พอล เชอร์ราโน (ซ้าย) - โรเบอร์โต แกลบิอาติ (ขวา) นายพอล เซอร์ราโน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ริเวอร์เบด เทคโนโลยี กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัว 2 เทคโนโลยีและ 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบไอทีของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งถือเป็นการปฎิวัติแนวคิดระบบไอทีขององค์กรแบบเดิมๆ ที่มักจะมีการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ไว้ที่สำนักงานสาขา ทำให้ยากต่อการควบคุมดูแลตั้งแต่การบริหารจัดการ ขยายความจุสตอเรจ รวมไปถึงความปลอดภัย
ระบบโครงสร้างเซิร์ฟเวอร์เสมือนที่ทางปลายทาง (Edge Virtual Server Infrastructure) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ริเวอร์เบดพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องของการบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ตามสำนักงานสาขาขนาดไม่ใหญ่ประมาณ 200 ยูสเซอร์ โดยใช้ชื่อว่า Granite ภายในของ Granite ได้ติดตั้งซอฟต์แวร์เวอร์ชัวร์เดสก์ท้อปของวีเอ็มแวร์ไว้ทำให้เสมือนเป็นเซิร์ฟเวอร์จำลองประจำสาขาแทนที่จะต้องมีการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ไว้ที่สำนักงานจริง การดึงข้อมูลและทำงานทุกอย่างจะทำผ่านดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรแทน 'ฝ่ายไอทีขององค์กรสามารถควบคุมและบริหารจัดการสตอเรจ ความถึงความปลอดภัยได้ 100% รวมถึงยังลดต้นทุนด้านไอทีลงถึง 50%'
Steelhead Cloud Accelerator เป็นอีกเทคโนโลยีที่ริเวอร์เบดพัฒนาร่วมกับอากาไม ที่เป็นผู้นำตลาดแพลตฟอร์มสำหรับคลาวด์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการซอฟต์แวร์ในรูปแบบของเว็บแอปพลิเคชันหรือ Software-as-a-Service อย่าง Google Apps Salesforce.com และไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 365 บนคลาวด์คอมพิวติ้ง ทำให้สามารถเพิ่มความเร็วในการโอนข้อมูลและเร่งประสิทธิภาพของแอปฯได้ถึง 15-30%
จากการคาดการณ์ของฟอร์เรสเตจอร์ รีเสิร์ช ที่ระบุว่า ตลาดการให้บริการ Software-as-a-Service จะมีมูลค่าถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2560 จึงเป็นความท้าทายของริเบอร์เบดที่จะทำอย่างไรให้องค์กรที่ใช้บริการดังกล่าวก้าวข้ามปัญหาคอขวดของการใช้แอปฯบนคลาวด์ ซึ่ง Steelhead Cloud Accelerator คือคำตอบของปัญหา และเพื่อให้เทคโนโลยีใหม่ของริเวอร์เบดที่เปิดตัวทำงานได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ริเวอร์เบดจึงได้เสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล Steelhead เพิ่มอีก 2 กลุ่ม คือ Steelhead CX เข้ามาเสริมในเรื่องแบนด์วิดถ์และที่ตั้งของระบบ กับ Steelhead EX ที่ออกแบบมาให้รองรับกับการใช้งานในแบบเวอร์ชัวล์
นายโรเบอร์โต แกลบิอาติ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ริเวอร์เบด เทคโนโลยี กล่าวเสริมว่า แนวทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่จะขายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่เดิม 2 รายในปัจจุบัน และมีแผนที่จะเพิ่มอีก 1 รายในเร็วๆ นี้ โดยริเวอร์เบดจะผลักดันผลิตภัณฑ์เข้าตลาดในลักษณะของโซลูชันให้มากขึ้น ไม่มีผลิตภัณฑ์เดียวที่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยจะทำงานร่วมมือกับซิสเต็มส์อินทิเกเตอร์ (เอสไอ) ที่เวลานี้มีอยู่ 10 รายให้มากขึ้น ด้วยการสร้างฐานลูกค้ารายใหญ่ในประเทศไทยเพื่อใช้อ้างอิงถึงประสิทธิภาพโซลูชันของริเวอร์เบด
'ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่ก่อนแล้วเป็นหลัก ซึ่งตลาดเอเชียแปซิฟิกถือเป็นตลาดที่สำคัญของริเวอร์เบด โดยรายได้ประมาณ 20% ของริเวอร์เบดมาจากภูมิภาคนี้'
Company Related Link :
Riverbed
ที่มา: manager.co.th
