“แท่ง ศักดิ์สิทธิ์” น้อมรับเสียงวิจารณ์คนไม่เอา “เป็นข่าว” เรียก “เป็นต่อ” คืนจอ ขอเวลา 6 เดือนในการปรับตัว บอกทีมงานต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่อยากให้เปิดใจยอมรับ หลังซิทคอม “เป็นข่าว” ที่มาแทนช่วงเวลาของซิทคอม “เป็นต่อ” เพิ่งออนแอร์ไปได้เพียงแค่สองสัปดาห์ ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบกับเป็นต่อ บ้างก็ว่าไม่สนุกเท่าเป็นต่อทั้งที่ใช้ทีมงานเดียวกัน ด้าน “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง” นักแสดงนำซิทคอมเป็นข่าวเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า อยากให้แฟนละครเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ขอเวลาในการปรับตัว 6 เดือน
“เสียงวิพากษณ์วิจารณ์ก็มีทุกอย่างเลยครับ ทั้งชอบก็มีไม่ชอบก็มีนะ มีบางคนบอกว่าไม่เอาเป็นข่าวจะเอาเป็นต่อ อย่างเพื่อนผมที่เล่นกีฬาด้วยกัน ยังถามผมว่าไม่มีเป็นต่อแล้วหรอ เป็นต่อไปไหน ผมก็เลยบอกว่ามันจบไปแล้วนะเข้าใจไหม เข้าใจหน่อยว่าเป็นต่อจบไปแล้ว” (หัวเราะ) “ผมก็บอกเขาว่าให้เปิดใจหน่อย มันก็แค่พฤติกรรมที่เราเคยดูมันไม่คุ้นแค่นั้นเอง อยากให้ลองดูก่อนใจเย็นๆ พวกเราก็พยายามที่จะเอาใจทุกคน หากตรงไหนที่ไม่สนุกเราก็จะปรับเปลี่ยนหรือมีมุมมองเรื่องใหม่ๆ ให้ได้ดูกันเพื่อให้ประทับใจทุกคน แต่ก็ขอเวลานิดนะครับ เราขอโชว์หน่อยว่า เรากำลังจะทำอะไรใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ดูกันครับ”
“ถามว่าน้อยใจไหมกับที่แฟนละครไม่ชอบ ไม่เลยครับ แต่ถ้าเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ก็อาจะรู้สึก คือเราก็เล่นละครมาหลายเรื่องแล้ว อยู่ที่นี่มานานก็จะพยายามอธิบายด้วยความเข้าใจ แล้วก็เข้าใจคนดูด้วย เหมือนเราไปดูยังถามผู้กำกับเลยว่าพี่ถ้ามันเปลี่ยนไปเลยจะดีไหม แต่เมื่อเรามาสรุปรวมกันแล้วบนโต๊ะประชุมว่าเรากำลังจะทำอะไรใหม่ๆ ให้ได้สนุกและมีความสุขในแบบใหม่ๆ แล้วมีมุมอะไรที่ดีบ้างจากเรื่องนี้”
“ก็ต้องขอเวลาครับ ทุกอย่างเวลาทำอะไรมีอะไรใหม่ก็ต้องให้เห็นถึงเนื้องานที่มีคุณภาพจริงๆ จะเห็นความตั้งใจของทีมงาน การกำกับ มุมภาพ แสงสีเสียง ฉาก หรือว่าบทต่างๆ หรือว่านักแสดงที่มารวมตัวกันเยอะขนาดนี้ เราอยากขอเวลานิดให้ค่อยๆ ดูใจเย็นๆ ยังไม่ต้องคอมเม้นท์อะไรดูไปก่อน อีกสัก 6 เดือน เดี๋ยวค่อยมาคอมเม้นท์กันใหม่ละกันครับ (หัวเราะ)” จบเรื่องงานไปเรื่องส่วนตัวกันบ้าง “แท่ง” บอกว่ามีหมอดูทักว่าจะเจอเนื้อคู่เดือนพฤษภาคมนี้
“ก็เขาว่า (หัวเราะ) เขาว่าอีกแล้วเดือนพ.ค.นี้ ผมจะเจอใครสักคนหนึ่งเข้ามา ก็กำลังจับตารออยู่และนี่เป็นหมอดดูเจ้าที่สามที่สี่แล้วที่ทำนายแบบนี้มาตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้วแต่ก็ไม่เจอ และหลังจากที่ผ่านเหตุการณ์มาหลายครั้ง ตั้งแต่ทำสามหนุ่มวาไรตี้ มีหมอดูเหรียญ หมอดูเต่า หมอดูอะไรก็ตาม ตอนนั้นเชื่อนะ ดูแกแม่นนะทายเรื่องนั้นเรื่องนี้ เอาแล้วศักดิ์สิทธิ์มีคู่แล้ว พอผ่านมาสามเจ้าความมั่นใจเริ่มถดถอย แต่พอมาทายอีกเราก็ (หัวเราะ) โอเคได้เดี๋ยวรอดู แต่ตอนนี้ไม่เชื่อแล้วครับ คงยืนยันยากเรื่องนี้”
“แต่ตอนนี้ก็มีคุยกับสาวๆ บ้าง เราตามเหตุการณ์มากกว่า ส่วนตัวถ้าสนิทแบบคู่รักเลยยังไม่ถึงขนาดนั้น คุยเล่นๆ ไม่ถึงแบบว่าเราจะรักเขาแล้วเราจะต้องแต่งงานกับเขา เรื่องแต่งงานเมื่อเช้าแม่ก็ถามเหมือนกัน มีคนถามกันมาเยอะ ผมก็บอกว่าโลกจะแตกจะมีกันอีกหรอ จะพากันหนีไม่ทันนะ น้ำจะท่วมหรือเปล่ายังไม่รู้ เอาให้มันสงบก่อนดีกว่า เรื่องนี้ค่อยว่ากัน เพราะว่าตัวคนเดียวดูจะคล่องแคล่วกว่าจัดการได้ง่ายกว่า ก็ยังไม่ได้รีบจริงๆ เลยไม่รู้จะพูดยังไง”
ยอมรับว่า...บางครั้งก็เหงา แต่พยายามหากิจกรรมอะไรทำจะได้คลายความเหงา
“ก็เหงานะ แต่ก็มีแว๊บหนึ่งพยายามบอกว่าอย่านิ่งไปหาอะไรทำ ถ่ายละคร เล่นดนตรี ซ้อมร้องเพลง ไปตีกอล์ฟ ใส่กิจกรรมให้ตัวเองเข้าไว้ เรารู้สึกว่ามันอยู่ได้ แล้วพอดีเป็นผู้ชาย ผมว่าเรื่องราวอย่างนี้มันมีกิจกรรมรอบตัวของผู้ชายที่ทำได้ง่ายกว่าผู้หญิง ผู้หญิงนี่ยากเหมือนกัน เพราะว่าถ้าปล่อยโอกาสไปเรื่อยๆ จะลำบาก ผู้ชายยังมีทางไป แต่ผู้หญิงถ้าไม่รีบแต่งงานปล่อยไว้นานจะลำบาก”
ที่มา: manager.co.th
