ทอร์สเทิร์น ไฮนส์ ซีอีโอริม (Research In Motion : RIM) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่คนใหม่ประกาศชัด จะเปิดตัวแท็บเล็ตเพลย์บุ๊กหรือ BlackBerry Playbook รุ่นรองรับเครือข่าย 4G LTE ในช่วงเดือนพ.ค.ปีนี้พร้อมชิปประมวลผล 1.5 GHz เบื้องต้นแจงนโยบายพร้อมลุยทำตลาดบีบีในกลุ่มคอนซูเมอร์ให้มากขึ้น บนจุดขายเรื่องการเป็นอุปกรณ์สำหรับทุกคนไม่เฉพาะคนทำงาน ทอร์สเทิร์น ไฮนส์ (Thorstern Heins) ซีอีโอริมให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่าบริษัทจะเริ่มเปิดตัวแท็บเล็ตเพลย์บุ๊กที่รองรับเครือข่ายข้อมูลไร้สายความเร็วสูง LTE ในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ โดยระบุว่ากำหนดการวางจำหน่ายแท็บเล็ตเพลย์บุ๊ก 4G ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้นั้นเป็นการเลื่อนจากกำหนดการเดิมคือปีที่ผ่านมา
ที่น่าสนใจคือคำกล่าวของซีอีโอริมนั้นสวนทางกับรายงานก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่าริมจะเปิดตัวแท็บเล็ตเพลย์บุ๊กที่รองรับเครือข่าย 3G ในช่วงปีหน้าหรือ 2013 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แน่นอนและตรงกันคือริมจะเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่สู่ตลาดในเร็ววันแน่นอน เนื่องจากริมได้ปรับลดราคาลงทั่วโลกเช่นเดียวกับประเทศไทยที่ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่อยู่ในระดับไม่ถึงหมื่นบาท
นอกจากการให้สัมภาษณ์ถึงเพลย์บุ๊ก ซีอีโอริมยังประกาศแผนบริหารบริษัทหลังได้รับตำแหน่งจาก 2 อดีตซีอีโอร่วมซึ่งนั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหารร่วมกันนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยซีอีโอไฮนส์ระบุว่าจะทำการตลาดบีบีและให้ความสำคัญกับตลาดผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้น ทั้งหมดนี้ริมเริ่มต้นด้วยการว่าจ้างประธานเจ้าหน้าที่การตลาดคนใหม่แล้ว เพื่อจะปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดใหม่ชนิดยกเครื่อง
ซีอีโอริมระบุว่าโฟกัสใหม่ที่คอนซูเมอร์จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของริมในอนาคต เนื่องจากในสหรัฐฯ แบล็กเบอรี่ยังมีภาพลักษณ์การเป็นอุปกรณ์สำหรับนักธุรกิจฝังแน่นอยู่ จุดนี้ซีอีโอริมเชื่อว่าตลาดคอนซูเมอร์ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จะสามารถเป็นฐานลูกค้ารายใหม่ให้ริมได้ดีกว่า
ตลาดใหญ่ที่ซีอีโอริมวางเป้าหมายไว้คือกลุ่มผู้ใช้ฟีเจอร์โฟนที่มีสัดส่วนมากกว่า 50-60% ทั่วโลก จุดนี้ริมมองว่าเป็นโอกาสงามที่จะทำให้กลุ่มตลาดดังกล่าวอัปเกรดมาใช้งานสมาร์ทโฟน ซึ่งจะทำให้กลยุทธ์ที่ริมตั้งชื่อให้ว่า “BlackBerry for everyone strategy” นั้นเป็นผลสำเร็จ
สื่อต่างประเทศรายงานว่าซีอีโอริมยืนยันถึงการเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ BlackBerry 10 OS และแท็บเล็ตรุ่นใหม่ซึ่งเชื่อว่าจะถูกทำตลาดในชื่อ PlayBook 2.0 (คนละรุ่นกับที่รองรับ 4G) จะถูกเปิดตัวในเดือนก.พ.นี้ จุดเด่นคือความสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ได้ ซึ่งคาดว่าจะสร้างจุดแข็งให้ริมสามารถยืนในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อย่างมั่นคง
นี่ถือเป็นการประกาศทิศทางการดำเนินงานครั้งแรกหลังจากไมค์ ลาซาริดิส (Mike Lazaridis) และจิม บาลซิลี (Jim Balsillie) ประกาศลงจากตำแหน่งซีอีโอร่วมมาเป็นประธานบริษัทร่วม แม้ทั้ง 2 จะให้เหตุผลว่าตัดสินใจลาตำแหน่งเพราะริมกำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ในปี 2012 แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าทั้งคู่ได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการริมที่ลดลงซึ่งส่งให้มูลค่าหุ้นริมดิ่งเหวอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับไฮนส์ที่ต้องแบกรับความคาดหวังของริมทั้งหมดไว้หลังขึ้นรับตำแหน่ง ได้กล่าวยกย่องการตัดสินใจของ 2 อดีตซีอีโอร่วมไว้ว่าทั้งคู่ได้พาริมก้าวกระโดดไปตั้งแต่ 18 เดือนที่แล้ว โดยระบุว่าการตัดสินใจซื้อบริษัท QNX เพื่อวางรากฐานแพลตฟอร์มการทำงานแบล็กเบอรี่ให้ริมเติบโตในช่วง 10 ปีนับจากนี้ เป็นการกระทำที่จะทำให้ริมกลับมายิ่งใหญ่อย่างสวยงามได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม บางสำนักข่าวตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจด้านกลยุทธ์ของซีอีโอคนใหม่อาจไม่โดนใจผู้ถือหุ้น ซึ่งคาดหวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในริมแบบพลิกฝ่ามือ โดยนโยบายที่ซีอีโอไฮนส์ประกาศมานั้นไม่มีแผนการขายธุรกิจหรือปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งนักลงทุนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าริมจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สามารถต่อสู้กับคู่แข่งในตลาดได้อีกครั้ง
ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ ระบุว่าสัดส่วนตลาดของแบล็กเบอรี่ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกนั้นอยู่ที่ 11% ลดลงจาก 21% ที่เคยทำได้ในช่วง 2 ปีที่แล้ว เฉพาะในสหรัฐฯ ยอดจำหน่ายแบล็กเบอรี่ลดลงถึง 45% ในไตรมาสที่ผ่านมา สวนทางกับตลาดเอเชียเช่นอินโดนีเซียและอินเดียที่มียอดจำหน่ายเติบโตเป็นพิเศษ
Company Related Link :
RIM
ที่มา: manager.co.th