การสำรวจล่าสุดพบเฟซบุ๊ก (Facebook) เครือข่ายสังคมยักษ์ใหญ่สัญชาติเมริกันสามารถครองส่วนแบ่งตลาดโฆษณาออนไลน์ที่เป็นรูปภาพหรือดิสเพลย์แอด (display advertising) ในสหรัฐฯประจำปี 2011 ได้เพิ่มจาก 21% มาเป็น 27.9% ตอกย้ำฐานะผู้นำตลาดที่เหนือกว่าเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่รายอื่นใดอดีตอย่างชัดเจน ส่งผลให้ข่าวการเตรียมเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯและเสนอขายหุ้น IPO ของเฟซบุ๊กยิ่งคึกคัก จนถูกประเมินว่ามูลค่าหุ้นของเฟซบุ๊กอาจจะมีมูลค่าแตะ 1 แสนล้านสหรัฐฯได้ไม่ยาก แอนดรูว์ ลิปส์แมน (Andrew Lipsman) นักวิเคราะห์จากบริษัทคอมสกอร์ (comScore) ให้ข้อมูลว่าเฟซบุ๊กสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดดิสเพลย์แอดในสหรัฐฯจนครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หลังจากเฟซบุ๊กสามารถแซงหน้าอดีตยักษ์ใหญ่อย่างยาฮู (Yahoo) ได้ครั้งแรกในปี 2009 ก่อนที่เฟซบุ๊กจะมีส่วนแบ่งตลาดดิสเพลย์แอดมากกว่ายาฮู 2 เท่าตัวในปี 2010
เบ็ดเสร็จปี 2011 เฟซบุ๊กมีส่วนแบ่งตลาดดิสเพลย์แอด 27.9% เท่ากับมากกว่า 1 ใน 4 ของภาพโฆษณาออนไลน์นั้นถูกแสดงบนเฟซบุ๊ก ขณะที่ยาฮูครองส่วนแบ่งเพียง 11% (เพิ่มจากปี 2010 ที่ยาฮูมีอยู่ 10.9%) ทิ้งห่างกูเกิลและไมโครซอฟท์ที่มีส่วนแบ่งตลาดดิสเพลย์แอดในสหรัฐฯน้อยกว่า 5% เท่านั้น
รายงานส่วนแบ่งตลาดดิสเพลย์แอดของเฟซบุ๊กที่เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อข่าวลือเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์และการเสนอขายหุ้นครั้งแรกหรือไอพีโอ (initial public offering : IPO) ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเฟซบุ๊กอาจเริ่มขายไอพีโอตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ
เบื้องต้นนักสังเกตการณ์เชื่อว่ามูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กอาจสูงถึง 75,000-100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการงดงามของเฟซบุ๊กที่เชื่อว่าสามารถทำรายได้เกิน 3,800 ล้านเหรียญในปี 2011 แม้จะยังมีข้อกังขาว่านโยบายการเทเงินทุนขยายบุคลากรแบบก้าวกระโดดของมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ซีอีโอผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กจะส่งผลด้านลบต่อการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของเฟซบุ๊กในตลาดดิสเพลย์แอดอาจไม่สามารถเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จด้านการหารายได้ของเฟซบุ๊ก เนื่องจากปัจจุบัน ดิสเพลย์แอดหรือโฆษณาออนไลน์ที่เป็นภาพนั้นคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าโฆษณาออนไลน์ที่แสดงในรูปข้อความมากนัก ซึ่งโฆษณารูปแบบดังกล่าวมีกูเกิลเป็นเจ้าตลาดอันดับหนึ่งของโลก
การสำรวจตลาดเบื้องต้นพบว่าในปี 2010 แม้เฟซบุ๊กจะครองตลาดดิสเพลย์แอด 21% แต่ในตลาดรวม ส่วนแบ่งตลาดที่เฟซบุ๊กมีนั้นคิดเป็น 3.1% เท่านั้น ทำให้เฟซบุ๊กยังตามหลังยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิล ยาฮู และไมโครซอฟท์เช่นเดิม ท่ามกลางแนวโน้มสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เพิ่มจำนวนแตะระดับ 800 ล้านคนทั่วโลก
สถิติงบโฆษณาออนไลน์ในตลาดสหรัฐฯขณะนี้มีมูลค่าราว 40,000 ล้านเหรียญ หรือกว่า 1,260,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตสูงกว่า 20% ในปี 2010 โดยมูลค่าของการโฆษณาออนไลน์เริ่มแสดงแนวโน้มแซงหน้าสื่อสิ่งพิมพ์อย่างนิตยสารและหนังสือพิมพ์ต่อเนื่อง
Company Related Link :
Facebook
ที่มา: manager.co.th
