“เอ ศุภชัย” ไม่โกรธ “พจน์ อานนท์” แฉดาราในสังกัด “เคน ภูภูมิ” เคยเป็นตัวประกอบหนังของตน แถมโชว์ภาพก่อนดังกับหลังดังว่าผ่านการศัลยกรรม บอกอยากทำอะไรก็ทำไปเพราะอยากเป็นนางเอกโดนรังแก กัดจะเอาภาพมาแฉอีกไหม ถ้าภาพไม่พอที่บ้านมีอีกจะเอามาให้ ยันหน้าเคนไม่ได้ลงมีดหมอแค่ฉีดวิตามินกับโบท็อกซ์ ส่วนดั้งโด่งเพราะเทคนิคการดัดฟัน เป็นเรื่องขึ้นมาอีกแล้วสำหรับ “พจน์ อานนท์” อานนท์ มิ่งขวัญตา นักปั้นและผู้กำกับชื่อดัง หลังออกมาเปิดเผยเรื่อง “เคน ภูภูมิ พงษ์ภาณุ” ดาราในสังกัดของนักปั้นมือทองแห่งยุค “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ว่าเคยเล่นหนังเป็นตัวประกอบของตนมาก่อน แต่ด้านเคนกลับแบ่งรับแบ่งสู้ว่าเคยเล่น นอกจากนั้นแล้วนักปั้นคนดังยังบอกอีกว่า เคยไปเจอเคนที่ห้างแห่งหนึ่ง พอเห็นว่าเป็นพจน์ อานนท์เท่านั้นแหละเคนก็วิ่งหนีไม่คิดชีวิต เรื่องดังกล่าวสร้างความแปลกใจให้กับพจน์ อานนท์ ว่าทำไมเคน ภูภูมิ ต้องทำเหมือนไม่เคยรู้จักกัน งานนี้ก็เลยเกิดการเอารูปภาพเคนสมัยที่พึ่งจะเล่นหนังกับพจน์ อานนท์มาโชว์ ซึ่งเป็นที่มาของข่าวเคนไปอัพหน้ามาใหม่ก่อนจะเข้าสังกัดของเอ ศุภชัย และอกตัญญูทำเป็นไม่รู้จักพจน์ อานนท์ ทั้งที่เคยให้โอกาสเล่นหนัง งานนี้ เอ ศุภชัย ก็เลยต้องออกโรงโต้แทนพระเอกในสังกัด
“ข่าวที่ออกมาว่าจะฟ้องพี่พจน์ อานนท์ ที่ออกมาแฉก็ไม่จริงนะ ตกใจหมดเลยเพิ่งกลับมาจากการเปิดร้านอาหารชื่อร้านสุขุมวิทที่เกาหลี แล้วก็มีคนโทรมาถามถึงเรื่องนี้กันเยอะ ก็คุยกับน้องมดดำ(คชาภา ตันเจริญ) และคุยกับหลายคนไปแล้ว ถามว่าโกรธไหมที่พี่พจน์ออกมาแฉ ก็ไม่ได้โกรธเลยนะ เพราะถ้าโกรธจะอยู่ถึงทุกวันนี้หรอ โดนทำร้ายมามากกว่านี้ยังไม่โกรธเลย ก็อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าเป็นบวกมากกว่า เป็นเรื่องสนุกสนานแล้วกันนะ เป็นเรื่องในละครก็ยังมีตบจูบ ถ้าเป็นชีวิตจริงจะมีอย่างนี้บ้างก็ไม่เป็นไร สนุกสนานดีครับ และยืนยันว่าจะไม่โต้ตอบเลย อยากโดนทำร้ายอย่างเดียวก็โอเคมีความสุขแล้ว จะได้เป็นนางเอก (ยิ้ม) อยากเป็นดาวพระศุกร์บ้าง ทุกวันนี้เป็นมาหยารัศมี (หัวเราะ)”
ยัน “เคน ภูภูมิ” ไม่ใช่คนอกตัญญู
“ทุกคนก็คงรู้มั้งครับ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด คนไทยเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคเขาฉลาดแล้วก็คิดได้ ทุกคนก็คงรู้ว่าอะไรคืออะไร แม้แต่พี่ๆ น้องๆ นักข่าว ก็คงจะรู้นะครับ และที่สำคัญเคนไม่ใช่คนลืมตัว เพราะน้องเคนน่ารักมาก เมื่อวานไปนั่งนับคนที่น้องมีบุญคุณอยู่ ก็มีทั้งหมด 499 คนก็ครบทุกคนนะครับ ไม่มีขาด แค่ไม่มีชื่อคนบางคนอยู่ก็แค่นั้นเองครับ ทุกคนเป็นแฟนคลับ แค่ชื่นชมผลงานก็ถือว่าทุกคนมีบุญคุณแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาให้อะไร”
“อย่างน้องเคนเราเคยเจอเขาครั้งแรก เราก็บอกกับทุกคนเลยว่า น้องเคยเล่นเป็นเอ็กซ์ตร้าเดินผ่านกล้องมาก่อน คืออาชีพพี่เอก่อนที่จะมาเป็นผู้จัดการดารา มันก็เลยเกิดประกายว่า ถ้าเราปั้นเอ็กซ์ตร้ามาเป็นซูเปอร์สตาร์ได้เราก็ไม่ธรรมดานะ ก็เคยถามเขาว่าเคยเล่นเอ็กซ์ตร้าของใครบ้าง เขาบอกก็เคยเล่นของหลายเจ้า หลังเลิกเรียนไปเล่น เดินผ่านแค่สองฉากก็ได้เงินกลับบ้านมา 6,000-7,000 บาท มันก็มีความสุขแล้วใช่ไหม สำหรับเด็กที่อายุ 16-17 ปี อย่างนี้ใช่เลย มีเรื่องราวถึงตอนนี้จริงๆ ก็เลยจับมาโมดิฟาย”
“ก็รู้ว่าการเป็นเอ็กซ์ตร้าโดนเหยียดหยามมาก การที่เราปั้นเอ็กซ์ตร้าคนหนึ่งเป็นซูเปอร์สตาร์ได้รู้ไหมว่ามันเป็นภูมิใจลึกๆ นะ ก็อยากให้ทุกคนรู้ว่าเคนเคยเป็นเอ็กซ์ตร้ามาก่อน แล้วตอนนี้มาเป็นซูเปอร์สตาร์แล้ว เป็นพระเอกแล้วมันก็เป็นความสุข ถือว่าน้องเคนเป็นคนที่เก่งสามารถข้ามขั้น ซึ่งมันยากมากเราสามารถทำให้คนที่คนไม่เคยมองเห็นความสำคัญ อย่างเพลงพลพลคนไม่สำคัญให้เป็นคนสำคัญได้ ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้ความกรุณาและให้โอกาสเด็กคนนี้ ส่วนถ้าจะขุดคุ้ยภาพเก่าขึ้นมาอีก ก็เชิญเลย ไม่เป็นไรที่บ้านมีอีกเอาไหมถ้ามีไม่พอ”
พอมีคนออกมาพูดแบบนี้ ก็เหมือนว่าพี่เอไปฉกเด็กคนอื่นมาอีกแล้ว
“พี่ว่าตอนนี้คนก็คงรู้ คำว่าฉกกับคำว่าปั้นเป็นซุปเปอร์สตาร์มันแยกกันออก แค่เขียนก็ต่างกันแล้ว ยืนยันนอนยันว่าไม่ได้ฉก แต่เอามาเจียระไน เดี๋ยวนี้ต้นทุนเดิมไม่พอแล้ว อยู่ที่เราต้องต่อยอด จะใช้วิธีไหนก็มีหลายวิธี”
“ส่วนที่ว่าพาน้องเคนไปโมดิฟาย ทำจมูกถึง 2 รอบด้วยนั้น ก็ไม่จริงครับ เราไม่มีปัญญาไปทำ 2 รอบขนาดนั้น แล้วเราก็ไม่ใช่คนโง่ด้วยที่ทำรอบเดียวแล้วไม่ผ่าน แต่บอกตรงๆ ว่า ถ้าศัลยกรรมของคุณหมายถึงมีดหมอไม่เคยลงมีดกับหน้าน้องเคนเลยนะ มากสุดก็แค่ให้วิตามินซี โดยการผ่านเข็มบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าโบท็อกซ์ทำแล้วสวยทำไปเลยที่จมูกเปลี่ยนไป เพราะเทคโนโลยีใหม่คือดัดฟันก็ช่วยให้รูปหน้าดีขึ้นด้วย”
ที่มา: manager.co.th
