นายกเอทีซีไอระบุ เอกชนไทยเข้าร่วมโครงการแจกแท็บเล็ตในส่วนคอนเทนต์ดีกว่า พร้อมจับมือสกอ.เสริมทัพความรู้ด้านแก็ดเจ็ตและแอปพลิเคชันปัญญาชน 10 สถาบัน ผ่านโครงการ Gadgets to U 2012 นายอดิเรก ปฏิทัศน์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย (เอทีซีไอ) กล่าวว่า โครงการ One Tablet Pc Per Child ที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศว่าจะทำการจัดซื้อจัดจ้างในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลนั้น ถือว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะให้นักเรียนไทยได้ใช้มีเดียใหม่ๆ ในการเรียนรู้ ซึ่งถือเป็นเทรนด์ของตลาด สิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญน่าจะเป็นเรื่องคอนเทนต์มากกว่า ซึ่งภาครัฐควรมีการกำหนดมาตรฐานว่า มีสัดส่วนอย่างไรระหว่างคอนเทนต์ดิจิตอลกับหนังสือเรียน ซึ่งถ้าหนังสือเรียนยังคงเหมือนเดิมการมีแท็บเล็ตก็ไม่มีประโยชน์อะไร รวมไปถึงการล็อกคอนเทนต์บางอย่างเช่น เกม เป็นต้น
'เรื่องการจะใช้ยี่ห้อใดบ้างนั้นไม่น่าจะสำคัญเท่าไรนัก โอกาสที่ผู้ประกอบการไอทีคนไทยจะเข้าร่วมในโครงการนี้น่าจะเป็นเรื่องบริการและคอนเทนต์มากกว่า ถึงจะอยู่รอด เป็นเพราะที่รู้กันว่า ฮาร์ดแวร์ มาร์จิ้นน้อยมาก เวลานี้บริษัทคนไทยที่มีความพร้อมทำอีบุ๊กเท่าที่เห็นสมาชิกในสมาคมฯ มีประมาณ 5 ราย'
เอทีซีไอ ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดงานแสดงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอบรมให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีสำหรับภาคการศึกษา ใช้ชื่อว่า Gadgets To U 2012 ภายใต้หัวข้อ Open the APPs World to maximize potential เพื่ออบรม เสริมสร้างความรู้ ทักษะและศักยภาพ การนำเสนอเทคโนโลยีด้านแก็ดเจ็ต พร้อมทั้งแอปพลิเคชันต่างๆ จากผู้ประกอบการและเจ้าของเทคโนโลยี พร้อมทั้งแสดง และสาธิตผลิตภัณฑ์ ผ่านกิจกรรมการจัดนิทรรศการ และการสัมมนาให้กับนักศึกษา เพื่อให้สามารถนำความรู้ต่างๆ ที่ได้รับจากประสบการณ์ทำงานจริงของหน่วยงานต่างๆ จากภาคเอกชนไปต่อยอดสู่การพัฒนา วิจัย รวมถึงผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆในการทำงาน
เอกชนที่เข้าร่วมในโครงการนี้ประกอบด้วย บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟว์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บริษัท เจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น มาร์เก็ตติ้ง บริษัท ไมโครสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (เอ็มเอสไอ) บริษัท ไดนามิก อินเตอร์เนชั่นแนล และ บริษัท แอ๊บโซลูทท์ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย)
โครงการนี้เกิดขึ้นภายใต้พันธกิจของเอทีซีไอเพื่อมุ่งพัฒนาการศึกษาของประเทศ และให้สอดคล้องแผนแม่บทไอซีทีของประเทศไทย เพื่อให้เมื่อนักศึกษาจบไปแล้วสามารถนำความรู้ในด้านไอทีไปประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจหรือภาคอุตสาหกรรมได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาที่ต่อยอดมากขึ้น เกิดการยกระดับและเพิ่มศักยภาพของประเทศ
Gadgets To U 2010 จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนก.พ.นี้เป็นต้น สถาบันการศึกษาที่โครงการนี้จะสัญจรไปมีทั้งหมด 10 สถาบัน ซึ่งคาดว่าจะมีเยาวชนกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงานกว่า 150,000 ราย
Company Related Link :
ATCI
ที่มา: manager.co.th