“น้ำ รพีภัทร” ควง “มินตรา” สาวดัชชี่ฯรุ่นน้องเปิดตัวคบกัน ลั่นไม่เข็ดคบสาวดัชชี่ฯ บอกอยู่ที่ใจมากกว่า เจ้าตัวเผยไม่คาดหวังกับรักครั้งนี้แต่จะทำทุกวันให้ดี อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ที่เหลือปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ตั้งแต่เลิกรากับ “แนน ปิยะดา ตุรงคกุล” ก็ยังไม่เห็นหนุ่ม “น้ำ รพีภัทร เอกพันธุ์กุล” จะเปิดใจคบหาดูใจกับใครเป็นพิเศษ ล่าสุดดูเหมือนหัวใจของเจ้าตัวจะหายเหงาซะแล้ว หลังไปตกหลุมรักสาว “มินตรา ชนิศา เหลี่ยวไชยพันธุ์” ดัชชี่เกิร์ลปี 2009 รุ่นน้องสังกัดเดียวกัน ล่าสุดหนุ่มน้ำก็ควงมินตรามาเปิดตัวในงานแต่งงานของ “เขตต์ ฐานทัพ” แต่ผิดคิวกันนิดหน่อยทำให้ไม่ได้สัมภาษณ์คู่ งานนี้หนุ่มน้ำก็เลยต้องร่ายยาวคนเดียว
“สำหรับผมรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้หนี หรือไม่อยากให้สัมภาษณ์คู่กัน แต่พอดีว่าพี่ๆ เขาดึงให้น้องมินตราเข้าไปในงานก่อน ก็เลยพลาดกัน จริงๆ ผมก็โทรตามน้องเขาแล้วนะ แต่พอดีว่าข้างในพิธีใกล้เริ่มแล้วด้วย ก็เลยออกมาไม่ได้ครับ และที่ผมพาน้องออกงานก็ปกติครับ เราคบกัน ไม่ได้ปิดบังอะไร ไม่ได้เป็นการปูทางงานอีเว้นท์คู่กัน”
ถึงกับยิ้มแก้มปริเมื่อครอบครัวของสาว “มินตรา” ไฟเขียวให้ไปร่วมงานปาร์ตี้ฉลองที่สาวมินตรารับปริญญาที่บ้าน เผยซื้อผ้าพันคอให้เป็นของขวัญ
“ก็สนุกสนานดีครับ แล้วบรรยากาศก็มันดี เพราะว่าเลี้ยงกันที่บ้านของน้องเขา ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติๆ คนใกล้ชิด เพื่อนสนิท ก็เลยรู้จักกันหมด และผมก็ได้เจอคุณพ่อคุณแม่ของน้องแล้ว ท่านทั้งสองนิ่งๆ แล้วก็คุณป้ากับคุณน้า เขาก็น่ารักมาก แล้วก็ทุกคนในครอบครัว ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ คุณน้า คุณป้า ของเขาก็น่ารักหมด ให้การต้อนรับเราอย่างอบอุ่นดีครับ ส่วนของขวัญวันรับปริญญา ผมซื้อผ้าพันคอให้น้องเขา เพราะพอดีช่วงนั้นอากาศที่เชียงใหม่หนาว ก็เลยซื้อผ้าพันคอให้”
ไม่คาดหวังกับรักครั้งใหม่ บอกอยากค่อยเป็นค่อยไป ทำทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนที่หนีไม่พ้นคบสาวดัชชี่เกิร์ลอีกนั้นหนุ่มน้ำก็แจงว่า…
“รักครั้งนี้ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะ และไม่ได้คาดหวังอะไรมากจนเกินความเป็นจริงของปัจจุบัน แต่เราทำอะไรทุกอย่างแล้วอยู่ในสายตาผู้ใหญ่มากกว่า ก็คือโปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนเรื่องความเจ้าชู้อยากให้วัดจากปัจจุบันมากกว่า ส่วนที่รักครั้งนี้ก็กับสาวดัชชี่อีกนั้น จริงๆ ผมไม่ได้วางว่าต้องเป็นแบบไหน คือว่าอยู่ที่ช่วงจังหวะมากกว่านะ (เข็ดสาวดัชชี่ไหม?) ยิ่งไม่เกี่ยวกันเลย สำหรับตัวผมเอง คือผมเริ่มพร้อมที่จะดูแลใครสักคน เมื่อจิตใจพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ ก็เท่านั้นเองครับ”
“กับการแต่งงานก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ สำหรับผมเอง ต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวผมก่อน อีกอย่างน้องเขาเพิ่งจะรับปริญญา คนเพิ่งรับปริญญาเขาคงมีอะไรหลายอย่างที่อยากจะทำ ก็แล้วแต่เขาว่าเขาอยากทำอะไร ก็ให้อิสระเขาทำไปก่อน ซึ่งตัวเราเองก็มีหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ แล้วคงทำให้ดีไปก่อน อยากให้เขาตามความฝันในสิ่งที่เขาอยากทำก่อน แล้วก็ค่อยมาวางในเรื่องของอนาคตกัน เพราะตอนนี้เราก็ยังไม่ได้มองไกลขนาดนั้น แต่ทำทุกอย่างให้เป็นปัจจุบันที่ดี แล้วค่อยทำตามไปทีละสเต็ปดีกว่าครับ”
ที่มา: manager.co.th