“อเล็กซ์” สุดปลื้ม ก้าวกระโดดได้ชิมลางเป็นผู้กำกับหนังดังสุดสัปดาห์ให้ช่อง3 บอกตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตัดต่อ ตื่นเต้นผลงานจ่อลงจอเดือน มี.ค.นี้ เผยปีนี้ก็จะเรียบจบแล้ว รับสนใจอาชีพผู้กำกับ แต่คงต้องเก็บประสบการณ์ให้แน่นกว่านี้ก่อน โอกาสหล่นทับได้นั่งแท่นเป็นผู้กำกับหนังสั้น ในหนังดังสุดสัปดาห์ของทางช่อง 3 เป็นครั้งแรก ทำเอานักแสดงหนุ่ม “อเล็กซ์ เรนเดลล์” ปลื้มเป็นพิเศษ ถึงกับออกปากติกอกติดใจ รับสนใจอาชีพนี้ แต่คงต้องเรียนรู้ฝึกปรือฝีมือของตัวเองให้เก่งขึ้นกว่านี้ก่อน
“ตอนนี้ผมถ่ายหนังเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ กำลังจะเข้าสู่ช่วงตัดต่อหนัง ผมถ่ายเสร็จ 5 วัน ก็รอเขาซิ้งค์ซาวด์ ซิ้งค์ภาพ เสร็จแล้วเราค่อยเข้าไปคุม พอเสร็จพร้อมก็ส่งเข้าช่องครับ ซึ่งในตอนถ่ายเราก็คุยกับผู้ช่วยแล้ว ว่าใช้ซีนไหนบ้าง เขาก็จะจดบันทึกไว้ แล้วเขาก็จะร้อยมาแล้วสเต็ปหนึ่ง จากนั้นเราก็เข้าไปคุมไปตรวจดู ว่าต้องปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้าง ซึ่งมันคงต้องเปลี่ยนเยอะ เพราะว่าการตัดต่อเป็นอะไรที่สำคัญ ส่วนวันออนแอร์น่าจะประมาณต้นมีนาคม”
“ก็รู้สึกตื่นเต้นครับ แต่สุดท้ายมันก็เป็นหนังดังวันอาทิตย์ ก็เป็นผลงานของผมอีกเรื่องหนึ่ง คือไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าเรื่องอื่นๆ ที่ทำ เพราะฉะนั้นผมก็แค่ดีใจที่ได้มาทำ ได้เอาสิ่งที่อยู่ในหัวเราออกมา เป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างพิเศษมากสำหรับตัวเรา โปรเจกต์ต่อไปยังไม่มีครับ แต่ก็มีผู้จัดแซวๆ ว่าให้รีบมานะ เพราะตอนนี้ผู้กำกับมีน้อย ผู้จัดมีเยอะ ละครเปิดเยอะ ถ้าเราเก็บประสบการณ์ตั้งแต่ตอนนี้ไป พอเราถึงอายุสักสามกว่าก็สามารถที่จะกำกับละครยาวๆ ได้ ซึ่งผมว่ามันจะยากกว่า”
เผยปีนี้ก็เรียนจบคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ภาคอินเตอร์) แล้ว แต่ยังไม่คิดผันตัวเองไปทำงานเบื้องหลังเพราะยังรักงานเบื้องหน้าอยู่
“ผมจบปีนี้ คือคงไม่ขนาดทิ้งเบื้องหน้าแล้วหันไปทำเบื้องหลัง จริงๆ สุดท้ายแล้วผมก็ยังสนุกกับงานแสดงละครและหนังมากกว่า ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่เราไม่ทิ้งแน่ๆ แต่การกำกับเป็นอีกแนวที่เราอยากจะทำ เราคิดว่าน่าจะเอาอะไรที่แปลกๆ ใหม่ๆ ไม่น่าจะเข้าใจยากขนาดนั้นมาให้คนดูได้ เพียงแต่ว่าเราต้องเรียนรู้กับประสบการณ์กับอุปกรณ์ กับทุกอย่างเพื่อเอาสิ่งที่อยู่ในหัวเราออกมาได้อย่างชัดเจน”
ปีนี้สาว “มิ้นท์ ชาลิดา” ที่ตกเป็นข่าวกิ๊กกันอยู่มีแพลนจะสอบเข้านิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เหมือนกัน จึงอดถามไม่ได้ว่าแล้วอย่างนี้จะอาสาเป็นติวเตอร์ให้หรือเปล่า? หนุ่มอเล็กซ์ก็บอกว่า…
“น้องเขาก็ปรึกษาเราอยู่ตลอด ตั้งแต่สอบแรกๆ แล้วครับ ว่าต้องสอบที่ไหนยังไงบ้าง คณะไหนยื่นยังไง คะแนนไหนที่ต้องใช้ยื่นจริง แต่ก็ไม่มีติวพิเศษให้ครับ ผมผ่านมาแล้ว ผมว่ามันยากนะครับ”
“การที่เราถูกจับคู่ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร คือจริงๆ แล้วมันก็ไม่มีใครมาเชียร์ให้เราได้ยินตลอดเวลา โดยมากก็จะเป็นแฟนคลับ ตามสื่อมากกว่า แต่คนที่อยู่รอบข้างเรา เขาก็รู้ว่าเราสนิทกันแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอมาเล่นละครด้วยกัน คนอาจจะชอบ แล้วก็เชียร์ มันก็เลยเป็นกระแสขึ้นมาครับ ผมเองก็ยังไม่มีใครเลยครับ ตั้งใจทำงาน ตั้งแต่ผมทำหนังเรื่องนี้มา ผมห่างไกลจากทุกอย่างประมาณ 2 เดือน คือคนที่ทำเบื้องหลัง โลกมันจะอยู่แค่ในจอเล็กๆ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเวลามาคุยกับใครตอนนี้ ไปขอเบอร์ไปจีบใคร”
“รอให้ผมเรียนจบก่อนดีกว่าครับ ผมว่าเรียนจบมันน่าจะพร้อมมากกว่านี้ ทำหนังก็จบไปแล้ว คือตอนเรียนก็ทำงาน ไม่ทำงานก็เรียนพอเรียนจบน่าจะวันๆ ก็ไม่ทำอะไรเลย คิดว่าเรียนจบคงมีเวลามากขึ้น ไม่ใช่ว่าเราเด็กอยู่ไม่อยากมีความรัก มันยังไม่มาจริงๆ ครับ เราก็ไม่ได้มีสเปคตายตัวอะไรขนาดนั้น ผมว่าเป็นคนที่แบบคุยกับเราได้เรื่อยๆ และรู้เรื่อง แล้วก็มีส่วนคล้ายกับเรา เคยคุยกับคนที่ไม่มีส่วนคล้ายกับเราแล้วมันก็ไปกันไม่ได้ครับ”
ที่มา: manager.co.th