นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานบอร์ด บริษัท ทีโอที นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานบอร์ด บริษัท ทีโอที กล่าวว่ากำลังดำเนินการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีบริษัท เอชพีเอ็ม อินโนมีเดียทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมเนื่องจากความเสียหายอันเกิดจากการเสียโอกาสทางธุรกิจที่เกิดจากข้อตกลงความร่วมมือให้บริการระบบข้อมูลภาพและเสียง (ไอพีทีวี) บนโครงข่ายโทรคมนาคมกับทีโอที ที่ส่งไปยังคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2554 และมีการส่งเอกสารเพิ่มเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2555
'ผมจำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพราะถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากที่ทำให้ทีโอทีเสียหาย และเกี่ยวพันกับธุรกิจในอนาคต โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้เท่าที่ทราบบริษัทยังร้องเรียนไปยังรมว.ไอซีทีด้วย' แหล่งข่าวจากกระทรวงไอซีทีกล่าวว่าตามเอกสารทั้งหมดที่เอชพีเอ็มร้องเรียนไปทำให้เห็นพฤติกรรมของผู้บริหารทีโอทีที่ใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างนอกระเบียบ จัดหาพัสดุ ไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐาน ไม่เชิญผู้เสนอราคาเข้าแข่งขัน และลัดขั้นตอนระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของทีโอที รวมทั้งยังมีการนำอุปกรณ์ IPTV เซ็ตท้อปบอกซ์ของเอชพีเอ็ม ไปโรดโชว์ แต่กลับจัดซื้ออุปกรณ์ของ UTStarcom ที่ไม่ได้คุณภาพเทียบเท่า
ในเอกสารร้องเรียนของเอชพีเอ็ม ได้ลำดับเหตุการณ์ไว้ว่า 1. เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทีโอทีส่วนกลางที่ดูแลเรื่องมัลติมีเดียพยายามหาระบบ IPTV พร้อมคอนเทนต์มาขายร่วมกับบริการบรอดแบนด์เพื่อจูงใจลูกค้าและเพื่อให้สามารถแข่งกับทรู หรือ 3BB ได้ โดยผู้รับผิดชอบโครงการ IPTV ชื่อ จันทนา เตชะสิรินุกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ตำแหน่งปัจจุบัน) แต่ไม่สามารถหาระบบที่มีประสิทธิภาพได้ ทำให้ทีโอทีต้องเปิดให้เอกชนที่มีประสบการณ์และคอนเทนต์ที่ถูกต้องของบริการ IPTV เสนอตัวเข้ามาทดสอบระบบ
2. ในเดือนต.ค.52 ส่วนภูมิภาคทีโอทีต้องการเสนอขายระบบ Fiber to the Home ให้โรงแรมและรีสอร์ท 5 ดาวที่หัวหิน ได้ติดต่อผู้ให้บริการ IPTV หลายรายมาทดสอบระบบ ซึ่งเอชพีเอ็ม ผ่านการทดสอบเพียงรายเดียว ที่ Ban Yan Resort Golf Club และได้ทำการทดสอบต่อเนื่องที่ Amata Nakorn รวมทั้งขอความร่วมมือโรดโชว์ IPTV ทั่วประเทศจากทีโอที จนแน่ใจว่าระบบของเอชพีเอ็มทำงานได้ดีกับเน็ตเวิร์กของทีโอที ทั้งภูมิภาคและนครหลวง
โดยภูมิภาคได้เตรียมเซ็นสัญญากับเอชพีเอ็ม เพื่อขายโครงการ Fiber 2U ที่มี IPTV ของเอชพีเอ็มอยู่ในระบบให้กับBan Yan Resort Golf Club ส่วนนครหลวงได้เซ็น MOU เพื่อให้บริการคอนเทนต์บน TOT IPTV ร่วมกับเอชพีเอ็ม
แต่ปรากฏว่า จันทนา เตชะนุกูล ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลการจัดซื้อจัดหาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของทีโอที ส่วนกลางทราบเรื่อง และไม่เห็นด้วยเพราะต้องการให้ส่วนกลางเป็นคนดำเนินการคัดเลือกและจัดซื้อจัดหาผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาขายในกิจการของทีโอทีเอง
3. จันทนา ได้เรียกเอชพีเอ็ม เข้าพบพร้อมแจ้งว่าต้องการให้นำ IPTV มาทดสอบที่ส่วนกลางที่ดูแลอยู่ เพื่อให้ภูมิภาคและนครหลวงมารับผลิตภัณฑ์ไปขาย และห้ามติดต่อโดยตรงกับเอชพีเอ็ม พร้อมทั้งให้เอชพีเอ็มเสนอราคาระบบทดสอบเพื่อการขายสมาชิก 1,000 รายเป็นระบบที่เรียกว่า Interim System มูลค่าของเซ็ตท้อปบอกซ์ 1,000 กล่องรวมเป็นเงิน 9 ล้านบาทและมีค่าสมาชิกรายเดือนๆละ 2 แสนบาท โดยทีโอทีจะทำการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษกับเอชพีเอ็ม ส่วนระบบที่รองรับสมาชิกแบบไม่จำกัดจำนวนั้น จะต้องเปิดประมูลทั่วไป
4. ต่อมาได้มีการส่งเรื่องจัดซื้อวิธีพิเศษของ IPTV Interim System ของเอชพีเอ็ม ให้ฝ่ายการเงินก่อนเสนอกรรมการผู้จัดการใหญ่อนุมัติในขั้นตอนต่อไป ซึ่งเอชพีเอ็มได้รับการยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งให้เตรียมจัดหาคอนเทนต์ไว้ล่วงหน้า แต่ปรากฎว่าเรื่องเงียบหายไปและเมื่อเอชพีเอ็มได้สอบถามไปยังทีโอทีก็ได้รับคำตอบว่า ได้ซื้อระบบ IPTV ยี่ห้อ UT Starcom พร้อมด้วยเซ็ตท้อปบอกซ์จำนวน 10,000 กล่องจากบริษัท Thaitronic โดยวิธีพิเศษเป็นเงิน 189 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว
โดยการจัดซื้อครั้งนี้ไม่ได้เรียกบริษัทที่เคยทดสอบระบบ IPTV แม้แต่รายเดียวรวมทั้งบริษัท เอชพีเอ็ม เข้าร่วมเสนอราคา แต่อาศัยอำนาจอนุมัติของกรรมการผู้จัดการใหญ่ในวงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท
5. เอชพีเอ็มได้เข้าพบกรรมการผู้จัดการใหญ่ในขณะนั้น เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะทีโอทีใช้ระบบ IPTV ของเอชพีเอ็มในการโรดโชว์ โดยเอชพีเอ็มต้องออกค่าใช้จ่ายเองรวมทั้งค่าใช้จ่ายเรื่องคอนเทนต์ต่างประเทศเพื่อเตรียมให้บริการตาม MOU ที่เซ็นไว้กับทีโอที ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่มีคำสั่งให้เยียวยาเอชพีเอ็มด้วยการซื้อบริการ IPTV จำนวน 1,000 พอร์ตมูลค่า 12 ล้านบาททันที แต่ไม่มีความคืบหน้า
6. ทีโอทีพยายามนำระบบของ UTStarcom ที่ซื้อไว้เองมาทดสอบแต่ไม่สามารถใช้งานได้และยังไม่สามารถรวบรวมคอนเทนต์ที่มีคุณภาพเทียบเท่าทรูหรือ 3BB มาให้บริการ IPTV ด้วยระบบที่ไม่ใช่ของเอชพีเอ็มได้ จึงกลับมาขอให้เอชพีเอ็มมาทดสอบระบบ IPTV ให้ลูกค้าบน FTTx อีกครั้งเช่นที่หมู่บ้านสัมมากร แลนด์แอนด์เฮ้าส์ The Coast Bangkok ซึ่งลูกค้าเหล่านั้นได้ซื้ออินเทอร์เน็ตและ IPTV ของทีโอที แต่ทีโอทีไม่สามารถให้บริการ IPTV ได้ ทำให้ลูกค้าจะหันไปใช้บริการของคู่แข่งทีโอทีแทน ซึ่งทีโอทีได้ประชุมกับเอชพีเอ็มอีกครั้งเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 53 เพื่อจะจัดซื้อจากเอชพีเอ็มอีกครั้ง แต่เรื่องก็เงียบหายไป
7. ขณะนี้ทีโอที เคลมว่า IPTV ของ UT Starcom สามารถทำงานบนเน็ตเวิร์กทีโอทีได้แล้ว และได้ติดตั้งที่หมู่บ้านสัมมากร 40 จุด แต่พบว่าเซ็ตท้อปบอกซ์มีปัญหามาก สามารถเปิดดูได้แค่ 4-5 ชม.ก็จะแฮงก์และไม่รองรับสัญญาณ HD ซึ่งลูกค้าไม่พอใจมากเพราะได้บริการไม่ตรงกับที่ทีโอทีนำเสนอไว้ก่อนการตกลงซื้อขายกับหมู่บ้านสัมมากร
8. ข้อมูลล่าสุด เนื่องจากปัญหาของ UTStarcom ที่ทีโอทีซื้อมา และขายไม่ออก มีเซ็นท้อปบอกซ์กองกว่า 9,000 กล่อง ทำให้ทีโอทีนำเซ็ตท้อปบอกซ์ที่จัดซื้อพิเศษมากว่า 100 ล้านบาท แจกให้กับพนักงานทีโอทีและผู้ซื้อบริการอินเทอร์เน็ตกับทีโอทีฟรี ส่วนคอนเทนต์ก็ใช้สัญญาณจากฟรีทีวี และทีวีดาวเทียมแบบ Free to air มาให้บริการแก้หน้าไปก่อน
9. ผู้บริหารทีโอทียังมีพฤติกรรม ฉ้อฉลกับเอชพีเอ็ม โดยก่อนที่ระบบทีโอทีซื้อมาจะทำงานได้ ได้ยืมเซ็ตท้อปบอกซ์ของบริษัทยี่ห้อ Amino IPTV Set Top Box จำนวนหนึ่งเพื่อไปทำการตลาดในการขาย IPTV โดยทำการติดตั้งกล่องของเอชพีเอ็มเพื่อทดสอบสัญญาณ IPTV ให้ลูกค้าหลายราย รวมทั้งติดตั้งให้ลูกค้าที่มาดูงานที่ทีโอที แต่เมื่อกล่องของทีโอทีทำงานได้ ถึงแม้จะต้องปรับปรุงอยู่เกือบปี แต่ทีโอทีก็ไม่ได้คืนกล่องของเอชพีเอ็มแต่อย่างใด
10. เอชพีเอ็ม ทราบภายหลังว่าเซ็ตท้อปบอกซ์ IPTV ยี่ห้อ UT Starcom ที่ทีโอทีจัดซื้อ 10,000 ชุดซื้อจากบริษัท คอมเมอชัล อะไลอันซ์ ซึ่งมีกรรมการในตอนนั้นชื่อนายธนวัฒน์ อัมพุนันท์ ที่ปัจจุบันเป็นกรรมการบอร์ดและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที โดยเอชพีเอ็มได้ส่งเอกสารนี้เพิ่มเติมไปยังคณะกรรมาธิการฯ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ของ UT Starcom เกิดขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของรจญ.ล. นายมรกต เธียรมนตรี และ ชจญ.ผ.นางสาวจันทนา เตชะศิรินุกูล
Company Related Link :
TOT
ที่มา: manager.co.th
Topic: แฉ บิ๊กทีโอที 'มรกต-จันทนา' ฉาวเอี่ยวกล่อง IPTV (Read 806 times)
August 06, 2010, 08:54:41 PM
