พ.อ.นที ศุกลรัตน์
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในฐานประธานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) ว่าภายในปลายปี 55 นี้จะมีการทดลองออกอากาศการส่งสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ก่อนจะเปลี่ยนผ่านการส่งสัญญาณระบบอนาล็อกทั้งประเทศ ตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนผ่านจากทีวีระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิตอลในไทยจะมีการเปลี่ยนผ่านอย่างจริงจังภายใน 4 ปี และจะยุติการออกอากาศด้วยระบบอนาล็อกภายใน 10 ปี
นอกจากนี้ยังคาดว่าการทดลองระบบดิจิตอลในช่วงแรกจะใช้ช่องสัญญาณ UHF ที่ว่างอยู่ประมาณ 100 MHzจากที่ประเทศไทยมีอยู่ 200 MHz ซึ่งจะสามารถทำรายการในระบบดิจิตอลได้ 50 ช่องรายการ โดยไม่กระทบฟรีทีวีระบบอนาล็อกเดิม
'ทีวีระบบอนาล็อก 1 คลื่นสามารถส่งได้ 1 ช่องรายการ แต่ทีวีระบบดิจิตอล 1 คลื่นสามารถส่งได้ 5-20 ช่องรายการ ทำให้สามารถนำข่าวสารไปถึงประชาชนได้มากขึ้น'
ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีแรกประชาชนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองในการรับชมทีวีระบบดิจิตอล โดยต้องซื้อ settop box (กล่องปรับสัญญาณ) ซึ่งมีราคาประมาณ 1,500 บาทก่อนหลังจากนั้นในช่วงท้ายของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิตอลทางกสทช.จะเป็นผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ทั้งหมดที่ยังใช้โทรทัศน์ในระบบอนาล็อกเดิมอยู่ โดยจะนำเงินจาก การจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม Universal Service Obligation (USO) มาใช้
'คาดว่าในปีนี้จะเห็นทีวีดิจิตอลแน่นอน ส่วนจะเห็นการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่หรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้'
ขณะเดียวกันการที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบทีวีดิจิตอลนั้นเบื้องต้นกสทช.จะต้องมีการเปิดประมูลใบอนุญาตทั้งหมด 5 ประเภทคือใบอนุญาตผู้ประกอบการโครงสร้างพื้นฐาน, เน็ตเวิร์ก, คลื่นความถี่, ช่อง และแอปพลิเคชั่น สำหรับทำทีวีระบบดิจิตอล
'เราคาดว่าจะเห็นการประมูลใบอนุญาตผู้ประกอบการโครงสร้างพื้นฐาน และใบอนุญาตผู้ประกอบการเน็ตเวิร์กสำหรับระบบทีวีดิจิตอลภายในปีนี้แน่นอน'
พ.อ.นที กล่าวอีกว่า กระบวนการเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกไปสู่ดิจิตอลในประเทศอื่นๆมี 2 กระบวนการ คือ ASO (Analog Switch OFF) คือการยุติช่องอนาล็อก และDSO (Digital Switch ON) เป็นการเปิดให้บริการระบบดิจิตอลซึ่งต้องทำคู่กัน คือค่อยๆ ลดช่องที่ให้บริการระบบอนาล็อก และทยอยเปิดให้บริการช่องระบบดิจิตอล โดยในประเทศไทยคาดว่าจะสามารถใช้ควบคู่กันไปในทั้ง 2 กระบวนการเลยในครั้งเดียว
ปัจจุบันตลาดธุรกิจวิทยุโทรทัศน์ประเทศไทย มีฟรีทีวี 6 สถานี สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 200 สถานี เคเบิ้ลท้องถิ่น 500 สถานี เคเบิ้ลท้องถิ่นระดับชาติ 1 สถานี วิทยุ 600 สถานี และวิทยุชุมชน 6,000 สถานี โดยมีมูลค่าของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชนรวมกันประมาณ 1.5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ในวันที่ 16 ก.พ.กสทช.จะมีการประชุมนัดแรกของคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการปรับเปลี่ยนระบบการจัดส่งวิทยุกระจายเสีย และวิทยุโทรทัศน์ระบบดิจิตอล พร้อมแถลงแผนการดำเนินงาน(โรดแมป) ด้วย
Company Related Link :
กสทช.
ที่มา: manager.co.th
