“หมวย” หอบใบฝากครรภ์เข้าให้ปากคำตำรวจสน.ลุมพินี พร้อมยืนยันคำเดิม “ฮาเวิร์ด” เป็นคนพาไปทำแท้ง รับน้อยใจฝ่ายชายหายหัว ตั้งแต่มีเรื่องไม่ยอมติดต่อแถมยังปล่อยให้ตนออกหน้าอยู่คนเดียว เจ้าตัวเผยเตรียมบวชชีหลังเคลียร์คดีนี้จบ ด้านตำรวจจ่อเรียกตัวฮาเวิร์ดมาสอบต่อ หลังจากครั้งก่อน “หมวย พิลาวรรณ อารีรอบ” สาวแม็กซิมปี 2010 เลื่อนการเข้าให้ปากคำกับตำรวจสน.ลุมพินี ในกรณีไปทำแท้งที่คลินิก ในซอยสุขุมวิท12 โดยอ้างว่าติดภารกิจไปต่างจังหวัดและสภาพจิตใจยังไม่พร้อม ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้(5 มีนาคม) เจ้าตัวได้หอบหลักฐานใบฝากครรภ์เข้าให้ปากคำกับตำรวจตามนัด โดยมี “สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง” หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เดินทางมาด้วย
ซึ่งในวันนี้เป็นที่สังเกตว่า หมวยมีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับออกตัวยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะตอนนี้สภาพจิตใจยังไม่ดี แต่ยอมรับสั้นๆ ว่ารู้สึกน้อยใจที่ ฮาเวิร์ด หวัง ปล่อยให้ตนเองรับภาระอยู่คนเดียว แถมตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ยอมติดต่อมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ แต่กระนั้นก็ไม่คิดจะแจ้งความเอาผิดอีกฝ่ายเพราะอยากให้จบๆ ไป พร้อมกับบอกว่า หลังจากจบเรื่องนี้แล้วตนเตรียมจะไปบวชชีพราหมณ์ แต่ยังไม่ได้วางแผนว่าจะเป็นเมื่อไหร่หรือที่ไหน เพราะอยากให้เคลียร์ปัญหาต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน
ด้าน สุเพ็ญศรี หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เผยว่า ทางมูลนิธิให้บริการทางด้านให้คำปรึกษา และดูแลสภาพจิตใจสิทธิสตรีอยู่แล้ว เมื่อทราบข่าวของหมวยจึงพยายามติดต่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งด้านทนายความที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคดี และขั้นตอนต่อไป ทางมูลนิธิจะมีนักสังคมสงเคราะห์เข้ามาช่วยดูแลสภาพจิตใจหมวยให้ดีขึ้น เพราะตอนนี้อีกฝ่ายยังมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่น่าเป็นห่วงอยู่
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าไปยัง พ.ต.ท.เดชา พรมสุวรรณ์ พงส.(สบ 3) สน.ลุมพินี ผู้ทำการสอบสวนคดีของหมวย ก็ได้รับการเปิดเผยว่า ในวันนี้หมวยได้นำหลักฐานใบฝากครรภ์กับทางโรงพยาบาลเปาโล สาขาสะพานควาย มามอบเป็นหลักฐาน และยอมรับว่าได้ทำแท้งจริง โดย ฮาเวิร์ด หวัง เป็นคนพาไป ส่วนขั้นตอนต่อไป ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนหมอที่โรงพยาบาลดังกล่าวว่าหมวยตั้งครรภ์จริงหรือไม่ และถ้าพบว่าเป็นเรื่องจริงก็จะเรียกตัวหมวยมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งการทำแท้งถือเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งหากมีความผิดผู้ทำแท้งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้สนับสนุนมีโทษ 2 ใน 3 และสถานที่รับทำแท้งมีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเรียกตัว “ฮาเวิร์ด หวัง” มาสอบสวนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ต้องรอให้ทำการสอบสวนและเคลียร์คดีทางฝั่งหมวยกับทางแพทย์โรงพยาบาลเปาโลเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะออกหมายเรียกตัวฮาเวิร์ดมาดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ที่มา: manager.co.th