโยบายที่วางไว้ในการบริหารโซนิกวอลล์ ว่าจะลุยทำตลาดเครื่องมือและโซลูชันรักษาความปลอดภัยเครือข่ายของโซนิกวอลล์ทั้งกับองค์กรขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยจะร่วมมือกับโซนิกวอลล์เพื่อนำเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยมายกระดับสินค้าอื่นๆ ที่เดลล์ทำตลาดอยู่
       
       การเข้าซื้อโซนิกวอลล์ครั้งนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการขยายฐานตลาดระบบคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์และพีซีที่เดลล์มี โดยค่อนข้างเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเดลล์จะรุกหนักในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ควบคู่กันไปมากขึ้น เนื่องจากข้อตกลงซื้อโซนิกวอลล์ที่เกิดขึ้นถือเป็นดีลที่ 2 ที่ดำเนินการโดยแผนกซอฟต์แวร์ของเดลล์ ซึ่งแผนกดังกล่าวเป็นแผนกเกิดใหม่ที่นำทีมโดยจอห์น สเวนสัน (John Swainson) อดีตซีอีโอบริษัทซีเอ (CA Inc.) ที่ถูกแต่งตั้งให้ดูแลทีมอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
       
       สเวนสันนั้นให้สัมภาษณ์วอลล์สตรีทเจอร์นอล ว่าธุรกิจรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์นั้นเติบโตเร็วและทำกำไรสูง โดยเชื่อว่าโซนิกวอลล์จะทำให้เดลล์มีเทคโนโลยีและทรัพยากรด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เหนือกว่าใคร
       
       ความคิดนี้ทำให้การซื้อโซนิกวอลล์สอดคล้องกับการซื้อกิจการที่ผ่านมาของเดลล์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเปลี่ยนแปลงบริษัทของซีอีโอไมเคิล เดลล์ (Michael Dell) ก่อนหน้านี้ ซีอีโอเดลล์เคยให้สัมภาษณ์ว่าเดลล์กำลังดำเนินนโยบายขยายสายผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วยการเข้าซื้อกิจการอนาคตไกล บนจุดประสงค์เพื่อขยายช่องทางรับกำไรของบริษัทให้หลากหลายขึ้น จนอาจจะสูงกว่ารายได้ในธุรกิจฮาร์ดแวร์พีซีในที่สุด
       
       "การซื้อกิจการของเรา จะสร้างกำไรที่มากกว่าธุรกิจพีซี" ตามเนื้อความที่ซีอีโอเดลล์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ซึ่งย้ำว่าเดลล์จะไม่ใช่ผู้ผลิตพีซีอย่างเดียวอีกต่อไป
       
       เบื้องต้น คาดว่าการเข้าซื้อโซนิกวอลล์ของเดลล์จะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 45 วัน โดยค่าใช้จ่ายจากการซื้อกิจการจะถูกรวมเข้าสู่งบการเงินของเดลล์ในไตรมาส 2 (ไตรมาสแรก ปีการเงิน 2012-2013 ของเดลล์จะสิ้นสุดในเดือนเมษายน) บนความหวังว่าโซนิกวอลล์จะสามารถสร้างรายได้ให้เดลล์ได้มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีการเงินนี้
       
       ในแถลงการณ์ เดลล์ระบุว่ารายได้รวมของโซนิกวอลล์ในปีล่าสุดนั้นมีมูลค่าราว 260 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นบริษัทที่ถือครองสิทธิบัตรเทคโนโลยีมากกว่า 139 เทคโนโลยี ปัจจุบันมีลูกค้าองค์กรมากกว่า 300,000 รายทั่วโลก มีพนักงานทั่วโลก 950 คน ผลิตภัณฑ์ของโซนิกวอลล์ได้แก่ ไฟร์วอลล์ประสิทธิภาพสูง, อุปกรณ์ VPN พร้อมความสามารถในการตรวจสอบและควบคุมแอปพลิเคชัน, ระบบคุ้มครองอีเมล์และการปกป้องข้อมูลอย่างต่อเนื่อง, บริการเสริมด้านการรักษาความปลอดภัย เช่น การป้องกันไวรัส การป้องกันการบุกรุก และการป้องกันสปายแวร์ รวมถึงระบบสำรองและกู้คืนข้อมูล
       
       นักวิเคราะห์มองความเคลื่อนไหวของเดลล์ในครั้งนี้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง โดยไบรอัน มาร์แชล (Brian Marshall) นักวิเคราะห์ของบริษัทไอเอสไอกรุ๊ป (ISI Group) ตั้งข้อสังเกตว่าด้วยมูลค่ารายได้รวมกว่า 6.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐของเดลล์ การซื้อโซนิกวอลล์จะยิ่งช่วยให้เดลล์มีรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นแน่นอนในระยะยาว แม้ว่าปัจจุบัน เดลล์จะยังได้รับผลกระทบจากพิษฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟขาดแคลนเพราะวิกฤติน้ำท่วมไทย จนทำให้กำไรของเดลล์ลดลงถึง 18% ก็ตาม
       
       นักลงทุนเห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเดลล์ จนทำให้มูลค่าหุ้นเดลล์เพิ่มขึ้นทันที 1.6% หลังการประกาศ โดยแตะระดับ 17.23 เหรียญที่ตลาดหุ้นแนสเดค คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 17% เมื่อเทียบจากมูลค่าหุ้นในปีที่ผ่านมา
       
       Company Related Link :
       Dell

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)