“หนุ่ม กรรชัย” รับกดดันถูกถามเรื่องแต่ง “เมย์” หลังแฟนสาวฝันได้อุ้มเด็ก แย้มส่วนตัวอยากมีลูกแล้วแต่ยังไม่พร้อมเพราะงานยังไม่ลงตัว พร้อมแจงคบกันมา 14 ปีเลยจุดที่จะแต่งงานกันแล้ว โอดตอนนี้สุขภาพย่ำแย่ จนตัดใจเลิกเหล้า-บุหรี่เด็ดขาด คิดอยากพักงานวงการรักษาตัว ลุ้นกันมาหลายปีแต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า สำหรับงานวิวาห์ของสาว “เมย์ เฟื่องอารมย์” และ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ที่ปีก่อนพลาดวิวาห์เพราะฝ่ายชายอยู่ในช่วงปีชง รวมไปถึงเรื่องของการมีคดีความ พอข้ามมาปีนี้สาวเมย์ได้ออกมาเผยว่าตนฝันว่าได้อุ้มเด็ก ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีเพราะตามคำทำนายฝันโบราณตีความว่าจะได้ลูก ทำเอาหลายคนเอาใจช่วยให้ฝันเป็นจริง ครั้นพอถามไปยัง หนุ่ม กรรชัย ก็เล่นเอาฝันค้างไปตามๆ กัน
“ตอนนี้แพลนยังไม่มีเลยเพราะกำลังทำงานอยู่ แต่ถ้าถามว่าผมอยากมีลูกมั้ย ผมก็อยากจะมี แต่มันก็คงจะต้องแต่งงานกันก่อน ณ วันนี้มันยังไม่ถึงวันที่เราจะต้องแต่งงานกัน นี่ก็มีคนมาถามเยอะหลายคนเหมือนกันเราก็กดดัน อย่างที่ผ่านมาเราก็จะพูดว่าปีหน้า คนเขาบอกกันว่ามึงก็ปีหน้าอย่างนี้ทุกปี พอปีนี้มึงก็ปีหน้าอีกแล้ว ก็เหมือนว่าเราปัดมาเรื่อยๆ มันเลยดูเหมือนว่าผมไม่อยากแต่งงาน แต่จริงแล้วมันไม่ใช่เลยนะครับ”
“ตอนนี้ผมไม่อยากจะพูดแล้วว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ เพราะพูดไปแล้วเดี๋ยวมันไม่ใช่อีก มันก็จะย้อนกลับมาหาเราแบบนี้อีกว่าอีกแล้วไง ผมกับเมย์เองคบกันมานานมาก 14 ปีแล้ว มันก็คงเลยจุดที่เราจะแต่งงานกันแล้ว อีกอย่างตอนนี้สุขภาพผมเองก็ไม่ดีเอามากๆ รวมถึงงานที่เข้ามาก็เลยยังไม่ได้คิดถึงเรื่องแต่งงานสักเท่าไหร่ คุณเมย์เขาก็คอยมาดูแล จริงๆ มันก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องแต่งงานกันแล้วหรอกครับ ถึงจะมาดูแลกันได้”
“อย่างปีที่แล้วปีชงผม ปีนี้ปีชงเมย์ก็เลยทำให้งานแต่งงานต้องเลื่อนออกไปอีก เอาเข้าจริงๆ แล้วปีชงอะไรมันก็ไม่ได้เกี่ยวกันหรอกครับ คือจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ติดที่อะไรหรอกนะ แต่คงต้องรอเวลาอีกสักแป๊บนึง ขอให้ทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทาง เรื่องงานการ เรื่องของบริษัทต่างๆ นานาช่วงที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้มันกำลังอีรุงตุงนังอยู่ ไหนจะเรื่องสุขภาพของผมที่แย่ด้วย ตอนนี้รายการยังจะถ่ายไม่ค่อยไหว แต่เราก็ยังจะต้องมาทำงาน”
เผยป่วยหนักเบื้องต้นหมอสันนิษฐานเป็นกรดไหลย้อน เปรยอยากพักงานเพื่อรักษาตัวให้ดี แต่เกรงใจบรรดาบริษัทที่ว่าจ้างตนอยู่
“ล่าสุดคาดว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อนแบบแรงหน่อย เหมือนมันมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอตลอดเวลา ทานอะไรเข้าไปประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็จะรู้สึกท้องอืด เหมือนจะอาเจียน เวียนหัวมาก ตอนนี้ก็มีแอบคิดว่าอยากจะพักงานสักพักเพื่อไปดูแลสุขภาพ แต่ก็ยังเป็นห่วงงานเพราะเหมือนรู้สึกเกรงใจบริษัทที่เรากำลังทำงานอยู่ เราหยุดไปมันก็ไม่ดี ยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เรารับงานเขามาแล้ว ก็ต้องทำให้ดีที่สุดจนกว่ามันจะไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องขออนุญาต แต่ตอนนี้ยังไงอยู่แต่มันก็กระท่อนกระแท่นแล้ว ทำไม่ได้มันก็จำเป็น ก็ต้องทำงานไป”
“ตอนนี้สุขภาพแย่ลงมาก เรียกว่านั่งนับวันกันเลย นี่ป่วยมา 17 วันแล้ว ตกใจมากเพราะเราไม่ได้เป็นขนาดนี้มาก่อน ไปหาหมอเขาก็ให้ยามาทานแต่ก็ยังไม่หาย ก็คิดว่าถ้ายังไม่มีอะไรดีขึ้นก็คงต้องไปส่องกล้อง จริงๆ ผมเองก็ไม่สบายมาตลอดที่ผ่านมา มีคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดสูง แต่เราก็พยายามดูแลอาหาร นี่ก็ลดลงไปเยอะแล้วเพราะเราพยายามควบคุมตัวเอง บุหรี่ก็เลิกสูบมาแล้ว 6 เดือน เหล้าก็ไม่ดื่มแล้วเพราะมันไม่ไหว พอมาเป็นกรดไหลย้อนก็ต้องเปลี่ยนชีวิตตัวเองอีก ตื่นมา 8.30 น. ก็ทานยา ทานผลไม้ เที่ยงกินข้าวทำงาน ตอนเย็นทานยา ระหว่างวันถ้ามันมีอะไรก็ต้องทานยาเพิ่มเข้าไปอีก แล้วก็ไม่ทานอะไรอีกแล้ว ก่อนนอนก็จะไม่กินอะไร เรียกว่าชีวิตช่วงนี้บัดซบมากอยู่แต่กับยา”
“แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าหลายๆ คนที่เขาเคยเตือนว่ากินแล้วอย่านอนเลยนะ หรือว่าพยายามทานอาหารแล้ว 3 ชั่วโมงค่อยนอน ตอนนี้เรารู้ถึงผลมันแล้วว่ามันเป็นอย่างนี้นี่เอง บอกเลยว่ากลัวนะ กลัวว่าเราจะเป็นโรคอะไรที่มันร้ายแรง ตอนนี้ก็เริ่มมีผลกระทบกันงานบ้างแล้ว เพราะมันมีอาการระหว่างทำงาน ก็พยายามบอกตัวเองว่ายังไงกูก็ไม่ตายหรอก”
ที่มา: manager.co.th