“บุ๋ม” กรี๊ดคนว่า “ติ๊งโน้ต” หน้าเหมือนคนขับรถ แจ้นพาเสริมหล่อ ด้านแฟนหนุ่มโวถ้าหล่อแล้วจะไม่ใส่แว่นออกงาน “บุ๋ม” สงสารคนว่า “ติ๊งโน้ต” หน้าเหมือนคนขับรถ แจ้นพาเสริมหล่อ ด้านติ๊งโน้ตโวถ้าหล่อแล้วจะไม่ใส่แว่นออกงาน โต้ย่องเงียบแต่งงาน แจงแค่พาพ่อกับแม่ไปงานวิวาห์ที่จ.ตรัง แต่ตนไม่ได้แต่งด้วย พร้อมเผยหักโหมฝึกกอล์ฟเพื่อหวังเอาชนะใจพ่อของสาวบุ๋มจนต้องเข้ารพ. ไปไหนมาไหนเป็นแพ็คเก็จคู่ตลอด สำหรับคู่รักต่างวัย “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” กับหวานใจหนุ่ม “ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร” แต่พักหลังสังเกตเห็นว่าหนุ่มติ๊งโน้ตดูหล่อเหลาเกลี้ยงเกาขึ้นกว่าเดิม เมื่อผู้เสื่อข่าวเอ่ยปากชมสาวบุ๋มก็เผยอย่างอารมณ์ดีทันทีว่า ตนพาแฟนหนุ่มไปเสริมหล่อ หลังจากถูกครหาควงคนขับรถ
บุ๋ม : “ก็พาเขาไปเสริมหล่อนิดนึง ที่ผ่านมาเขาโดนว่าเยอะ โดนว่าสิวบ้าง ว่าหน้าเหมือนคนขับรถบ้าง ก็สงสารเขา ก็เลยบอกให้เขาดูแลตัวเองบ้าง ก็พาเขาไปทำหล่ออย่างน้อยๆ ไม่ให้มีสิวขึ้นมา แล้วนักข่าวเอารูปไปวงแก้ม อันนี้โหดร้ายมาก คำต่างๆ นี่แรงมาก บุ๋มก็เห็นใจเขาไง ก็อยากให้เขาดูดีขึ้นบ้าง เขาจะได้รู้สึกดีกับตัวเอง ให้คนอื่นรู้สึกแฮปปี้กับเขา”
ติ๊งโน้ต : “ตอนนี้ก็เลยมีคลินิกที่มาดูแลช่วยจัดหน้าผมให้เนียนกว่าเดิม เดี๋ยวหล่อแล้วถอดแว่นโชว์เลยครับ ไม่มีปัญหา จริงๆ ที่ผมใส่แว่นเพราะคนจะได้จำผมง่ายๆ แล้วอีกอย่างก็กันเวลาแสงแฟลตเข้าตา ถ้าเราโดนเยอะๆ มันจะมีผลกับตาเวลาแข่งรถ สายตามันสำคัญมากกับการแข่งรถ”
บุ๋ม : “เขาไม่ได้ใส่แว่นอำพรางอะไร คือส่วนนึงเพราะว่าเขาเขินด้วย ไม่ค่อยมั่นใจตัวเอง”
ติ๊งโน้ต : “ตอนนี้ก็เริ่มจะพูดกับสื่อได้เยอะกว่าเดิมแล้ว รอหน้าเนียนมั่นใจมากกว่านี้ เดี๋ยวผมจะถอดแว่นโชว์ทีเดียวเลยครับ”
โต้แอบซุ่มเงียบแต่งงานกันแล้ว แจงแค่พาพ่อกับแม่ไปแต่งงานวิวาห์ใต้สมุทร เผยหักโหมฝึกกอล์ฟเพื่อชนะใจพ่อของสาว “บุ๋ม” จนต้องเข้าโรงพยาบาล
ติ๊งโน้ต : “อาทิตย์ที่ผ่านมาผมเพิ่งพาพ่อแม่ผมไปแต่งงานที่งานวิวาห์ใต้สมุทรจังหวัดตรัง เลยเป็นข่าวว่าเราแอบไปแต่งงานที่นั่นมา จริงๆ ไม่มีครับ ผมพาป๊าผมไปแต่งตัว แล้วคนที่นั่นเขาบอกให้ผมช่วยแต่งตัวให้พ่อผมหน่อย ผมก็เลยใส่บ้าง แล้วไปถ่ายรูปรดน้ำสังข์ มันก็เลยเป็นข่าว ก็ซ้อมไว้ก่อนครับ”
“ส่วนของผมตอนนี้ฝึกกอล์ฟมา 2 อาทิตย์จนปวดตัวไปหมดเลยครับ ต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอุตส่าห์ฝึกแทบตาย แล้วหนีออกจากโรงพยาบาลมาฝึกอีกปรากฏว่าตีไม่ได้ ทางโปรเขาบอกว่าเราหักโหมเกินไปครับ ตอนนี้ถ้าทุกอย่างลงตัวก็คงจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้แน่นอนครับ ผมคงเข้าไปคุยกับคุณพ่อให้ได้ก่อนแล้วค่อยให้ผู้ใหญ่ทางเราไปดำเนินเรื่องต่อ ผมอยากชนะใจด้วยตัวเองก่อน”
ที่มา: manager.co.th