Kindle Fire ฮิตติดลมบนไปแล้ว การสำรวจตลาดแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งล่าสุด พบว่าไอแพด (iPad) แท็บเล็ตยอดฮิตของแอปเปิลครองส่วนแบ่งตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์ลดลงต่อเนื่อง หล่นจาก 64% ในไตรมาส 3 มาเป็น 57% ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์เชื่อเป็นผลจาก 2 ปัจจัย ได้แก่การเปิดตลาดของคินเดิลไฟร์ (Kindle Fire) แท็บเล็ตราคาประหยัดจากอเมซอนที่สามารถครองใจผู้บริโภคในต่างประเทศจำนวนมาก และยอดขายถล่มทลายของไอโฟนโฟร์เอส (iPhone 4S) ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการไอแพดน้อยลง โรห์ดา อเล็กซานเดอร์ (Rhoda Alexander) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัยตลาดแท็บเล็ตและหน้าจอ บริษัทวิจัยไอเอชเอส (IHS) เปิดเผยว่ายอดจัดส่งไอแพดในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปี 2011 (ต.ค.-ธ.ค.) มีจำนวนราว 15.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาส 3 ก่อนหน้า แต่จำนวนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนตลาดเพียง 57% ถือว่ามาร์เก็ตแชร์ของไอแพดนั้นลดลงจากที่เคยมี 64% เมื่อปีที่แล้ว
'ยอดจัดส่งไอแพดนั้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ไอเอชเอสเคยประเมินไว้ เนื่องจากตัวเลือกแท็บเล็ตยี่ห้ออื่นในตลาด'
เฉพาะไตรมาส 4 ปี 2011 ผลการวิจัยพบว่าแท็บเล็ตอันดับ 1 ในตลาดโลกยังคงเป็นไอแพด ขณะที่คินเดิลไฟร์ครองอันดับ 2 ด้วยยอดจัดส่ง 3.9 ล้านเครื่อง ทำให้แท็บเล็ตจากอเมซอนครองส่วนแบ่งตลาดโลกถึง 14.3% ซึ่งนำหน้าซัมซุงที่สามารถทำยอดจำหน่ายแท็บเล็ตได้ 2.14 ล้านเครื่อง แม้จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ราว 16% แต่ก็สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้เพียง 8% จากที่เคยมี 11%
ปรากฏว่าแท็บเล็ตที่สามารถครองตลาดอันดับ 4 ของโลกคือ Nook แท็บเล็ตลูกผสมเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จากบาร์นส์แอนด์โนเบิล (Barnes & Noble) หรือ B&N มียอดจัดส่งตลอดไตรมาส 1.9 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 7% ขณะที่อันดับ 5 คือแท็บเล็ตจากอัสซุส (ASUS) ยอดส่ง 612,000 แสนเครื่อง ส่วนแบ่งตลาดราว 2%
สำหรับแท็บเล็ตรายอื่น การสำรวจพบว่ามียอดส่งรวมกันถึง 3.1 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 12% ซึ่งใกล้เคียงกับส่วนแบ่งตลาดที่คินเดิลไฟร์ ซึ่งเป็นแท็บเล็ตอันดับ 2 ของโลกทำได้ในไตรมาสดังกล่าว จุดนี้เองที่ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าผลิตภัณฑ์ที่ถูกยกให้เป็นทางเลือกนอกจากไอแพดนั้นยังไม่ใช่คินเดิลไฟร์ แต่เป็นไอโฟนที่เป็นคู่แข่งไอแพดเสียเอง
การศึกษาพบว่าไอโฟนโฟร์เอสคือผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคยกเป็นตัวเปรียบเทียบกับไอแพด โดยส่วนใหญ่ต้องการตัดสินใจเลือกซื้อระหว่างไอแพดและไอโฟนโฟร์เอส ซึ่งไม่ว่าจะคำตอบใดแอปเปิลก็รับทรัพย์เข้ากระเป๋าทั้ง 2 กรณี
อย่างไรก็ตาม การครองอันดับ 2 ในตลาดแท็บเล็ตโลกไตรมาส 4 ปี 2011 ของอเมซอนนั้นถือเป็นความสำเร็จที่งดงาม เนื่องจากอเมซอนใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์หลังแจ้งเกิดคินเดิลไฟร์ ก็สามารถแซงหน้าผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ได้อย่างสวยงาม
สำหรับทั้งปี 2011 การสำรวจพบว่ายอดจัดส่งไอแพดนั้นมีจำนวนราว 40.5 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 62% ลดลงจาก 87 % ซึ่งเคยมีในปี 2010 โดยซัมซุงยังสามารถครองอันดับ 2 ได้ด้วยยอดจัดส่ง 6.1 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดโลก 9% อันดับ 3 จึงเป็นอเมซอนที่จัดส่งคินเดิลไฟร์ได้ 3.8 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งตลาด 6%
อันดับ 4 คือบาร์นส์แอนด์โนเบิลที่จัดส่งแท็บเล็ตทั้งสิ้น 3.2 ล้านเครื่องตลอดปี 2011 สามารถทำส่วนแบ่งตลาด 5% ขณะที่อันดับ 5 คือยอดส่ง 2 ล้านเครื่องของอัสซุส ส่วนแบ่งตลาด 3% ส่วนบริษัทแบรนด์อื่นๆสามารถจัดส่งแท็บเล็ตได้มากกว่า 9.3 ล้านเครื่องตลอดปี คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 14%
ในภาพรวม ยอดจัดส่งแท็บเล็ตทั่วโลกตลอดปี 2011 ที่ผ่านมามีจำนวนทั้งสิ้น 65.2 ล้านเครื่อง มากกว่าที่ไอเอชเอสเคยคาดการณ์ไว้ที่ 64.7 ล้านเครื่อง
สำหรับปีนี้ การศึกษาพบว่าตลาดแท็บเล็ตปี 2012 จะมีการเปลี่ยนแปลงมากในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่คาดว่าไอแพดรุ่นใหม่หรือ iPad 3 จะถูกเปิดตัวด้วยหน้าจอ Retina ความละเอียด 2048x1536 ซึ่งสามารถรองรับซอฟต์แวร์โต้ตอบด้วยเสียงพูดหรือ Siri ได้ โดยปัจจัยที่จะมีส่วนเปลี่ยนแปลงตลาดอาจอยู่ที่แท็บเล็ตราคาประหยัด และแท็บเล็ตพันธุ์ใหม่ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่ใช้ชิป ARM ซึ่งไม่แน่นอนว่าจะเริ่มเปิดตลาดในช่วงปี 2012 หรือ 2013
Company Related Link :
IHS
ที่มา: manager.co.th