มาร์ค ชอง ชิน ก็อก (คนที่ 2 จากขวา) - วิเชียร เมฆตระการ (ที่ 2 จากซ้าย ) - นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ (คนซ้าย) มาร์ค ชอง ชิน ก็อก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เอไอเอส ให้ข้อมูลว่า ปีนี้เอไอเอสเตรียมงบในการลงทุนขยายเน็ตเวิร์ก ทั้งในส่วนของบริการด้านเสียง และการให้บริการด้านดาต้า ทั้ง EDGE+ 3G และ Wi-Fi เพิ่มอีก 8 พันล้านบาท จากที่ผ่านมาลงทุนไปแล้วกว่า 1.7 แสนล้านบาท เพื่อให้รองรับการใช้งานของลูกค้า และแก้ไขปัญหาสายหลุดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
"ในส่วนของการให้บริการเครือข่าย 3G จะมีการขยายสถานีฐานเพิ่มขึ้นจาก 1,700 สถานีฐานในปัจจุบัน ให้กลายเป็น 3,500 สถานีฐาน ครอบคลุม 17 จังหวัด ภายในช่วงกลางปีนี้ และตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าที่ใช้บริการ 3G เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านราย จากปัจจุบัน 1.2 ล้านราย"
โดยทางเอไอเอสจะเน้นลงทุนตามความต้องการของผู้ใช้งาน ไม่ใช่การลงทุนแบบปูพรหมทั่วประเทศ เพราะ 3G จะเน้นที่คุณภาพมากกว่าพื้นที่ครอบคลุม ทำให้ต้องมีการลงทุนซ้ำในแต่ละพื้นที่ และเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะหมดไปภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า
วิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวถึงภาพรวมอุตสหกรรมโทรคมนาคมในปีนี้ว่า รายได้หลักยังมาจากบริการด้านเสียงที่คิดเป็นสัดส่วนราว 75% ในส่วนของดาต้าก็จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 25% โดยคาดการณ์ว่ารายได้รวมของเอไอเอสในปีนี้น่าจะอยู่ที่ราว 1 แสนล้านบาท จากตลาดรวมทั้งหมด 2.3 แสนล้านบาท แบ่งเป็นดีไวส์ราว 4 หมื่นล้านบาท และบริการเครือข่าย 1.9 แสนล้านบาท ขณะที่ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท และ 1.8 แสนล้านบาทตามลำดับ
"ปีนี้เอไอเอสเชื่อว่าอัตราการเติบโตในแง่ของจำนวนอุปกรณ์จะอยู่ที่ราว 10-15% ในขณะที่รายได้จากการให้บริการจะเติบโตราว 5-6% โดยมีโอกาสเติบโตจากทั้งโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติ โครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ที่ต้องใช้ระบบเครือข่ายเพื่อเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ต"
ปีที่ผ่านมาเอไอเอส มีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด 33.5 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5% ขณะจำนวนผู้ใช้งานโมบายดาต้าเพิ่มขึ้นจาก 7.5 ล้านคน เป็น 9 ล้านคน ส่วนในปีนี้ที่น่าจับตามองคือการเพิ่มจำนวนของสมาร์ทดีไวส์จาก 25% เป็น 47% หรือคิดเป็น 5 ล้านเครื่อง นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานการตลาด (คนซ้าย) กล่าวถึงการทำตลาดในปีนี้ว่าจะเน้นไปที่ 3 แกนหลัก คือการทำแบรนด์ จากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะรีแบรนด์ในช่วงการเกิด 3G 2100 MHz แต่แม้ว่าถึงปัจจุบันก็ยังไม่เกิด แต่เอไอเอสก็พร้อมที่จะเปลี่ยน บนแนวคิดที่ว่าอยู่ข้างลูกค้าไม่พอแต่ต้องเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า จากอยู่เคียงข้างคุณ มาเป็นชีวิตในแบบคุณ ตามผลวิจัยที่ออกมาว่าใครก็ตามที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า คือผู้ชนะในการตลาด
ถัดมาคือการนำนวัตกรรมเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้า ที่ผ่านมาเอไอเอสออกบริการที่เจาะกลุ่มลูกค้าแบบไมโครเซกเมนต์ ขณะที่ในปีนี้จะเน้นไปที่ การให้บริการในส่วนของคอนเทนต์มากขึ้น ทั้งการให้บริการหนังสือพิมพ์รายวัน บน AIS Bookstore การเปิดให้ดาวน์โหลดคอนเสิร์ตผ่าน AIS Music Store ที่จะทยอยให้บริการในช่วงเดือนมีนาคมนี้
สุดท้ายคือการให้ความสำคัญในแง่ของการให้บริการแก่ลูกค้าในหน้าร้าน เพราะผู้บริโภคต้องการความรู้มากขึ้นในการเลือกซื้อสมาร์ทดีไวส์ต่างๆ ขณะเดียวกันก็จะมีการเปิด Telewiz Plus ที่สามารถให้บริการลูกค้าในระดับเดียวกับ AIS Shop
Company Related Link :
AIS
ที่มา: manager.co.th
