"อเดล" เผยเตรียมวางไมค์ นาน 5 ปี หันไป ทุ่มเทความรัก ให้แฟนหนุ่ม

[Nick]

หลังจากที่ประกาศชัยชนะเป็นราชินีแกรมมีคว้ารางวัลรวดเดียวถึง 6 รางวัลในทุกสาขาที่มีชื่อเข้าชิง มาตอนนี้"อเดล"นักร้องสาวร่างอวบเผยว่าเตรียมวางไมค์ 5 ปีเพื่อนำเวลาไปทุ่มเทให้แฟนหนุ่ม
       
       อเดล นักร้องสาวเจ้าของเพลงแห่งปี Rolling in the Deep เผยว่าเธออยากใช้เวลาร่วมกับ ไซมอน โคเนคกี แฟนใหม่ของเธอให้มากๆ เพราะว่าเมื่ออดีตเธอให้ความสำคัญกับงานมากเกินไปทำให้เธอต้องอกหักน้ำตาเช็ดหัวเข่า
       
       และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการวางแผนถึงอนาคต เธอได้เผยกับนิตยสาร Vouge ว่า "ฉันกะว่าจะไสหัวออกจากวงการไปสัก4-5ปี ถ้าฉันยังคงเดินหน้าทำงานอยู่ ความสัมพันธ์ฉันคงล้มเหลวไปไม่รอด"
       
       "ดังนั้นอย่างน้อยตอนนี้ฉันมีเวลาพอที่จะเขียนเพลงที่บอกถึงความรักที่สมหวังมีความสุข แล้วก็มีความรักที่มีความสุขไปด้วย"
       
       "จากนั้นฉันก็ไม่รู้หรอกว่าฉันจะทำอะไร อาจจะแต่งงาน มีลูก แล้วก็ปลูกพืชผักสวนครัวงามๆมั้ง"
       
       นอกจากจะเผยถึงแผนการในอนาคตแล้ว เธอยังระบุด้วยว่าตนเองนั้นเป็นแฟนสาวที่ดีเพราะเธอชอบทำอาหาร อารมณ์ดีชอบหัวเราะและที่สำคัญเธอชื่นชอบเซ็กซ์
       
       "ฉันชอบอะไรที่น้ำเน่าหน่อยๆ มันเป็นอะไรที่ไม่ค่อยดีนะ ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ฉันไม่ได้เป็นโรคไบโพลาร์ประเภทเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายนะคะ แต่ฉันจะออกแนวแบบว่า 'โอ้ พระเจ้า ฉันรักคุณจริงๆ' จากนั้นก็สามารถเปลี่ยนเป็น 'ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลย!' ได้อย่างรวดเร็ว ฉันไม่เคยนั่งลงแล้วพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันใช้ความเงียบในการบำบัด"
       
       "พวกเขาก็จะ 'บอกผมสิว่าผมทำอะไรลงไป ผมจะได้ขอโทษ!' มีอะไรอีกเหรอ? ฉันเคยติดการดื่มนิดหน่อยด้วยค่ะ แต่ตอนนี้ฉันไม่ดื่มแล้ว"
       
       "สิ่งที่ดีๆของฉันคือ ฉันเป็นคนช่างเอาใจนะ ฉันจะสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อคนรักของฉัน ฉันทำอาหารเก่งค่ะ ฉันเป็นคนตลก แล้วฉันก็ต้องการเซ็กซ์ตลอดเวลาด้วย ดีออก สาวๆส่วนใหญ่ทำไม่ได้!"
       
       อเดล นักร้องสาวชาวอังกฤษเพิ่งจะหวนคืนไมค์อีกครั้งหลังจากที่เธอเข้ารับการผ่าตัดรักษาเส้นเสียง โดยเธอกลับมาขึ้นเวทีแสดงสดครั้งแรกในงานประกาศผลรางวัลแกรมมีที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่งงานนี้ไซมอนแฟนหนุ่มของเธอได้มาให้กำลังใจด้วย พร้อมกันนั้นเขายังช่วยให้เธอฟื้นตัวจากการผ่าตัดที่ผ่านมา
       
       "เขาวิเศษมากๆค่ะ เขาภูมิใจในตัวฉันมาก แต่เขาไม่เคยสนใจเลยว่าฉันทำอะไรหรือคนอื่นจะคิดยังไงกับฉัน เขาคอยดูแลฉัน ฉันไม่คิดว่าฉันจะสามารถผ่านช่วงการฟื้นตัวจากการผ่าตัดไปได้ถ้าไม่ใช่ทำเพื่อเขา"
       
ที่มา: manager.co.th